Line Mobile ใครได้ใครเสีย !!
กูรูวงการโทรคมไทย วิเคราะห์ Line Mobile หมากแยบยล กลยุทธ์ทุบหม้อข้าวตัวเองของดีแทค ในภาวะที่ผู้บริโภคยังมีคำถามกับโครงข่ายที่ถูกบีบด้วยข้อจำกัดของคลื่นความถี่ จะมีความสามารถเพียงพอรับมือกับปริมาณการใช้ของผู้คนที่ถูกกวาดต้อนเข้าระบบด้วยการหั่นราคาค่าบริการลง 50% มากน้อยแค่ไหน สุดท้ายเกมนี้มีแต่ Line ที่ดูเหมือนได้ประโยชน์สูงสุด
แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมไทย ให้ความเห็นว่าจากปรากฎการณ์การเปิดตัวซิม LINE Mobile ได้ก่อให้เกิดเสียงอื้ออึงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเสียงอื้ออึงเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นเสียงถามหาความถูกต้องในการประกอบการ จากทั้งหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง กสทช. จากฝั่งโอเปอเรเตอร์ที่เป็นคู่แข่ง
รวมถึงเสียงอื้ออึงที่ถามว่าจริงๆ แล้วใครอยู่เบื้องหลังการออกบริการนี้กันแน่ เพราะสร้างความสับสนจากลูกค้า เสียงเหล่านี้ดังจนกลบตัวบริการไปเลยว่า ราคาเป็นอย่างไร แพกเกจให้เล่นดาต้า เท่าไร จนสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าผู้อยู่เบื้องหลังการให้บริการ LINE Mobile ตัวจริงอย่างดีแทค ทนแรงกดดันของตลาดไม่ได้จนต้องออกมายอมรับว่า บริการ LINE Mobile จริงๆแล้วเป็นของดีแทคนี่เอง
พูดง่ายๆก็คือ LINE Mobile ก็คือโปรโมชันนึงของดีแทค ที่เพียงใช้ชื่อ LINE Mobile ในการทำตลาด และเป็นบริการที่สมัครผ่านออนไลน์เท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากดีแทคประกาศตัวออกมาก็ทำให้ความตื่นเต้นของตลาดหายไปพอสมควร
อย่างไรก็ดี หลังจากฝุ่นหายตลบยังมีประเด็นที่น่าติดตามอยู่อีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น การที่ดีแทคออกตัวว่า LINE Mobile เสมือนโปรโมชัน หนึ่งของดีแทค และมีการตัดราคาค่าบริการลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง จริงๆ ดีกับดีแทคเองจริงหรือ
มุมนึงดีแทคอาจจะมองว่าการใช้แบรนด์ LINE Mobile เจาะฐานลูกค้าของ LINE กว่า 40 ล้านคน และกลยุทธ์การตัดราคาน่าจะทำให้เกิดการเข้าตลาดอย่างรวดเร็วและเพิ่มจำนวนลูกค้า แต่คำถามคือ ถ้าลูกค้าดีแทคเองทราบว่าจริงๆ LINE Mobile คือดีแทค ใช้โครงข่ายเดียวกัน แต่ราคาถูกกว่าครึ่ง
แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ของดีแทค หันมาใช้ LINE Mobile กันหมด ดีแทคจะทำอย่างไรกับรายได้ที่อาจจะสูญเสียไปอย่างมหาศาล หรือแบนด์วิธของคลื่นความถี่จะสามารถรองรับการใช้งานที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากได้หรือ เพราะข้อจำกัดเรื่องความจุเครือข่ายก็อยู่เท่าเดิม
โดยเฉพาะคลื่น 2300MHz ที่ดีแทคชนะการประมูลกับทีโอที และหวังว่าจะเอามาเพิ่มความจุเครือข่าย ก็ถูกทักท้วงจากทาง กสทช. ในแง่คุณสมบัติของคลื่นจนในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถนำคลื่นดังกล่าวมาให้บริการได้แต่อย่างใด
ท้ายที่สุดแล้วจะก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพการให้บริการหรือไม่ก็เป็นคำถามข้อใหญ่ที่สร้างข้อสงสัย คำถามก็คือ LINE Mobile จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับดีแทคจริงหรือ หรือว่าจะเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองก็ยังเป็นคำถามที่น่าติดตาม
ขณะเดียวกันคู่แข่งรายใหญ่อีก 2 รายก็คงจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง กสทช. หลังจากที่ดีแทคออกมาแถลงก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นการทำ Promotion ร่วมระหว่างดีแทค กับ LINE
ทั้งหลายทั้งปวง ดูเหมือนคนที่ได้ประโยชน์ในกรณีนี้ที่สุดก็คือ LINE เสมือนการอยู่บนภู ดูหมูกัดกัน ได้ประโยชน์จากรายได้ที่ได้จากการทำเป็นพันธมิตร ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์อย่างเต็มที่ เข้าตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์ ได้โดยไม่ต้องถูกกำกับดูแล
ไปจนถึงการที่ LINE อาจสามารถเข้าถึงรูปแบบการใช้บริกาดาต้า ที่น่าจะเป็นข้อมูลที่มีมูลค่ามหาศาลในการไปต่อยอดธุรกิจ OTT ของ LINE เอง ส่วนด้าโอเปอเรเตอร์ ที่ต้องใช้เงินประมูลคลื่นความถี่และสร้างโครงข่ายมูลค่ามหาศาลก็คงต้องบอกอย่างเดียวล่ะว่า คงต้องตัวใครตัวมันล่ะทีนี้