แบงค์ไทย: เสือนอนกิน?
ทำไมธนาคารไม่ปล่อยค่อยสินเชื่อ ทำไมธนาคารจะไม่มีวันเจ๊ง เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะธนาคารไทยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากห่างกันราวฟ้ากับเหว!
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) พบว่าธนาคารไทยมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียงประมาณ 1.5% แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึงราว 7.5% หรือประมาณ 5 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การนี้ถือว่าถ่างหากไปมาก ทำให้ธนาคารไทยกลายเป็น "เสือนอนกิน" ไป เนื่องจากได้รับรายได้จากดอกเบี้ยในการนี้สูงมาก
หากดูภาพของประเทศอื่น จะเห็นได้ว่าธนาคารในฟิลิปปินส์ ให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 2.5% ซึ่งสูงกว่าของไทย แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพียง 3.5% มีช่องห่างเพียง 1% หรือมีความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 1.5 เท่า แต่ของไทยกลับสูงถึง 6% มาเลเซียก็มีความต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 1.5 เท่า เมียนมาและลาว ก็มีความต่างเพียง 1.6 เท่า
ในอาเซียนมาเพียงสิงคโปร์ที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 1.23% ต่ำกว่าของไทย แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็สูงเพียง 2.98% เท่านั้น กัมพูชาก็ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 13.3% แต่ดอกเบี้ยเงินฝากก็สูงถึง 5.75% เช่นกัน ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงไทยที่มีส่วนต่างของดอกเบี้ยสูงสุด ในขณะที่ประเทศอื่นอยู่ระหว่าง 1.4 - 2.4 เท่าเท่านั้น
ดังนั้น ธนาคารไทยจึงให้สินเชื่อน้อย ประกอบกับธนาคารไทยยังมีรายได้จากการอื่น เช่น การประกันภัย ประกันชีวิต ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ มากมาย การอำนวยสินเชื่อจึงจำกัด ทางแก้อย่างหนึ่งอาจควรให้มีการเปิดธนาคารไทยมากขึ้น หรือเปิดสาขาของธนาคารต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ความต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้จะได้ลดน้อยลง
ต้องเอาประชาชนเจ้าของประเทศซึ่งเป็นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง