5 การเดินทางข้ามเวลา ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายได้
อันดับที่ 5 บิลลี่ ไมเออร์
เป็นชาวสวิส เกิดเมื่อปี 1937 โดยเขาอ้างว่าได้พบกับมนุษย์ต่างดาวครั้งแรกในปี 1942 โดยเขาเล่าว่า ตอนแรกเขาได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวที่ดูสูงอายุซึ่งมีชื่อว่า สแฟธ มาจากเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า เพลย์ยาร์เอน จากคำบอกเล่าของไมเออร์ เขาอธิบายว่า เพลย์ยาร์เอนจะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายกับมนุษย์โลก ซึ่งพวกเขามาจากดาวที่มีสภาพบรรยากาศเหมือนกับโลกมีชื่อว่า เอร์รา เป็นดาวที่อยู่ในอีกมิติหนึ่ง ห่างจากมิติของเราเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ไมเออร์ยังเล่าอีกว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นสามารถมายังโลกด้วยการควบคุมการเคลื่อนที่ของหน่วยเวลาที่เรียกกันว่า Chronon อีกทั้งไมเนอร์ยังบอกด้วยว่า ตัวเขาเองนั้นเคยเดินทางข้ามเวลาตามเส้นเวลาของโลก ซึ่งมีรูปเป็นหลักฐานหลายชิ้น โดยมีภาพของยูเอฟโอที่ปรากฏอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน ภาพจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงภาพที่เห็นว่าโลกจะถูกทำลายล้างในอนาคต ว่ากันว่าไมเออร์ได้เก็บรูปภาพต่าง ๆ เอาไว้กว่า 1,300 รูป ซึ่งได้มาจากทั้งการเดินทางผ่านกาลเวลา และการเดินทางผ่านเอกภพ
ถึงแม้ว่าผลงานของเขาจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่เชื่อและศรัทธาในตัวไมเออร์มากซึ่งรู้จักกันในนาม FIGU โดยชื่อกลุ่ม FIGU มีความหมายว่า "กลุ่มอิสระที่มีความสนใจในศาสตร์ลึกลับ วิทยาศาสตร์ทางจิตวิญญาณ และการศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว" นั่นเอง
อันดับที่ 4. จอห์น ไตเตอร์
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2000 บนกระทู้ออนไลน์ที่มีชื่อว่า Time Travel Institute มีหลักฐานชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่า จอห์น ทีเทอร์นั้นมีอยู่จริง ซึ่งในทุกการโพสต์มักจะมาพร้อมกับสัญลักษณ์เช่นนี้ (รูปด้านล่าง) โดยต่อมามีการเผยว่าสัญลักษณ์นี้ เป็นการระบุตำแหน่งทางการทหารจากโลกอนาคต นามแฝงที่เขาใช้ก็คือ TimeTravel_0
โดยเขายังได้อธิบายเกี่ยวกับหกส่วนสำคัญในการทำงานของไทม์แมชชีน รวมไปถึงการสร้างไมโครซิงกูลาริตี้แบบคู่ (หลุมดำขนาดเล็ก) และการใช้อิเล็กตรอนในการควบคุมมวล และสนามโน้มถ่วงของมันอีกด้วย ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเขา จนกระทั่งในเดือนมกราคมปี 2001 เมื่อโพสต์ของเขาได้ไปปรากฏในกระทู้ออนไลน์ที่มีชื่อว่า Art Bell BBS จึงพบว่าเขาคนนี้มีชื่อว่า จอห์น ไตเตอร์ เขาบอกว่าตนนั้นเป็นทหารสหรัฐมาจากปี 2036 ที่ได้รับมอบหมายในภารกิจลับบางอย่างซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหายนะที่กำลังจะเกิดจากเทคโนโลยี
นอกจากนี้เขายังได้โพสต์คู่มือของเครื่องมือที่มีชื่อว่า C204 เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของตนเอง แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าใจได้แน่ชัดว่ามันมีไว้ใช้ทำอะไร ส่วนตัวของจอห์น จะต้องกลับไปในปี 1975 เพื่อทำการกู้เครื่องคอมฯ IBM 5100 ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหากับระบบเวลาในคอมพิวเตอร์ของปี 2038 ได้ ซึ่งปัญหานั้นจะส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลผิดพลาดที่อาจเลวร้ายยิ่งกว่าปัญหา Y2K ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
