อสังหาฯ เดือนสุดท้ายปี 59 แผ่ว!!!
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในเดือนธันวาคม 2559 ยังหดตัวต่อเนื่องโดยมีมีจำนวนหน่วยขาย มูลค่าโครงการ และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง ราคาเฉลี่ยในเดือนนี้ค่อนข้างต่ำ คือ 3.247 ล้านบาทต่อหน่วย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในเดือนธันวาคม 2559 มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในแง่ของจำนวนโครงการ โดยในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 33 โครงการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2559 จำนวน 3 โครงการ แต่มีจำนวนหน่วยขาย มูลค่าโครงการ และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง ซึ่งลักษณะการเปิดขายใหม่เป็นการเปิดขายในกลุ่มที่อยู่อาศัย 32 โครงการ และเป็นโฮมออฟฟิศอีก 1 โครงการ ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายรวม 6,659 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 21,824 ล้านบาท
สำหรับในรายละเอียด ดร.โสภณ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทาวน์เฮาส์กลับเปิดตัวมากกว่าห้องชุดในเดือนธันวาคม 2559 โดยทาวน์เฮาส์ราคา 1-2 ล้านเปิดขายมากที่สุด คือ 2,360 หน่วย รองลงมาคือห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,001 หน่วย ส่วนอันดับ 3 กลายเป็นบ้านแฝดราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 863 หน่วย ส่วนบ้านเดี่ยวเปิดขายในราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 707 หน่วย ราคาเฉลี่ยในเดือนนี้ค่อนข้างต่ำ คือ 3.247 ล้านบาทต่อหน่วย
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย พบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 16% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 34% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุดอันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,001 หน่วย ขายได้แล้ว 425 หน่วย (42%) รองลงคือ อาคารชุดราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 402 หน่วย ขายได้แล้ว 137 หน่วย (34%) และอันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 114 หน่วย ขายได้แล้ว 32 หน่วย (28%)
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 4 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัยจำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 6 โครงการ ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 23 โครงการ เช่น ถนนรามอินทรา ถนนพระราม 2 ถนนบางนา-ตราด ถนนศรีนครินทร์ ถนนเอกชัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 4 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัย เช่น ย่านรังสิต-นครนายก และย่านถนนเศรษฐกิจ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคมนี้ทาง REI ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 387 โครงการ โดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว ดร.โสภณ และคณะ จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป
อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจที่ดี การที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงในปี 2559 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 - 2558 แสดงว่าเศรษฐกิจตกต่ำ สวนทางกับทางราชการที่มักให้ข้อมูลว่าเศรษฐกิจดี