"อาร์ต พศุตม์" เมินกระแสดราม่าสร้างภาพ ขอมุ่งทำความดี

ออกมาชี้แจงผ่านอินสตราแกรมหลังจากที่ร่วมกับแก๊งเพื่อนจิตอาสาขับรถมอเตอร์ไซค์รับส่งประชาชนที่สนามหลวง สำหรับอาร์ต - พศุตม์ แต่กลับมีบางคนมองว่าทำดีเพราะอยากดัง ซึ่งหนุ่มอาร์ตได้เปิดเผยว่า

“วันนี้ก็มาเป็นวินมอเตอร์ไซด์เหมือนเดิม วันนี้มีคนแก่เยอะครับมีคนสูงอายุเยอะ เราก็เลยคุยกับบริษัทว่าเราลองเอาสินค้าที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่มาแจกดีมั้ย ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่ได้เป็นการโฆษณาสินค้านะครับ หวังดีที่จะมาแจกจริงๆ”  

มีคนดราม่าเรื่องภาพลักษณ์?

“ผมว่ามีคนดราม่าอยู่ 5% ในโลกน่ะครับ ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าอะไรมันคืออะไรครับ”  

เห็นประชาชนยังคงเดินทางกันมาเยอะ?

“บางคนที่ผมไปส่งนะ บางคนมาแล้ว 8 วัน บางคนมาวันแรก บางคนมาวันที่สอง บางคนเขามาช่วยจิตอาสาแบบพวกผมจริงๆเลยครับ แล้วคนที่มา ประเทศไทยมี 70 ล้าน มาเกือบหมดแหล่ะแน่นอน ผมว่าอีกปีนึงคนก็ยังมาแบบนี้ทุกวัน ผมพยายามจะมาให้ได้ทุกวันครับ ถ้าวันไหนมีถ่ายละครแล้วเลิกดึกมากๆ หรือไม่ก็เลิกดึกแล้วอีกวันนึงไม่มีงานเช้าก็จะมา แต่ถ้าเกิดมีงานเช้าก็ไม่ไหวครับ สองวันที่แล้วหยุด วันนี้ไม่มีงานก็เลยมา พรุ่งนี้ว่าง วันนี้ก็อาจจะอยู่ดึกหน่อย”

ความสุขที่ได้จากการรับส่งคน?

“แค่คำง่ายๆคำเดียวเลย คำว่า ขอบคุณนะ ขอบใจนะ แค่นี้เอง มีความสุขแล้วครับ บาคนมียื่นเงินให้ด้วยนะ 100บาทค่าน้ำมัน เราก็ไม่เอาครับ คือเราบอกมาด้วยใจจริงๆ”  

ในฐานะที่เราเป็นจิตอาสาก็จะมีคนมองหลายมุม ในฐานะที่เราเป็นคนทำเราตั้งรับกับมันยังไง หรือเราเรียนรู้กับมันยังไง?

“ปล่อยวางครับว่าเขาอาจจะป่วยทางจิตก็ได้ เรียกเขาเป็นผู้ป่วยทางจิตดีกว่า อย่างที่ผมใส่แฮชแท็กประจำ ออกมาทำประโยชน์มีความสุขกว่าอยู่หลังคีย์บอร์ด แค่นั้นเอง เพราะบางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การทำดีคืออะไร บางทีเขาอาจจะคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันคือการทำดี เราควรเตือนเขา ถ้าเราเตือนเขาไม่ได้ก็ปล่อยเขาซะ ไม่ควรเก็บมาคิด มันทำให้เราท้อในการทำดี แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่า ผมมาขี่มอเตอร์ไซด์แล้วผมทำดี ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเราอยากทำ แล้วอีกกระแสหนึ่งก็คือทำไมพวกพี่ๆนักข่าวต้องมาทำข่าวดารา ทำไมไม่ทำข่าวปกติกันบ้าง ที่คุณดูอยู่ในทีวี คุณไม่ได้ดูดาราเหรอ ก็ฝากไว้อีกเรื่องหนึ่งครับ ดาราไม่ได้สร้างภาพทุกคน เพียงแต่เขาออกมาทำแล้วเป็นที่สนใจของประชาชน เขาเลยเหมือนจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคนออกมาทำ ตอนนี้ทุกคนที่ขี่มอเตอร์ไซด์จะโทรหาผมหมดว่า ขี่อยู่มั้ย ขี่อยู่ตรงไหน เดี๋ยวไปขี่ด้วย เขาเห็นเราในข่าว ถ้าเราบอกว่าประชาชนคนที่เดินถนนไม่ใช่ไม่ดี เขาเป็นคนดี แต่เพียงแต่ว่าประชาชนอาจจะสนใจเรามากกว่าเท่านั้นเอง”

เรื่องที่เราลงไอจี อาจจะใช้คำไม่สุภาพ?

