ด่า ดอกทอง หมิ่นประมาท หรือไม่อย่างไรไปดูกัน
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ตลาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แม่ค้า(ปากตลาด) เคยด่านางพยาบาลว่า
“โรงพยาบาลนี้ นังพยาบาลดอกทอง ดอกทองทั้งบ้าน ดอกทองทั้งโรงพยาบาล”
ฝ่ายนางพยาบาลก็ไม่ยอม จึงฟ้องศาลโดยเป็นโจทย์ เพราะถือว่า “ดอกทอง” แปลว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีมาก ๆ ทางกามารมย์ หลับนอนกับผู้ชายไม่เลือกที่ไม่เลือกหน้า ฝ่ายจำเลยก็ไม่ย้อม ไม่ยอมค่ะคุณ จึงสู้คดีหาว่าไม่ได้หมิ่นประมาทแต่อย่างใด จึงให้ความแก่ศาลไปว่า “ที่กล่าวว่าเธอ ดอกทองนั้นเพราะเปรียบเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า”
ทางด้านศาลจึงตัดสินฟังไม่ขึ้น “ฉันไม่เชื่อเธอหรอก” ตัดสินในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งความจริงแล้วหากกล่าวดูถูกหมิ่นประมาทโดยใช้ คำหยาบคายทั่วไป อย่างเช่น อี่ช้างลาก ไอ้หน้าหอกส่วนมากโทษปรับไม่เกินพันบาท สามร้อย ห้าร้อย แต่คำว่า “ดอกทอง” นี่หละ โทษถึงขั้นวินิจฉัยและพิพากษามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
เพราะฉะนั้นต่อไปหากจะด่าใครก็เลือกคำที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงดอกทอง โดยใช้คำอื่นเช่นดอกกระเจี๊ยบ ดอกเงิน ดอกบานไม่รู้โรย ดีกว่า หรือว่าทางที่ดีก็ไม่ต้องเรียนรู้ภาษาศัพท์คำหยาบคาย ที่ทำให้ผู้อื่นระคายเคืองได้ก็แล้วกัน
ชาน่านำคำนี้มากล่าวถึงก็เพราะเข้าใจว่า คำว่า “ดอกทอง” เป็นรากศัพท์ และศัพท์แสลงที่ชาวเรานิยมเม้าท์ ๆ กันไม่เลือกที่ บ้างเม้าท์เล่น ๆ บ้างเม้าท์ด่าทะเลาะกันจริง แต่หากไปเจอคนจริงเข้าก็อาจจะเอาเรื่องได้ดังเช่นกรณีย์ตัวอย่างข้างต้น
เฮ้อ.... เคยมีคนบอกชาน่าว่าสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกลับคืนมาไม่ได้ก็คือคำพูด เมื่อพูดไปแล้ว จะกลับคำก็ไม่ได้ “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากเป็นสี” เพราะฉะนั้นจะพูดจา พาที ก็ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังคิดก่อนค่อยทำ ไม่ใช่ทำ(ในสิ่งที่ไม่ดี) ก่อนแล้วค่อยคิดกลุ้มเสียใจภายหลัง
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/asklaw/posts/666172640060163