เคล็ดไม่ลับ วิธีเก็บรักษาหนังสือไม่ให้เก่าหรือเหลือง
ลองนำไปใช้กันดูนะ....
เผื่อหนังสือของเราจะได้อยุ่กับเราไปนานๆ
ขั้นแรก : การใส่ปกพลาสติก
แนะนำเลยนะคะว่าการใส่ปกพลาสติกนี่แหละช่วยได้มากเลยค่ะ ข้อดีของการที่ใส่ปกพลาสติกให้หนังสือก็คือ
-แก้ปัญหามุมปกยับหรือถลอกปอกเปิกก่อนกาลเวลา
-ช่วยรักษาสภาพปกให้สีสดสวย ไม่เป็นริ้วรอยจากการเสียดสีกับหนังสือเล่มอื่นๆ
-เป็นปราการชั้นนอกในการปกป้องหนังสือของเราจากความเลินเล่อของเจ้าของ เช่น บางครั้งหยิบLSKออกมาอยู่ดีๆเกิดอาการภูมิแพ้กระทันหันจามขนานใหญ่น้ำมูกกระเด็น
ไปติดหน้าครีอุส หรือเอามานั่งอ่านเล่นคู่กับการจิบชาชมจันทร์ บังเอิญทำน้ำชากระเด็นไปโดนปก เมื่อมีปกพลาสติกใสหุ้มอยู่ก็ช่วยรักษาสภาพไว้ได้ส่วนนึง
-สำหรับคนที่หงุดหงิดเวลาหยิบมาอ่านแล้วหาที่คั่นไม่เจอ ยังสามารถสอดที่คั่นไว้กับปกด้านของปกพลาสติกได้ด้วยค่ะ เวลาหยิบมาอ่านก็สะดวกดี ไม่ต้องหาที่คั่นให้วุ่นวาย
แต่มีข้อดีก็มีข้อเสียนะคะ ข้อเสียก็คือ
-หากเก็บอย่างไม่ระมัดระวังปกจะย่น
ดังนั้นเวลาเราใส่พลาสติกหุ้มปกต้องระมัดระวังหน่อย เรามาดูวิธีการกันดีกว่า
-เริ่มจากไปซื้อปกพลาสติกมาใส่นะคะ ซื้อได้ตามร้านหนังสือค่ะ ปกละสามบาท ถ้าเขาใ่ส่มาแล้วก็แล้วไป
-นำปกมาห่อให้พอดีหนังสือ ตัดส่วนเกินที่ยื่นออกมาด้านล่างทิ้งไป อย่าเสียดายค่ะ เพราะถ้าปกไม่พอดีกับหนังสือ นานๆไปมันจะย่นค่ะ ถ้าที่ร้านห่อให้เองก็ต้องดูการห่อ
ด้วยแนะนำว่าที่ซีเอ็ดจะห่อดีมากค่ะ เพราะเขาจะตัดปกส่วนเกินให้เราและติดเทปกาวให้ด้วย ซึ่งถ้าเขาติดกินเนื้อที่เข้ามาที่ปกหนังสือก็ดึงเทปกาวนั้นออก
แล้วติดใหม่ซะนะคะ เทปกาวนั้นหากปล่อยไว้นานๆมันจะเป็นรอยเหนียวๆติดหนังสือเราค่ะ ต้องระวังไม่ให้มันล้ำมาที่หน้าปก ให้ติดยึดกับแผ่นพลาสติกก็พอค่ะ
ถ้าใครอยากดูวิธีการใส่ปกที่ดีล่ะก็ แนะนำให้สังเกตพี่พนักงานซีเอ็ดเวลาใส่ปกให้เราค่ะ จำเอาวิธีมาใช้ได้เลย เป็นวิธีที่ดีมากค่ะ แต่สำหรับบีทูเอสนั้น เขาจะใส่ปกที่พอดีกับหนังสือมาให้เรา ซึ่งจะเหลือพื้นที่เล็กน้อย เราต้องมาตัดเอง
-ก่อนใส่ปกเช็ดหน้าหนังสือให้เรียบร้อยนะคะ เวลาใส่ปกแล้วจะได้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมกดทับอยู่บนหน้าปกหนังสือเราค่ะ
ขั้นที่สอง:การจัดเรียง
-ควรเรียงเป็นหมวดหมู่นะคะ เช่น หมวดนิยายรัก หมวดแฟนตาซี ถ้าหากแยกสำนักพิมพ์ด้วยก็จะดีมากค่ะ ของฉันเรียงเป็นหมวดๆก่อนค่ะ เช่นหมวดนิยายแฟนตาซี ก็จะจัดเป็นของเอ็นเทอร์ ฟิสิกส์ นานมีบุ๊ค เรียงเรื่องเรียงเล่มกันไปค่ะ