อันดับที่ 3 การทดลองฟิลาเดเฟีย
ในช่วงปี 1943 มีข่าวลือว่า ทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้มีการใช้เรือพิฆาตคุ้มกันยูเอสเอส เอลดิรดจ์ เข้าร่วมในโครงการเรนโบว์ซึ่งเป็นการทดลองลับที่ต้องการจะทดสอบเทคโนโลยี "การพรางตัว" โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ศัตรูไม่สามารถตรวจจับได้ การทดลองดังกล่าวจะรู้จักกันในชื่อ "การทดลองฟิลาเดเฟีย" ซึ่งเป็นการทดลองที่อยู่บนพื้นฐานทฤษฎีสนามรวมของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ โดยการใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ารวมเข้ากับความโน้มถ่วงให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนั่นจะทำให้เรือถูกพรางตัวหรือหายไปชั่วขณะนั่นเอง
แต่ผลการทดลองจากคำบอกเล่าของลูกเรือบนเรือเอสเอส แอนดรู เฟอรูเซธ กลับเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนถึงกับช็อค โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์มีชื่อว่า คาร์ล เมเรดิธ อัลเลน เล่าว่าแค่เพียงพริบตาเดียว เรือเอสเอส เอลดริดจ์ ขนาดใหญ่ก็หายวับไปในอากาศ ด้วยเหตุการณ์นี้จึงทำให้เห็นได้ว่า เครื่องสร้างสนามแม่เหล็กกำลังสูงที่อยู่บนเรือเอลดริดจ์นั้นไม่ได้มีไว้แค่การพรางการตรวจจับของเรดาร์เพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความบังเอิญกลับทำให้เรือและลูกเรือทั้งหมดถูกส่งย้อนเวลากลับไปหลายวินาทีในอดีต และเมื่อเรือกลับมาปรากฏอีกครั้งพบว่าลูกเรือทั้งหมด ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ลูกเรือบางคนก็ "ถูกฝังติดอยู่กับตัวเรือ" อีกด้วย
ว่ากันว่า ทางกองทัพเรือไม่สามารถที่จะควบคุมหรือหาสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ได้เลย ซึ่งปัจจุบันทางกองทัพเรือได้ออกมาแถลงการอย่างเป็นทางการแล้วว่า ไม่เคยมีการทดลองเช่นนี้มาก่อน และเทคโนโลยีแบบนั้นก็ไม่มีอยู่จริง
โดยจอห์นได้เคยทำนายว่า CERN จะสามารถสร้างหลุมดำขนาดเล็กได้ในปี 2001 และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของเขา ถึงแม้คำทำนายอื่นที่เตือนว่าอเมริกาจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น หลังการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าในขณะที่เรายังไม่สามารถแก้ไขอนาคตได้
แต่มีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นจะสามารถพัฒนาในเรื่องของการเดินทางข้ามมิติเวลาไปได้ไกลแล้ว และสุดท้ายจอห์น ไตเตอร์ ก็หยุดโพสต์เรื่องราวไปในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2001 โดยปราศจากคำอธิบายใด ๆ อีกทั้งยังไม่มีใครที่สามารถยืนยันหรือระบุตัวตนของเขาได้
อันดับที่ 2 โครงการเพกาซัส
แอนดรู บาซิอาโก อ้างว่าในช่วงวัยเด็กของเขา ระหว่างปี 1968 - 1972 เขาได้มีส่วนร่วมในโครงการเพกาซัสซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของ DARPA กล่าวกันว่าเป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกองทัพสหรัฐฯ ด้วยการใช้เทคโนโลยีในการเดินทางข้ามเวลา ซึ่งถูกพัฒนาต่อมาจากการวิจัยของนิโคลา เทสลา ว่ากันว่ามีเด็กกว่าร้อยคนที่ถูกคัดเลือกให้เป็น "ผู้เดินทางข้ามเวลา"