“อ๋อ ใช่ครับ บังเอิญว่าอาจจะมีคนถามพอดีครับว่าตรงนี้เป็นที่คิววินดาราอยู่รึเปล่า ซึ่งเรามั่นใจว่าตรงนั้นมีเราคนเดียว แต่ผมก็ไม่มั่นใจนะ ผมไม่ได้อ่านข่าวว่าดาราที่ขี่มอเตอร์ไซด์มีกี่คน แต่ตรงนั้นมีผมคนเดียวแน่นอน แล้วผมก็ได้ยินคำนึงว่า ดารามันไม่รับหรอก มันเอาแต่ดัง คือตอนนั้นผมใส่หมวกกันน็อคอยู่ แล้วพี่คนที่ผมว่าไปเนี่ย เขาเห็นผมมา 6 วันแล้ว เรายังคุยกันอยู่เลย ช่วยกันโบกรถ เขาเห็นพวกผมทำ แต่มาพูดอย่างนี้มันไม่ถูก ไม่ใช่เราเป็นนักเลง เราไม่ได้ไปหาเรื่องเขา ถ้าผมไม่อยู่ตรงนั้นทุกคนจะคิดว่าผมเป็นยังไง”  

ตอนนั้นโกรธไหม?

“โกรธครับ พูดเลยครับ มีสัตว์เลื้อยคลานออกไปเยอะมาก คนพยายามห้ามผม ไม่ต้องห้ามผม ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่ ผมรู้ว่าผมมาทำอะไรให้พ่อ ผมรู้ว่าผมมาเพราะว่าเราเป็นจิตอาสา ผมไม่ใช่จะมาหาเรื่องใคร ผมแค่ต้องการให้เขาขอโทษผมต่อหน้าประชาชนแค่นั้นเอง เขาก็ขอโทษตรงนั้นเลยครับ”  

เราท้อไหม เจอแบบนี้เยอะๆ?

“ไม่ท้อครับ อย่างที่บอกครับ ผมเห็นเขาป่วยทางจิต หรือไม่เขาก็เรียกร้องความสนใจ ทุกคนมาใส่ใจผม ผมเป็นดารา ทำไมผมถึงมาขี่มอเตอร์ไซด์ ทำไมผมถึงมาเป็นจิตอาสา สร้างภาพเหรอ ตอนนี้มี 95%ในประเทศเรา ที่เห็นผมออกมาขี่มอเตอร์ไซด์แล้วบอกว่าอาร์ตเป็นคนดี มีไม่กี่เปอร์เซ็นที่อาร์ตสร้างภาพ อาร์ตจะทำได้กี่วัน จะทำได้โน่นนี่นั่น ผมว่า พันคอมเม้นท์จะมีสัก 2 คอมเม้นท์ที่มาบอกว่า ดาราคนนี้ไม่มีงานเหรอ รู้รึเปล่าว่าผมถ่ายละครกี่เรื่อง”

เราจะยืนหยัดจะทำตรงนี้ไปนานถึงเมื่อไหร่?

“ก็อย่างที่บอกไงครับ แฮชแท็กผมมีอันหนึ่ง แข่งกันทำความดีสร้างภาพ ไม่ท้อเลยครับ”  

จากนี้เราจะสามารถใจเย็นขึ้นได้?

“ไม่ใจเย็นเลยครับ อาร์ต พศุตม์ ไม่เคยใจเย็นอยู่แล้วครับ ถ้าได้ยินเต็มๆหู ผมบอกแล้วครับด่าให้ได้ยิน แล้วจะรู้ผมเป็นครยังไง เราไม่ใช่นักเลง เราต้องการเคลียร์เดี๋ยวนั้น ไม่ทำร้ายร่างกายใครแน่นอน แต่ต้องเคลียร์เดี๋ยวนั้น อย่ามานินทาลับหลัง ไม่ชอบ”  

พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ดาราหลายคนก็ไม่กล้าที่จะมาทำ อยากให้อาร์ตเป็นตัวแทนพูดให้มาทำแบบไม่ต้องกลัวคนจะมอง?

“ผมว่าดาราหลายคนเขาไม่สนใจหรอกครับเรื่องพวกนี้และเขาก็คงไม่บ้าระห่ำเหมือนผม เขาได้ยินก็คงจะปล่อยผ่าน นิสัยอย่างผมอาจจะบ้าก็ได้ แต่มันไม่ถูกอ่ะ เรามีจิตอาสาที่จะทำ แต่มาพูดแบบนี้เราไม่ชอบ ผมว่าดาราหลายคนอาจจะไม่ได้ซีเรียสกับตรงนี้มาก แต่ผมซีเรียสครับ”.