-ไม่ควรให้หนังสืออัดกันแน่นเกินไป ใครที่คิดว่าเรียงหนังสือแน่นๆจะช่วยประหยัดเนื้อที่และช่วยให้หนังสือเข้ารูปไม่งอไม่พองนั้น เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลย
การให้หนังสือมีอากาศถ่ายเทเป็นเรื่องจำเป็นมากนะ การจัดเรียงช่องว่างระหว่างเล่มให้พอดีจะช่วยให้หนังสืออยู่กับเราไปอีกนาน
โดยการกะก็ง่ายๆค่ะ คือให้เรานำหนังสือมาจัดเรียงให้เต็มตู้ก่อน แล้วจึงดึงออกเล่มหนึ่งค่ะ จากนั้นก็ขยับหนังสือที่เหลือให้เต็มช่องว่าง (อย่าใส่เพิ่มอีก) เพียงเท่านี้
หนังสือก็จะมีช่องว่างระหว่างเล่มที่พอเหมาะแล้ว จะช่วยกำจัดปัญหาหน้าปกหนังสือเป็นรอยเพราะติดกัน,ปกพลาสติกย่นแถมติดกับหน้าปกจนหน้าปกลอก แล้วยังช่วยให้
หนังสือสามารถถ่ายเทความชื้นได้อย่างพอเหมาะ หนังสือก็เข้ารูปแถมไม่เป็นการทำร้ายหนังสือด้วยค่ะ
-การวางหนังสือแนวตั้งจะช่วยเก็บรักษาหนังสือได้ดีกว่าวางซ้อนกันในแนวนอนนะคะ นอกจากจะหยิบง่ายกว่า ยังทำให้ได้รับความกระทบกระเทือนน้อยกว่าด้วยค่ะ แถมยังช่วยการระบายอากาศ จะช่วยหนังสือคงสภาพได้นานขึ้นค่ะ
-เวลาจัดวางหนังสือควรวางตั้งตรงให้พอดี ในกรณีที่หนังสือน้อยจะทำให้เหลือพื้นที่ในตู้หนังสือ ควรหาที่กั้นมาวางให้หนังสือตั้งตรงพอดีนะคะ ไม่ควรปล่อยให้มันเอียงตาม
ยถากรรม เพราะนั่นจะทำให้มุมปกยับและช่วงล่างเสียรูป การจัดวางให้พอดีนอกจากจะเป็นระเบียบแล้วยังช่วยรักษาสภาพได้ดีด้วยค่ะ
-เมื่อเก็บหนังสือแล้วอย่าเก็บแล้วเก็บเลยไม่หยิบมาเปิดนะคะ ใครคิดว่าการเก็บหนังสือขึ้นหิ้งโดยไม่แตะต้องจะทำให้หนังสือมีสภาพใหม่ คุณคิดผิดค่ะ เพราะการเก็บหนังสือ
ขึ้นหิ้งอย่างดีโดยที่ไม่แตะต้องหรือแยแสมันเลยจะทำให้หนังสือเหลืองเร็วขึ้นค่ะ เนื่องจากมีฝุ่นละอองที่ลงมาเกาะหน้ากระดาษแถยังล่อพวกแมลงไม่ประสงค์ดีมาแทะ
หนังสืออีกต่างหาก แต่ถ้าบ้านคุณใช้ไบกอนยังไงก็ยังประสบปัญหาหน้าเหลืองเร็วเหมือนกันค่ะ ทางที่ดีที่สุดคุณควรจะหยิบหนังสือออกมาเช็คสภาพอย่างต่ำครึ่งเดือนครั้ง
นำเขามาเปิดอ่านอย่างทะนุถนอมบ้าง หรือไม่ก็นำมาปัดฝุ่น จัดเรียงเสียใหม่ .....จะเก็บหนังสือไปทำไมเมื่อเราไม่เอาออกมาอ่านอีก
หนังสือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อถูกอ่าน ไม่ใช่ถูกเก็บอย่างดียิ่ง การที่เรานำหนังสือออกมาอ่านอย่างทะนุถนอมจะช่วยยืดอายุหนังสืออย่างมหัศจรรย์