เนื่องด้วยสมองของเด็กจะมีความยืดหยุ่นกว่าสมองของผู้ใหญ่ และสามารถปรับสภาพได้ดีกว่า เมื่อตกอยู่ในสภาวะความตึงเครียดทางจิตที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ต้องเดินทางข้ามผ่านเวลาระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดังเช่นเรื่องราวของแอนดรู บาซิอาโกที่เดินทางพร้อมกับเด็กอีกหลายคนเพื่อนำสาส์นจากโลกอนาคตไปให้ประธานาธิบดีสหรัฐในอดีต
โดยเขาอ้างว่า ภาพนี้ (ด้านล่างลูกศรชี้สีฟ้า) เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางข้ามเวลาซึ่งเป็นภาพที่เขาถูกถ่ายโดยบังเอิญ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ที่เมืองเกตตีสเบิร์กในปี 1863 จากคำบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของบาซิอาโก เชื่อว่าเขาไม่ได้เดินทางข้ามผ่านเวลาแค่เพียงในโลกเท่านั้น
แต่ยังมีการเดินทางไปยัง "มิติอื่น" อีกทั้งยังเล่าว่าเขาได้พบกับมนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารอีกด้วย คนบางกลุ่มเชื่อว่าการที่บาซิอาโกได้นำข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯ จากภารกิจการเดินทางข้ามเวลาของเขามาเปิดเผย ถือเป็นการทำเพื่อมวลมนุษยชาติ อีกทั้งคำทำนายอนาคตจาก Web Bot Project เชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในสองของผู้ที่นำข้อมูลระดับจักรวาลมาเปิดเผย
อันดับที่ 1 วิกเตอร์ ก็อดเดิร์ด
เรื่องราวการเดินทางข้ามเวลาด้วยความบังเอิญของวิกเตอร์ ก็อดเดิร์ดถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงถึงพลอากาศโทแห่งกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร
โดยเมื่อปี 1935 ขณะที่วิกเตอร์กำลังขับเครื่องบินฮอว์เกอร์ ฮาร์ท ซึ่งเป็นเครื่องบินปีกสองชั้นอยู่เหนือสนามบินเดรม ซึ่งเป็นสนามบินร้างอยู่นั้น เขาก็ได้เผชิญกับพายุซึ่งเป็นพายุที่พัดไปมาอย่างรุนแรง และก้อนเมฆกลับกลายเป็นสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ส่งผลให้เครื่องบินเสียการควบคุม
ในขณะที่เครื่องกำลังจะตกลงพื้น วิกเตอร์กลับพบว่าตนเองยังคงอยู่ในบริเวณพื้นที่ของสนามบินร้างนั้น และเครื่องบินก็กลับมาสามารถควบคุมได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่แปลกไปคือ ทุกอย่างในสนามบินที่เขาเห็นว่าร้างในตอนแรก ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนพร้อมกับเครื่องบินปีกชั้นเดียวสีเหลือง และวิศวกรเครื่องบินที่แต่งชุดสีน้ำตาล ซึ่งโดยปกติแล้วต้องเป็นสีน้ำเงิน โดยในตอนนั้นวิกเตอร์เองก็ไม่เข้าใจและประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาพยายามเล่าถึงรายละเอียดของสิ่งที่พบเจอให้เพื่อนฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ
อีกทั้งในช่วงปี 1935 ก็ยังไม่มีเครื่องบินในลักษณะเช่นนั้นในกองทัพอากาศอังกฤษ และวิศวกรเครื่องบินในกองทัพก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบเช่นนั้น จนกระทั่งเมื่อเริ่มส่งครามโลกครั้งที่สองจึงทำให้วิกเตอร์มั่นใจว่าเขานั้นได้เดินทางข้ามมิติเวลาไปยังโลกอนาคตแน่นอน เพราะในช่วงสงครามโลกสนามบินเดรม ถูกเปิดทำการอีกครั้ง โดยมีการสร้างเครื่องบินแมจิสเตอร์ที่มีสีเหลืองขึ้น อีกทั้งเครื่องแบบวิศวกรเครื่องบินก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอย่างที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้นั่นเอง..
