ทำไม??? พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ์ถึงได้ยาว
พระปรมาภิไธย(พระ+ปรม+อภิไธย แปลว่า ชื่ออันประเสริฐยิ่ง) หมายถึง พระนามของพระมหากษัตริย์ราชเจ้า ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ หลังจากที่ได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้วซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่4โดยพระองค์โปรดให้เฉลิมพระปรมาภิไธยแด่พระองค์เองและทรงเฉลิมพระปรมาภิไธย ถวายแด่ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ดังนี้
รัชกาลที่1:พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
รัชกาลที่2:พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่3:พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่4:พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎฯพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่5:พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่6:พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่7:พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่8:พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลฯพระอัฐมรามาธิบดินทร
รัชกาลที่9:พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร
พระปรมาภิไธยย่อคือการย่อพระปรมาภิไธยให้เหลือเพียง3ตัวอักษรโดยส่วนมากมักใช้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์และตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีและงานเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
ร.1. จปร ย่อมาจาก มหาจักรีบรมนาถปรมราชาธิราช
ร.2 อปร ย่อมาจาก มหาอิศรสุนทร ปรมราชาธิราช
ร.3 จปร ย่อมาจาก มหาเจษฎาบดินทรปรมราชาธิราช
ร.4 มปร ย่อมาจาก
มหามงกุฎ ปรมราชาธิราช
ร.5. จปร ย่อมาจาก มหาจุฬาลงกรณ์ ปรมราชาธิราช
ร.6 วปร ย่อมาจาก
มหาวชิราวุธ ปรมราชาธิราช
ร.7 ปปร ย่อมาจาก มหาประชาธิปก ปรมราชาธิราช
ร.8 อปร ย่อมาจาก มหาอานันทมหิดล ปรมราชาธิราช
ร.9 ภปร ย่อมาจาก มหาภูมิพลอดุลยเดชปรมราชาธิราช
โดยพระปรมาภิไธยของบางพระองค์จะซ้ำกันดังนั้นเพื่อให้ทราบว่าเป็นรัชกาลใดเมื่อประดิษฐ์เป็นตรา ท่านจะเขียนหมายเลขประจำรัชกาลไว้ระหว่างพระจอนของพระมหาพิชัยมงกุฎหรือถ้าเขียนเป็นข้อความอาจมีเลขประจำรัชกาลต่อท้าย
พระปรมาภิไธยโดยสังเขปตามแบบพระราชนิยมรัชกาลที่ 6
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชนิยมให้ใช้พระปรมาภิไธยโดยสังเขปโดยมีคำนำหน้าว่า"รามาธิบดีศรีสินทร"ทุกรัชกาล โดยพระองค์ได้ถวายพระปรมาภิไธยแก่บูรพกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกรัชกาล และเฉลิมพระปรมาภิไธยของพระองค์เอง ดังนี้
รัชกาลที่ 1: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 1
รัชกาลที่ 2: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาอิศรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 2
รัชกาลที่ 3: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรเจษฏาธิบดินทร์ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 3
รัชกาลที่ 4: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฏ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 4
รัชกาลที่ 5: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 5
รัชกาลที่ 6: พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมด็จพระรามาธิบดีที่ 6
ส่วนในภาคภาษาอังกฤษนั้นโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คำว่า "Rama" แล้วตามด้วยหมายเลขลำดับรัชกาลแบบเลขโรมันตามธรรมเนียมยุโรป
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะให้พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีใช้พระปรมาภิไธยโดยสังเขปตามแบบข้างต้นสืบไปทุกรัชกาลแต่เมื่อรัชกาลที่7เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติการใช้พระปรมาภิไธยก็กลับไปใช้ตามแบบพระราชนิยมของรัชกาลที่4เช่นเดิมอย่างไรก็ตามการใช้คำว่า"Rama"แล้วตามด้วยหมายเลขลำดับรัชกาลเพื่อสื่อถึงพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ยังคงใช้สืบมาจนถึงปัจจุบัน
พระปรมาภิไธยที่ลงไว้ในบทความนี้เป็นพระปรมาภิไธยที่เผยแพร่โดยทั่วไปโดยพระปรมาภิไธยที่แท้จริงนั้น มีความยาวมากแอดมินจะลงไว้ในพระรูปของราชกาลนั้นๆ
#ขอบคุณคำถามจากแฟนเพจ
ขอบคุณข้อมูลจากจากหนังสือ พระสุพรรณบัฎ.
ขอบคุณรุปภาพจากหลายๆเวป
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=931098216969424&id=679296892149559