แม้คุณอาจจะคิดว่า ถ้าเอามาอ่านก็เก่าหมดน่ะสิ หรือ เอามาอ่านก็ยับน่ะสิ แบบนั้นถ้าคุรจะเก็บไว้ขายก็ทำได้ แต่ถ้าเก็บอ่านเอง การเอาออกมาอ่านจะช่วยยืดระยะเวลา
ชีวิตของหนังสือออกไปอีก เพราะทุกครั้งที่คุณหยิบมันขึ้นมา คุณจะสามารถรู้ได้ว่ามันชำรุดตรงไหน ต้องดูแลตรงไหนเพิ่ม สำหรับฉันที่คิดว่าหน้ากระดาษมีชีวิต
การทำแบบนี้ก็เหมือนทำให้หนังสือมีความสุขเมื่อหนังสือมีความสุขเขาก็จะอยู่กับเรานานขึ้น
******* เพิ่มเติมนะ^^ เห็นเม้นกันมาว่าไม่มีชั้นเก็บหนังสือ หนังสือเยอะเกินไป วางทิ้งไว้แล้วฝุ่นจับปัดยาก
ลองวิธีนี้ดูนะคะ
ทุกท่านรู้จักกระดาษลังหรือเปล่าคะ^^ หากบ้านใครมีกล่องกระดาษลังขนาดประมาณไหนก้ได้ค่ะ ขนาดต้องกะเอาตามหนังสือ ของฉันที่ใช้อยู่ตอนนี้เป็นลังของแจ่มใสที่เวลาสั่งซื้อแล้วอะไรแล้วจะได้มานะค่ะ (ลังพัสดุไปรษณีย์ต่างๆก็ได้ค่ะ) ฉันเอาลังพวกนี้มาทำชั้นวางหนังสือค่ะ ประหยัดเนื้อที่ดีมาก เพราะห้องของฉันเล็กมากค่ะ แล้วของก็รกมาก ตู้หนังสือที่มีจึงมีแค่ตู้เล็กๆตู้เดียวๆ แต่หนังสือที่มีเยอะขึ้นทุกวันมันก็ไม่มีที่เก็บ ฉันเลยทำแบบนี้ค่ะ
-เอากล่องลังต่างๆมาตะแคงตามแนวนอนแล้วตัดฝาปิดออก
-เอาเทปกาวมาติดยึดรอยต่อต่างๆในกล่องให้แน่น
-นำกระดาษสีหรือกระดาษห่อของขวัญมาห่อให้สวยงามตามยถากรรม
-เพียงเท่านี้ก็จะได้ชั้นวางหนังสือแบบเคลื่อนย้ายได้ขนาดพกพาแล้วค่ะ
และเนื่องจากว่ากล่องพัสดุที่นำมาทำมีขนาดเล็ก ใส่หนังสือ (แบบใส่ตั้งตามชั้นปกติ) ได้แค่กล่องละ 4-6 เล่ม แล้วแต่ความหนาบาง ฉันจึงทำหลายๆกล่อง มาวางเรียงต่อกันไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของฉัน แถมยังซ้อนกันให้สูงขึ้นไปตามความเหมาะสมได้ด้วยค่ะ ซึ่งลายกล่องแต่ละกล่องของฉันก็ต่างกันออกไป มันก็เลยสวยและเพิ่มชีวิตชีวาให้กับโต๊ะเขียนหนังสือของฉันได้ไม่น้อยเลยค่ะ อีกทั้งประหยัดพื้นที่ แค่ 4 กล่องมาวางเรียงกันก็ใส่หนังสือได้ราวๆ 20 เล่มเลยล่ะค่ะ และเพื่อความมั่นคงฉันจึงติดแถบกาวสองหน้ายึดพวกมันไว้ด้วยกันและยึดตรึงกับกำแพงซะเลย (เสียดายไม่มีกล้อง อยากให้เห็นภาพจังค่ะ)
วิธีป้องกันฝุ่นก็ไม่ยาก ฉันก็แค่หาผ้ามาคลุมกล่องพวกนี้ทั้งหมด (เอาผ้าม่านผืนเก่าในห้องนอนมาซักให้สะอาดแล้วเอามาคลุมน่ะค่ะ) เวลาจะหยิบใช้ก็เปิดผ้าออก แถมยังเอาออกไปซักไล่ฝุ่นได้ทุกอาทิตย์ สะดวกมากค่ะ แล้วเวลาที่คลุมผ้าแล้วหากต้องการความสวยงามก้หาเข็มกลัดงานมีตมาติดประดับไว้ได้ด้วย ดูเก๋ไก๋ชไมพรลดโลกร้อนและขยะไปได้อีก