https://www.facebook.com/groups/687507851327585/
อยากให้รู้ / https://www.facebook.com/yarkhairootv
https://www.youtube.com/watch?v=QpqZdkMTFj4
ทหารกล้าไทยพลีชีพรายที่ 9 ใต้สมรภูมิปราสาทตาเมือนธม ชายแดนลุกเป็นไฟอีกครั้ง!
มีเหวอ !ป้ายเด็กทารกน่ารักกลายเป็น “ปีศาจทารก” เพราะแดดญี่ปุ่น! คนแห่ดูทั่วประเทศ
ซีเกมส์ไทยจัดเงียบ..มีแต่ดราม่า
“มาดามรถถัง” ลูกหลานทหารไทย ประกาศยืนหยัดเคียงข้างกองทัพ! มอบรถหุ้มเกราะ 1 คันพร้อมอุปกรณ์ครบชุดให้กองทัพไทยแบบไม่คิดเงิน
ของหวานในงานแต่งไม่พอ แขกเลยทะเลาะแย่งกันจนงานเละ
😃 ชวนลองเข้ามาดูคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการหาทางออกสำหรับการแก้ไขทุกปัญหา 😁
อินฟูลเขมร อดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ แซะแรงทหารไทย "ใช้เป็นแต่ F-16 หรือ"
เหยียบมาเกือบ 20 ปี เพิ่งรู้ว่า “ตีนไก่” หน้าบ้านคือรอยเท้าไดโนเสาร์ 190 ล้านปี
ยิ่งดื่มกาแฟ ยิ่งทำให้ชอปปิงหนักขึ้น
ซีอีโอยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ลาออก จากการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ 33.7 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม
งานแถลงข่าวรับรางวัลโนเบลถูกยกเลิก! ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพหายตัวไป 11 เดือนแล้ว
"อาเล็ก" ถอดเสื้อโชว์หุ่นแซ่บ..ด้าน "โบว์ เมลดา" แซวกลับทันที "ลืมวิธีใส่เสื้อใช่มั๊ย"
มีเหวอ !ป้ายเด็กทารกน่ารักกลายเป็น “ปีศาจทารก” เพราะแดดญี่ปุ่น! คนแห่ดูทั่วประเทศ
ทหารกล้าไทยพลีชีพรายที่ 9 ใต้สมรภูมิปราสาทตาเมือนธม ชายแดนลุกเป็นไฟอีกครั้ง!
“มาดามรถถัง” ลูกหลานทหารไทย ประกาศยืนหยัดเคียงข้างกองทัพ! มอบรถหุ้มเกราะ 1 คันพร้อมอุปกรณ์ครบชุดให้กองทัพไทยแบบไม่คิดเงิน
"อ่าวโทยามะ" (Toyama Bay) หนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดของญี่ปุ่น กับปรากฏการณ์ของ หมึกโฮตารุ (Hotaru Ika) หรือ หมึกหิ่งห้อยเรืองแสง ที่ทำให้ท้องทะเลนั้นสวยงามแบบสุดๆ
ซีเกมส์ไทยจัดเงียบ..มีแต่ดราม่า







