หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วันนี้ในอดีต 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493

โพสท์โดย appleloveview

.
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ระหว่างวันที่ 4 - 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
.
พราหมณ์ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น มาทำพิธีเสกน้ำ สำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และ น้ำสรงพระมูรธาภิเษก
.
นอกจากนี้ ยังมีการประกอบพิธีจารึกพระปรมาภิไธยลงบนพระสุพรรณบัฎ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะดวงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2493 ตามเวลาพระมหามงคลฤกษ์
.
>>> วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์)
.
วันที่ 4 พฤษภาคม 2493 เวลา 10.00 น. เจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏ พร้อมด้วยดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาขึ้นพระราชยานกงที่เกยพลับพลาเปลื้องเครื่อง ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีกระบวนเครื่องสูง กลองชะนะและคู่แห่ แห่ไปตามถนนหน้าศาลาสหทัย เลี้ยวตามถนนจักรีจรัณย์เข้าประตูพิมานไชยศรี ไปตามถนนอมรวิถี ถึงหน้าประตูสนามราชกิจ แล้วเชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑลในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
.
เวลา 18.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ประดับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังพระบรมมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระทวารเทเวศร์รักษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชปฏิสันถารแล้ว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัย แล้วประทับพระราชอาสน์ พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลเบิกทายาทผู้สืบสกุลพระยาเมือง ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ข้าหลวงประจำจังหวัดเข้าเฝ้าทูลละอองธุลลีพระบาท คือ

- เจ้าราชบุตร (วงษ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
- พระเพ็ชรคีรีศรีสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำปาง
- เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูน
- เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครน่าน
- พระพิพิธภักดี (ตนกูมุกดา อับดุลบุตร) ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 2
- ตนกูมะ บินกูปูเต๊ะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 1
- ตนกู ตึงเงาะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองนราธิวาส
- ตนกู อับดุล เลาะรงโซะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองยะลา
- ตนกู อิบบราฮิม บินตนกูอหมัด ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 1
- กูฮาหมัด บิบตำมะหงง ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 2
.
พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมประจำภาคทั้ง 5 ภาค เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารแล้ว ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมออกจากที่เฝ้า
.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงจุดเทียนชนวน พระราชทานแก่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เพื่อทรงนำไปจุดเทียนที่เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุด เทียนพระมหามงคลและเทียนเท่าพระองค์
.
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ สังฆการี อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 30 รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ขึ้นสู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางประตูสนามราชกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล
.
ถึง เวลา 18.50 น. อันเป็นมหามงคลฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงจุดเทียนทองชนวน ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เสร็จแล้วถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปจุดเทียนชัยในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญมงคลคาถา จุดเทียนชัย ชาวพนักงาน ประโคม ฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ แตร ดุริยางค์ จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนชนวนแก่มหาดเล็ก พร้อมด้วยธูปเงิน เทียนทอง และดอกไม้ ไปบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือ
.
พระมหาเศวตฉัตร 5 แห่ง ในพระที่นั่งต่าง ๆ ดังนี้
- พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน
- พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
- พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
- พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
- พระที่นั่งอนันตสมาคม
.
ปูชนียสถานสำคัญ อีก 13 แห่ง ดังนี้
- พระสยามเทวาธิราช ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
- พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช - ทรงเครื่องต้น ที่ห้องภูษามาลา
- เทวสถาน พระอิศวร
- เทวสถาน พระนารายณ์
- เทวสถาน พระคเณศร์
- พระหลักเมือง
- พระเสื้อเมือง
- พระกาฬชัยศรี
- พระเพลิง
- พระเจตคุปต์
- เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ
- เทวรูป ณ หอเชือก
- เทวรูป ณ ตึกดิน
.
สมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับไปขึ้นนั่งอาสนะที่เดิม พระศาสนโสภณ (จวน อุฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม อ่านประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จบแล้ว พระสงฆ์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 30 รูป และในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 45 รูป เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
.
พระครูวามเทพมุนี ประธานพิธีพราหมณ์ ถวายน้ำพระมหาสังข์ พราหมณ์เป่าสังข์ แล้วถวายใบสมิตสำหรับทรงปัดพระองค์ ประกอบด้วย

