ถ้าจะมีรักทั้งที ไม่ควรมีด้วยเหตุผลเหล่านี้
อันดับ 1 มี รักเพราะเหงา
มาตรฐานการเลือกผู้ชายของคุณจะลดลง อย่างเห็นได้ชัด คุณขอแค่ใครก็ได้ ช่วยทำให้ฉันหายเหงาทีเถิด พอหายเหงา เขาก็หมดความสำคัญ แล้วที่ตกลงคบกันเป็นแฟน ไปแล้วล่ะ จะให้ทำไง? เลิกเลยใช่มั้ย แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เพราะถ้าคุณเหงาอีกเมื่อไร ก็ต้องหาคนแก้เหงาคนใหม่อีก
อันดับ 2 มี รักเพราะแรงดึงดูดทางกาย
เจอผู้ชายคนนี้ทีไร สารเคมีในร่างกายเป็นวิ่งพล่านทุกที คุณคิดว่า ?ฉันพร้อมแล้วที่จะมีความ รัก กับเขา? ช้าก่อน! นั่นอาจเป็นแค่ปฏิกิริยาเคมีในร่างกายที่ต้องกันเท่านั้น ถ้าคิดจะสานสัมพันธ์กับชายคนใด ควรให้เกิดปฏิกิริยาทางใจมากกว่า ความสัมพันธ์ทางกายกับความรักทางใจ
อันดับ 3 มี รักเพราะถูกกดดัน
คุณไม่เคยมีแฟนมาก่อน จึงอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าคุณมีดีพอที่จะมีแฟนได้เหมือนกัน หรือมีแต่คนถามว่าอายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังไม่มีแฟนสักที เพราะงั้น...ฉันต้องรีบหาแฟนก่อนจะหวำเหงอะไปกว่านี้ รู้มั้ยว่าคุณกำลังสร้างความสัมพันธ์แบบผิด ๆ อย่างใหญ่หลวง เพียงเพราะต้องการผู้ชายสักคนมาลดความกดดันของคุณเอง
อันดับ 4 มีรักเพราะหาความมั่นคง
ความเชื่อว่าการมีคู่รักสามารถสร้างความมั่นคงให้คุณได้ ทั้งทางสังคมและการเงิน เป็นความเชื่อที่ผิดถนัด เพราะเท่ากับว่าถ้าเลิกกับแฟนเมื่อไร ความมั่นคงในชีวิตของคุณต้องหายไปด้วยงั้นสิ? ทั้งที่ชีวิตที่มั่นคงสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยมือคุณเอง มิต้องคอยให้เจ้าชายมาสร้างให้หรอก
และ
อันดับ 5 (อันนี้ขอเพิ่มจากประสบการณ์ตรง) มีรักเพราะเพื่อนยุ
สมมุติแกล้งล้อ แกล้งแซว เพื่อจับคู่กัน ไม่ว่าจะตอนเรียน ตอนทำกิจกรรมหรือรายงานร่วมกันหรือแม้แต่ตอนทำงานในที่ทำงานเดียวกัน พอโดนล้อจับคู่หรือแซวบ่อยๆ ก็มักจะใจอ่อนเหมือนถูกโน้มน้าวให้หันมาสนใจหรือคบๆกันตามกระแส ประมาณนี้
หรือ
อันดับ 6 รักเพราะคิดว่าใช่ คิดว่าเข้าใจดี (อันนี้ก็จากประสบการณ์ตรง)
ถ้าเราคิดจะรัก เพียงเพราะเขาเข้าใจสภาพครอบครัวเรา เช่น ไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่คิด หรือ ไม่ได้ดีพร้อมหรือเข้าขั้นเพอร์เฟค หรือแม้แต่อีกฝ่ายสูงส่ง มีพร้อมกว่า เช่น ฝ่ายหญิงมีรถยนต์ มีบ้านเป็นของตัวเอง ส่วนฝ่ายชายมีแค่มอไซต์และมีบ้าน 1 แถว จากคูหาของอาคารพาณิชย์เพียงเท่านั้น เพราะในท้ายที่สุด ตราบใดที่ฝ่ายชายยังไม่ดีดตัวเองมา หรืออาจจะดันตัวเองช้ากว่าที่ฝ่ายหญิงต้องการ ก็จะถูกดูถูกหรือเข้าขั้น "ข่ม" ว่าฉันเหนือกว่า...ก็เป็นได้