EP 01 : วังนกแก้วรีสอร์ท – น้ำตกเอราวัณ – เมืองมัลลิการ์ – ปราสาทเมืองสิงห์ (เทวาลัยเจ้าแม่นาคี) #ฉบับไม่มีรถส่วนตัว
สวัสดีครับ นี่คือกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวแรกของผม ขอนำเสนอเที่ยวกาญจนบุรี
แบบไม่มีรถส่วนตัว (แต่ก็ไม่ได้ประหยัดนะ 5555 )
ลองมาดูกันว่าหากมี Life Style ที่คล้ายๆกันผมว่าลองเที่ยวแบบนี้ดูน่าจะเหมาะครับ
Day 1 กรุงเทพฯ – วังนกแก้ว จ.กาญจนบุรี
เดินทางจากรถตู้หมอชิต ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ พอมาถึง บขส.
ก็ต้องไปหารถตู้ที่เขียนว่า ไป อ.ทองผาภูมิ เพื่อจะเดินทางต่อไปยังที่พัก
ที่พัก : วังนกแก้ว รีสอร์ท ห้องพักที่เลือกเป็นลักษณะที่นอนในแพ
เปิดประตูมาติดริมแม่น้ำเลยครับ ราคาช่วงที่ไปอยู่ที่ 2,600 TH฿
- รวมอาหารเย็น-อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ (อาหารดีมาก!!!)
- กิจกรรมถ่อแพไปน้ำตกเอราวัณ
- กิจกรรมปล่อยลอยคอในน้ำ
ทางลงห้องพักครับ
มุมถ่ายรูปจัดปายยยย
บรรยากาศครับ
ด้านล่างมีฝรั่งนวดตัวเต็มไปหมด คิวยาวมาก
เอาจริงๆนะ แค่ถ่ายรูปในรีสอร์ทก็หมดเวลาแล้วครับ ลักษณะของรีสอร์ทมีหลายแบบให้เลือกครับ
นอกจากริมแม่น้ำ ยังมีห้อง River View หรือ พักเป็น Villa ก็มีครับ
ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย
Day 2 วังนกแก้ว – น้ำตกไทรน้อย – เมืองมัลลิการ์ – สะพานข้ามแม่น้ำแคว – กรุงเทพฯ
ตื่นเช้ามารีบออกมาถ่ายรูปกันครับ
แพที่ใช้ถ่อออกไปก่อนจะปล่อยให้ลอยคอกลับมา
เช้ามาก หมอกหนักมาก
แต่งตัวเสร็จก็เริ่มมาทานอาหารเช้าครับ ไม่จัดเต็มเท่ามื้อเย็นแต่ก็คุณภาพดีเชียว
จากนั้นก็รอให้รถสองแถวที่คุยกันมารับ ผมตกลงราคากับเค้าว่าเราจะเหมารถ 1 วัน
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1. ต้องขับมารับผมที่รีสอร์ท (ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ 100 กิโล)
2. ราคาที่ตกลงรวมค่าน้ำมันรถแล้ว
3. เน้นถ่ายรูป ไม่รีบ ต้องรออย่างใจเย็น
ราคาอยู่ที่ 1,800 บาท
(ไม่แน่ใจว่าแพงมั๊ย แต่ผมรับได้นะดีกว่าเช่ารถเติมน้ำมันเองขับเอง)
น้ำตกไทรน้อย (ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะนักท่องเที่ยวเยอะมากครับ)
- สวยดีครับ น้ำเป็นสีเขียวอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดมาก
เดินขึ้นไปอีกหน่อยจะเจอรถไฟเก่า ให้ได้ถ่ายรูป ด้านบนมีศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้
เมืองมัลลิการ์
- นี่เปิดใหม่เลยครับ เห็นหลายๆกระทู้รีวิวไปแล้ว รายละเอียดก็ตามนั้น แต่ในมุมไปเที่ยวจริง ก็ต้องบอกว่า โอเคเลย ค่าเข้าตอนนั้น 150 TH฿ ต่อคน ค่าเช่าชุดผู้ชาย 100 TH฿ ของ ผู้หญิงก็ 200 TH฿ เข้าไปก็เจอกับร้านรวงต่างๆ พนักงานก็พากันแต่งตัวย้อนยุคครับ มาเพื่อถ่ายรูปเลย เดินตรงเข้าไปก็เจอเรือนไทย หลายเรือนอยู่ครับสวยงาม ทำเหมือนฉากในละคร สมจริงแข็งแรง เอาตรงๆก็คุ้มนะ แนะนำว่าถ้ามาที่นี่ต้องเปลี่ยนชุดเท่านั้น
ข้อควรระวัง : เราจะต้องแลกเงินโดยใช้เป็นเงินสตางค์ ซึ่งมันทำให้เรา คำนวณไม่ทันว่า ของกินที่ขายในนั้น 5 สตางค์ เป็นเงินกี่บาท มันจะเพลินมากกับการจ่าย รู้ตัวอีกที ก็หมดไปหลายร้อยบาท แหะๆ
ปราสาทเมืองสิงห์
- สำหรับแฟนละครนาคี คงจะคุ้นตา เพราะเป็นใช้เป็นโลเคชั่นหลักสำหรับถ่ายทำ เป็น “เทวาลัยเจ้าแม่นาคี บ้านดอนไม้ป่า” ของจริงสวยมาก สวยแบบบรรยายไม่ถูก ไม่แน่ใจเป็นศิลปะจากไหน ถ้าให้เดาคงจะเป็นพวกขอม อีกทั้งการก่อสร้างยังเป็นลักษณะของการนำหินมาซ้อนกัน ย้ำว่าแค่ว่าซ้อนกัน เพราะลองไปขยับยังขยับได้เลยครับ สำหรับคนไทย ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ถ้าเอารถเข้าไปต้องจ่าย 50 TH฿ เลยตัดสินใจเดินเข้ามาดีกว่า ประหยัดเงิน ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปนะครับ
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
- ที่สุดท้ายก่อนหมดเวลา จะต้องรีบกลับ กรุงเทพฯ ตรงนี้เหมือนจะเป็น Signature ทุกคนที่ไปกาญจน์ จะต้องไปตรงนี้ ทางรถไฟยังคงใช้งานตามปกติ มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันหนาตา ข้างๆก็จะมีร้านขายเสื้อผ้าขายขนมมากมาย ซึ่งราคาก็ไม่แพง ไม่ได้ชาร์จมากมายครับ
จบลงไปเรียบร้อยสำหรับการ Review ทริปเร่งรีบ แบบคนไม่ค่อยมีเวลาครับ ติชมและติดตามได้ในโอกาสต่อๆไปนะค้าบ ปล. ส่วนมากเน้นการถ่ายรูปตัวเองมากกว่ารูปวิว ต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะครับ
ส่วนเสื้อผ้านั้นมีการเปลี่ยนตลอดครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นใน 1 วันครับ
ติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆได้ทาง
Facebook : www.facebook.com/kaiitonkz