- ใบมะม่วง 25 ใบ ได้แก่ ภยันตราย
- ใบทอง 32 ใบ ได้แก่ อุปัทวันตราย
- ใบตะขบ 56 ใบ ได้แก่ โรคันตราย
.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับใบสมิตมาทรงปัดพระองค์ เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี รับพระราชทานกลับไป กระทำพิธีศาสตร์ปุณยา ชุบโหมเพลิง ณ ที่ทำพิธีพราหมณ์
.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ธูปเทียนบูชา พระสยามเทวาธิราช พระแท่นอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิฐ
.
จ้าพนักงานสังฆการี นิมนต์ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ชั้นพระราชาคณะ จำนวน 5 รูป ขึ้นนั่งยังอาสนะบนพระแท่นบรรทมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังห้องพระบรรทม พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการพระรัตนตรัย เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ ณ ห้องกลาง ทรงพระมหามงคล พระสงฆ์ 5 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรจบแล้ว ทรงเปลื้องพระมหามงคล พระสงฆ์ถวายบังคมลา
.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จกลับไปประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะ นั่งปรก และสวดภาณวารต่อไปตลอดคืน เสด็จพระราชดำเนินกลับ
.
>>> วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก)
.
เวลา 11.20 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรับการสรงพระมูรธาภิเษกจากสหัสธารา พระสงฆ์ในมณฑลพระราชพิธี เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร มโหระทึก และเครื่องดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด
.
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ สู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้พระบวรมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาเป็นปฐม เพื่อรับน้ำอภิเษก จากสมาชิกรัฐสภา [1] เมื่อผันพระองค์เวียนมาสู่ทิศบูรพาอีกครั้งแล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร (จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒิสภา กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ, นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กราบบังคมทูลเป็นภาษาไทย
.
เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี (สวาสดิ์ พราหมณกุล) ทำหน้าที่พระมหาราชครู กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ และภาษาไทย แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะนี้ ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตร เครื่องดุริยางค์
.
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชเสด็จฯ ประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระราชครูวามเทพมุนี ร่ายเวทย์ สรรเสริญศิวาลัยไกรลาส จบแล้ว กราบบังคมทูลถวาย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เป็นภาษามคธ แล้วทูลเกล้าฯ ถวาย พระสุพรรณบัฎ จารึกพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” , เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์, เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์, เครื่องราชูปโภค และ พระแสงราชศัสตราวุธ ขณะนั้น พระสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตรฯ กองทหารถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารยิงปืนกองแก้วจินดา ตามกำลัง วันศุกร์ 21 นัด ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด พระสงฆ์ทั่วพระราชอาณาจักร ย่ำระฆังถวายชัยมงคล
.
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์แล้วพระราชครูวามเทพมุนีกราบบังคมทูลถวายชัยมงคลด้วยภาษามคธและภาษาไทย จากนั้นจึงมี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายว่า
.
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
.
พระราชครูวามเทพมุนี รับสนองพระปฐมบรมราชโองการ แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจรรยา ดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ ทุกประการ
.
ต่อมา เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน โดยมี คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล
.
จากนั้น เวลา 14.40 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ให้ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
.
จากนั้น เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จด้วยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
.
>>> วันที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร)
.
เวลา 19.54 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประทับแรม ในพระบรมมหาราชวัง รุ่งเช้า จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
.
>>> วันที่ 7 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (เสด็จออกสีหบัญชร)
.
เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จออกยังท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล
.
ต่อมาเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลและสมาคมต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายชัยมงคล ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท
.
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จออกสีหบัญชร พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ในนามพสกนิกรชาวไทย ทั่วพระราชอาณาจักร
.
เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ในพิธีเฉลิมพระนาม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และ พระราชทานสมณศักดิ์ แก่พระราชาคณะ เสร็จแล้ว ทรงสดับพระธรรมเทศนา มงคลสูตร รัตนสูตร และ เมตตสูตร รวมหนึ่งกัณฑ์ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญานวโร)
.
>>> วันที่ 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 (พิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์)
.
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระราชวงศ์ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ สถาปนาฐานันดรศักดิ์ ได้แก่
.
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร (พระราชโอรสองค์ที่ 52 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ดำรงพระชนม์ชีพอยู่เป็นพระองค์สุดท้าย)

- พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร (เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ ประธานองคมนตรี และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย (เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย กับหม่อมส้วน ไชยันต์ ณ อยุธยา เป็นผู้ว่าการคนแรกของธนาคารแห่งประเทศไทย)

- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล (พระนามเดิม หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร เป็นพระโอรสพระองค์ที่ 3 ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ และหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร เป็นพระบิดาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นพระสัสสุระ (พ่อตา) ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นพระอัยกาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร)
.
ที่มา
.
- พิธีถวายน้ำอภิเษกนี้ มีความหมายว่า เพื่ออัญเชิญสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทรงแผ่พระราชอาณา ปกครองพสกนิกรทั้งหลาย ทั่วทิศทั้ง 8
- พระภิกษุที่ถวายพระธรรมเทศนา ในพระราชพิธี วันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม ขึ้นนั่งบนพระแท่นมหาเศวตฉัตร มิใช่นั่งเทศน์ บนธรรมาสน์เทศน์ธรรมดา เช่นการพระราชพิธีอื่น

ที่มา โบราณนานมา
โพสท์โดย: appleloveview
แหล่งที่มา: http://www.facebook.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
appleloveview's profile


โพสท์โดย: appleloveview
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไม่ทันตั้งตัว พระเอกดัง “อ๋อม อรรคพันธ์” เสียชีวิตแล้ว ในวัย 39 ปี13 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการช่วยตัวlองเกิดเหตุน้ำท่วมหนักและดินถล่ม บริเวณภาคกลางของญี่ปุ่นอาลัยรัก อ๋อม อรรคพันธ์ แฟนคลับยังไม่อยากเชื่อ เพิ่งเห็นรอยยิ้มเมื่อไม่กี่เดือนทำถนนนาน 4 เดือน ร้านค้าโอด เจ๊งแล้ว 50 ร้านตลอดเส้นช็อก อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร พระเอกชื่อดัง เสียชีวิตแล้วแก้วน้ำของ "ลิซ่า" ธรรมดาซ่ะที่ไหน..สมฐานะซุปตาร์ระดับโลกของแทร่!นักดับเพลิงมะกันถูกกล่าวหาว่าจุดไฟเผาแหล่งผลิตไวน์ของรัฐลิเบียขัดขวาง การลักลอบขนทองคำ 100 กก. และเงินสด 1.5 ล้านยูโรได้พระเอกดัง "อ๋อม อรรคพันธ์" เสียชีวิตแล้ว!..เพื่อนๆ ในวงการร่วมไว้อาลัย8 เทคนิค ตามหา Passion[7 เรื่องลับๆ] ของ “อาหารจีน”
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
8 เทคนิค ตามหา Passionไม่ทันตั้งตัว พระเอกดัง “อ๋อม อรรคพันธ์” เสียชีวิตแล้ว ในวัย 39 ปีนักดับเพลิงมะกันถูกกล่าวหาว่าจุดไฟเผาแหล่งผลิตไวน์ของรัฐ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
พระราชวังต้องห้าม มีกี่ห้องกันเเน่ทำงานพาร์ทไทม์ เซเว่น ดีไหม เจาะลึกทุกแง่มุมก่อนตัดสินใจหลานโจว เมืองที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงฮั่นcomplaint: การร้องเรียน
ตั้งกระทู้ใหม่