มารู้จักกับ ถนนต้นยาง เชียงใหม่–ลำพูน สวยงาม แปลกตา มากๆ
ความเป็นมาของถนนต้นยาง เชียงใหม่–ลำพูน ต้องเล่าย้อนไปกว่าร้อยปี ในปี พ.ศ. 2454 ที่ได้ก่อกำเนิดต้นไม้สองข้างทาง โดยหลวงเจ้าพระยาสุรสีหวิสิษฐ์ศักดิ์ ข้าหลวงคนแรกของมณฑลพายัพ ได้นำต้นยางนามาให้ชาวบ้านช่วยกันปลูกจำนวนกว่าพันต้นตลอดแนวถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตั้งแต่เชิงสะพานนวรัตน์เป็นต้นไปจนสุดเขตจังหวัดเชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน
โดยในเขตเชียงใหม่นั้นจะปลูกต้นยางทั้งสองฟาก และพอเลยเขตเชียงใหม่เข้าเขตลำพูนก็ให้ปลูกต้นขี้เหล็กแทน เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเขตแบ่งของสองจังหวัด ซึ่งต้นไม้ตลอดเส้นทางของถนนสายนี้มีร่วมสองพันต้น มีการปลูกเป็นแถวอย่างมีระเบียบ มีระยะห่างกันระหว่างต้นประมาณ 10 ถึง 20 วา ตลอดเส้นทาง
พอปลูกกันสองข้างทางแล้ว และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงมีการตั้งกฎข้อบังคับขึ้นมาใช้ในการดูแลรักษา ประมาณว่าปลูกแล้วก็ต้องช่วยๆกันดูแล ประเดี๋ยวมันจะไม่โต โดยมีกฎอยู่ว่า หากสัตว์เลี้ยงของผู้ใดเหยียบย่ำต้นไม้ที่ปลูกไว้จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 20 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน (หนักเหมือนกันนะครับ) และถ้าต้นยางนาปลูกตรงกับหน้าบ้านใคร ก็ให้เจ้าของบ้านผู้นั้นเอาใจดูแลถนุถนอมเลี้ยงเหมือนลูกเหมือนหลาน มีไม้อะไรก็ทำการล้อมรอบเป็นรั้วให้มันซะ วัวควายจะไม่ได้เข้ามาเหยียบย่ำให้ช้ำอุรา เท่านั้นยังไม่พอ ต้องหัดหมั่นรดน้ำพรวนดิน ดายหญ้า ใส่ปุ๋ย มันด้วย
สำหรับต้นยางนาที่ไม่ตรงกับหน้าบ้านผู้ใด ก็จะมอบหมายให้หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงรับผิดชอบไป โดยให้หัวหน้าหมู่บ้านจะนำลูกบ้านมาช่วยกันดูแลรักษา และด้วยกฎเหล็กที่โหดแบบนี้ จึงทำให้ต้นยางนาเจริญเติบโตได้ดีและสวยงาม ประหนึ่งลูกคนรวยที่ได้รับการเลี้ยงดู อย่างสมบูรณ์ พูนสุข
ปัจจุบัน ในช่วง 10 ปีที่หลังมานี้ ต้นยางถูกลดจำนวนลงไปอย่างมาก เหตุเพราะ มีการขยายตัวของชุมชนเข้าสู่การเป็นชุมชนเมืองมากยิ่งขึ้น กอปรกับการขาดการวางแผนการป้องกันระยะยาวอย่างจริงจัง ทำให้มีการก่อสร้างอาคารร้านค้าและที่พักอาศัยใกล้ชิดติดแนวถนน และการใช้ที่สาธารณะข้างถนนโดยขาดการอนุรักษ์ต้นไม้ โดยหันมามองเฉพาะด้านความปลอดภัยและผลประโยชน์ของบุคคลและกลุ่มคนแทน ไอ้ความสวยงามของต้นยางที่เคยเรียงรายในอดีต ตลอดสองฝากฝั่ง ก็เลยดูร่อยหรอลงไปมากและหากสภาพเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ เอกลักษณ์ของต้นยาง-ต้นขี้เหล็กที่เคียงคู่กับถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน คงจะเหลือเพียงแค่ตำนานที่เล่าขาน กับรูปถ่ายเก่าๆ เอาไว้ให้เหล่าลูกหลาน ได้ดูได้ฟังกันเท่านั้นแหละครับ !
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในสนามบินกัวลาลัมเปอร์ มานานเป็นปีราวกับเป็นบ้านของตัวเอง
หญิงสาวกินผมตัวเองมาตั้งแต่สมัยอนุบาลเป็นเวลา 20 ปี เจอ"ก้อนผม"หนัก 1 กิโลกรัมในท้อง
แกงกระด้าง:อาหารเหนือหน้าหนาว
ขนมหม้อทอง ขนมสมัยพระนารายณ์
ปักธงผืนสุดท้ายเหนือ "ปราสาทคนา" ทัพไทยบุกยึดคืนสำเร็จเป็นที่แรก แต่ปักธงสถาปนาชัยชนะเป็นที่สุดท้าย
ย้อนตำนาน “ขันทีหัวใจพระโพธิสัตว์” อ่านราชโองการผิดเพียงคำเดียว แต่ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์นับพัน
หญิงสาวกินผมตัวเองมาตั้งแต่สมัยอนุบาลเป็นเวลา 20 ปี เจอ"ก้อนผม"หนัก 1 กิโลกรัมในท้อง
เที่ยวสวนจตุจักร กรุงเทพฯ
ท่าแร่สว่างทั้งเมือง เปิดยิ่งใหญ่ “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส” ขบวนแห่คึกคัก–โดรนโชว์สุดตระการตา ดึงนักท่องเที่ยวคับคั่ง ยกระดับประเพณีศรัทธาสู่ Signature Thailand Event
วัดกู้ วัดเก่าแก่ในนนทบุรี ที่ต้องไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ มรดกประวัติศาสตร์แห่งลพบุรี ร่องรอยความรุ่งเรืองสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช