ทำไมกฎหมายถึงต้องบังคับให้ทำประกันรถ ตาม พ.ร.บ. รถยนต์? โดยอ.ต้น นิมิตร วิทยากรประกันภัย
การที่รัฐบาลต้องออกกฎหมายเพื่อกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมีประกันภัยนั้น อย่างแรกเลย ก็คือจะต้องให้รถยนต์ทุกคันทำประกันภัยตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจำรถ พ.ศ. 2535 ส่วนวัตถุประสงค์ที่บังคับนั้น ก็เพื่อให้ความคุ้มครอง และ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ประสบภัยจากรถกันทุกคน ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตเมื่อประสบภัยจากรถ โดยส่วนนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือทุกๆคนให้ได้รับการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงทีกรณีที่บาดเจ็บ หรือ เป็นค่าปลงศพกรณีที่ผู้ประสบภัยเสียชีวิต และ ยังเป็นหลักประกันให้แก่โรงพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาลในการรักษาผู้ประสบภัยจากรถยนต์ด้วย โดยที่เรียกว่าเป็นสวัสดิสงเคราะห์ที่ทางรัฐบาลมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นความช่วยเหลือที่ทางรัฐบาลได้ยื่นมือเข้ามาช่วยให้กับผู้ประสบภัยทางรถ และครอบครัวของผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้นั่นเอง
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พรบ รถยนต์ คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้ทำตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หากเจ้าของรถไม่ทำประกันชนิดนี้ จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และถ้าได้ทำประกันไว้แล้ว แต่ไม่ติดเครื่องหมายไว้ที่รถให้เห็นชัดเจน มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ประกัน พ.ร.บ. เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะตัวบุคคลที่ประสบภัยจากรถ แต่ไม่ได้คุ้มครองในส่วนของรถยนต์ (สำหรับประกันที่คุ้มครองทั้งคนและรถคือประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ) ซึ่งผู้ทำประกัน พ.ร.บ. นี้ จะได้รับความคุ้มครองเมื่อประสบภัยจากรถ ในกรณีได้รับบาดเจ็บ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จะได้ค่าชดเชย 100,000 บาท
3. การต่อพรบ. รถยนต์ ทำได้ง่ายๆ
ใน การต่อพรบ. รถยนต์ ส่วนใหญ่แล้วจะทำควบคู่ไปกับการต่อทะเบียนรถ โดยเอกสารที่ต้องใช้ได้แก่สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน 1 ใบ โดยมีบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับทำ โดยสามารถไปต่อได้ที่กรมขนส่งในแต่ละจังหวัด หรือสามรถต่อทางอินเทอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่ง