ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ “เซ็กส์” ที่โคตรแปลก แต่ก็ดันมีคนเชื่อจริงๆ
1. การแข็งตัวของอวัยวะเพศ เกิดจากท้องอืด ...
ย้อนกลับไปในยุคจักรวรรดิโรมัน เราก็ไม่รู้หรอกว่าคนยุคนั้นเขามีเซ็กส์กันที่ไหน หรือคุมกำเนิดอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอจะรู้คือ นักฟิสิกส์ชาวโรมัน Galen ได้ให้สมมุติฐานถึงอาการแข็งตัวของเจ้าโลกว่า ไม่ได้เกิดจากเลือดไปเลี้ยงแบบปัจจุบัน แต่เกิดจากกรดในกระเพาะที่มากเกินไป…
2. ชายหนุ่มจะเสียชีวิตจากการถูกดูดเลือด หากมีเซ็กส์กับผู้หญิงในช่วงประจำเดือน เป็นทฤษฏีที่หลายชั่วอายุคนได้พิสูจน์มาแล้วว่ามันไม่จริง ....
3. ปาไข่ใส่เมีย แล้วเธอจะให้กำเนิดลูกที่ร่างกายแข็งแรง
อ้างอิงจากหนังสือของ Edvard Westermarck (Early Beliefs and Their Social Influence) ได้บันทึกประเพณีของชาวยิวที่เขาไปเจอมาในเมืองโมร็อคโคไว้ว่า เขามักจะเห็นสามีปาไข่ใส่ภรรยาหลายต่อหลายครั้ง ด้วยความเชื่อที่ว่า เธอจะให้กำเนิดลูกที่ดีและร่างกายแข็งแรง
4. ถึงจะแต่งงานแล้ว แต่คุณก็ยังต้องตกนรกอยู่ถ้ามีเซ็กส์!!
ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 12 ก็ได้เกิดความเชื่อแปลกๆ ขึ้น โดยมีการบันทึกไว้ว่าไม่ว่าคู่รักใดก็ตามที่ถึงแม้จะแต่งงานกันแล้ว หากมีเพศสัมพันธ์กันในวันอาทิตย์ หรือวันสำคัญทางศาสนา พวกเขาจะต้องถูกทรมาณและตกนรกทั้งเป็น
5. ขุนนางในยุคก่อนเชื่อว่าความบริสุทธิ์ของพวกเขา จะถูกแปดเปื้อนมลทินจากการมีเซ็กส์
ไม่ใช่แค่ขันทีเท่านั้นที่ต้องถูกตัดจุ๊ดจู๋ถึงจะเข้าไปทำงานในวังได้ จากบันทึกของ Westermarck พบว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยออกเดินทางไปกับขุนนางชนชั้นสูงคนหนึ่ง ทว่าระหว่างทางผู้คนกลับถูกห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ เพียงเพราะขุนนางคนนั้นกลัวว่าตนเองจะแปดเปื้อนมลทินจากเซ็กส์ของคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
6. หากมีเซ็กส์แล้วไปขี่ม้าจะเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นกับคุณ
ในอดีตโบราณกาลเคยมีความเชื่อที่ว่า.. หากคุณเพิ่งมีเซ็กส์มาก็อย่าเพิ่งขี่ม้าโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้น หรือคุณอาจไปไม่ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
7. รักใครชอบใครให้แอบเอาเมนส์ ไปใส่อาหารของชายคนนั้น
ใช่ว่าเกิดมาหน้าตาดีแล้วชีวิตจะดีเสมอไป อ้างอิงจากบันทึกของ Mariamne H. Whatley เกี่ยวกับความเชื่อในวัฒนธรรมจาไมก้า ในอดีตหญิงสาวชาวจาไมก้าเคยมีความเชื่อที่ว่า หากแอบรักใครชอบใครก็ให้เอาประจำเดือนของตัวเองไปใส่ไว้ในอาหารของชายคนนั้น และพวกเขาทั้งสองก็จะได้ครองรักกันจนชีวิตจะหาไม่
8. หญิงสาวที่แพร่กามโรคให้ชายหนุ่ม ถูกจัดให้เป็นการขายบริการที่ไม่ผิดกฎหมาย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารแนวหน้าของเยอรมันประสบปัญหาติดเชื้อกามโรคหลายคน และพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องระบุให้ทางการทราบว่า ติดเชื้อโรคมาจากหญิงสาวคนไหน หลังจากที่ทางการเยอรมันทราบตัว พวกเขาก็ได้จัดการนำหญิงสาวคนนั้นไปลงทะเบียนให้เป็นคนขายบริการทางเพศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
9. ผู้หญิงที่ช่วยตัวเองจะมีหน้าอกเล็ก และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
แม้ดูเหมือนจะเป็นทฤษฏีที่ตกค้างมาหลายร้อยปี แต่ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นทฤษฏีที่เพิ่งถูกเสนอขึ้นมาเมื่อปี 1892 โดย Lyman B. Sperry เจ้าตัวให้เหตุผลว่าการช่วยตัวเองของหญิงสาว เป็นเหมือนการลดระดับการทำงานของฮอร์โมนทางอ้อม และในระยะยาวมันจะส่งผลต่อหน้าอก รวมถึงการตั้งครรภ์ด้วย
10. ผู้หญิงที่ช่วยตัวเอง มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายสูงกว่า
เราก็ไม่รู้หรอกว่าทฤษฏีนี้จริงหรือไม่จริง แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน อารมณ์อยากฆ่าตัวตายกับอารมณ์อยากช่วยตัวเอง
11. กินสมองนกกระจอกแล้วชีวิตเซ็กส์จะสะเด่าขึ้น
อ้างอิงจากตำนานของชาวกรีก ครั้งหนึ่งพวกเขาอ้างถึงเทพเจ้า Aphrodite ผู้ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักเอาไว้ว่า พระองค์ทรงเสริมสร้างสมถรรนะทางเพศด้วยการกินสมองนกกระจอก
12. การห่อเท้าของจีนเป็นสัญลักษณ์ของเซ็กส์ที่ดี
จีนก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีขนบธรรมเนียมประเพณีแปลกๆ ต่างๆ เกิดมาและหายไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือวัฒนธรรมการห่อเท้าของหญิงสาว หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่ายิ่งเท้าเล็กสาวจีนจะถูกมองว่ายิ่งสวย แต่ในอีกแง่หนึ่งความเล็กของฝ่าเท้าอาจสื่อนัยยะถึงความเก่งกาจเรื่องบนเตียงด้วยเช่นกัน
13. แม้จะตายไปแล้วก็ยังมีเซ็กส์ได้
วัฒนธรรมอียิปต์โบราณเป็นวัฒนธรรมที่เชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตาย แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คิดถึงแต่การทำมัมมี่เท่านั้น เพราะพวกเขาคิดไปไกลถึงขนาดที่ว่า.. คนตายจะมีเซ็กส์ยังไงในโลกหน้า
ซึ่งหีบที่ใช้บรรจุอวัยวะเพศของผู้ตายนั้น จะถูกตกแต่งด้วยภาพของหญิงสาวผู้เลอโฉม โดยเชื่อว่าเธอจะตามไปมอบความสุขให้ผู้ตายในโลกหน้าได้