ห้ามพลาด ! 10 จุดชมดอกซากุระสุดโรแมนติกใน เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

วัดแห่งนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่มีชื่อเสียงด้านซากุระของประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นคือสถาปัตยกรรมเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งถือเป็นเจดีย์ไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต และภายในบริเวณวัดมีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 1,000 ต้น ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลซากุระ ซึ่งให้บรรยากาศย้อนยุคแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ

2. วัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizudera)

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ‘วัดน้ำใส’ เนื่องจากมีน้ำตกไหลผ่านเนินเขาลงมายังบริเวณวัด ไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนก็คือระเบียงขนาดใหญ่สูงกว่า 13 เมตรที่มีเสาไม้นับร้อยต้นรองรับน้ำหนักไว้ และจุดนี้แหละที่คุณจะได้ชมความงดงามของต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายอยู่ด้านล่างระเบียงอาคารไม้

3. อาราชิยาม่า (Arashiyama)

เขตเมืองชนบทอาราชิยาม่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกียวโต เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เนื่องจากมีธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่ให้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีวัดเทนริวจิและทางเดินป่าไผ่ที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังมีรถไฟสายโรแมนติกซากาโน่ ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะคุณจะได้ชื่นชมกับต้นซากุระสีชมพูบานสะพรั่งตลอดสองข้างทางรางรถไฟ สุดยอดของโรแมนติก !

4. ถนนสายนักปราชญ์ (Tetsugaku no michi)

ถนนสายโบราณอันเลื่องชื่อที่ในสมัยอดีตเหล่านักปราชญ์ชื่อดังของญี่ปุ่นหลายท่านเคยสัญจรผ่าน สองข้างทางมีต้นซากุระปลูกอยู่มากกว่า 500 ต้น ตลอดระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร และยังมีสะพานเล็กๆ สำหรับข้ามคลองให้คุณได้ไปยืนส่องหามุมสำหรับถ่ายภาพอีกด้วย เมื่อถึงช่วงเดือนเมษายน ดอกซากุระก็จะพร้อมใจกันชูช่อสะพรั่ง กลายเป็นอุโมงค์ซากุระที่งดงามมาก ห้ามพลาดเด็ดขาด !

5. ทางลาดเคอาเกะ (Keage Incline)

ขอยกให้เป็นหนึ่งจุดชมวิวที่โรแมนติกและให้ความรู้สึกว้าวม๊ากมาก เพราะจุดชมวิวเคอาเกะเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 100 ต้นที่เรียงรายริมคลองโอคาซากิ ยัง ! ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะยังมีทางรถไฟสายเก่าที่เคยถูกใช้เป็นเส้นทางขนส่งในอดีตตั้งอยู่ตรงทางเดินตรงกลางอีก แน่นอนว่าเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต้องมุ่งมาถ่ายรูปเก็บความประทับใจ

6. ศาลเจ้าเฮอัง (Heian Shrine)

ศาลเจ้าเฮอังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองเกียวโต มีซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น หรือ ‘โทะริอิ’ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตั้งเด่นตระหง่านอยู่บริเวณทางเข้า ส่วนภายในศาลเจ้าเต็มไปด้วยซากุระนานาพันธุ์ที่ปลูกเรียงรายรอบสระน้ำ ในเดือนเมษายนทางศาลเจ้าจะจัดงานดื่มชาชมดอกซากุระ โดยจะมีการตกแต่งไฟประดับสีสวยงามบนต้นซากุระ ให้บรรยากาศตื่นตาตื่นใจอย่างมาก

7. สวนสาธารณะมารุยาม่า (Maruyama Park)

สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต เป็นที่รู้จักกันว่าเต็มไปด้วยสวนของต้นซากุระเกือบ 700 ต้น โดยเฉพาะสายพันธุ์ชิดะเร (Shidarezakura) ซึ่งมีลักษณะเด่นคือเมื่อดอกบานสะพรั่งเต็มต้น จะมีกิ่งที่โน้มต่ำลงบริเวณโคนต้น ในยามค่ำคืนทางสวนสาธารณะจะจัดงานชุดใหญ่ไฟกระพริบประดับประดาต้นซากุระให้มีสีสันสวยงาม ส่วนเวลากลางวันชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมานั่งรับประทานอาหารและพักผ่อนหย่อนใจ

8. ย่านกิออน (Gion)

ย่านราตรีชื่อดังของเมืองเกียวโต ที่เรียงรายด้วยร้านค้าและร้านน้ำชาเสมือนพาคุณย้อนยุคกลับไปในสมัยโบราณ เอกลักษณ์ประจำย่านนี้คือนักท่องเที่ยวจะได้เห็นบรรดาสาวชาวญี่ปุ่นแต่งกายด้วยชุดกิโมโนและแต่งหน้าแบบเกอิชาเดินเล่นตามท้องถนน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารไม้แบบดั้งเดิม และมีต้นซากุระขึ้นแซมให้เห็นเป็นระยะๆ

9. ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine)

ศาลเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมไปสักการะ นอกจากโทะริอิที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเพื่อแสดงอาณาเขตของเทพเจ้าแล้ว บรรยากาศภายในศาลเจ้ายังร่มรื่นด้วยต้นซากุระที่ถูกปลูกอย่างเป็นระเบียบเรียงรายตลอดทางเดินเข้าไปสู่ศาลเจ้า หากได้ไปเยือนในช่วงซากุระบานเต็มที่รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสความงดงามของสถานที่แห่งนี้ไม่แพ้จุดชมวิวอื่นๆ ในเกียวโตอย่างแน่นอน

10. วัดโทจิ (Toji Temple)

มีเจดีย์ขนาดใหญ่ 5 ชั้น มีความสูงถึง 57 เมตร นับว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเกียวโต ยามค่ำคืนจะเปิดไฟสวยงามประดับประดาต้นซากุระที่เป็นจุดเด่นเคียงคู่กับเจดีย์ไม้ของวัด กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญยามค่ำคืนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

รู้จัก 10 จุดชมดอกซากุระบานสุดโรแมนติกประจำเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกันไปแล้ว ทีนี้หากได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวโตเกียวก็คงรู้พิกัดแล้วสินะว่าต้องตามไปชื่นชมซากุระบานสะพรั่งที่จุดไหน และที่สำคัญอย่าลืมนะว่าไปท่องเที่ยวแล้วก็ต้องช่วยกันปฏิบัติตามกฏระเบียบและช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย^^