ความสุขของคนไทยแท้ๆ เกี่ยวข้าว ชนไก่ ไล่หนู สู้ฝน ปนหมอก
เกี่ยวข้าว ชนไก่ ไล่หนู สู้ฝน ปนหมอก ความสุขของคนไทยแท้ๆ
ผมไปเบิ่งอีพ่อเกี่ยวเข่าเที่ยวนี่ เป็นครั้งที่คุ้มค่าที่สุดอีกเที่ยวนึง เวลาแค่สามมื้อแต่หากได้สัมผัสกับทุกบรรยากาศ
มาเบิ่งครับพี่น้อง
มื้อนี่เป็นมื้อเกี่ยวเข่าของนาพ่อสาวขะแมร์ กะเริ่มจากแม่(แม่สาวขะแมร์) ลุกแต่เช้ามาข้างหม้อเฮ็ดแนวอยู่แนวกิน
ส่วนลูกสาวเทวดา...โอ๊...ปริญญาสองคนเพิ่นยังบ่ได้เวลาตื่น ขอเซียบ(งีบ)อีกจักหน่อยก่อนว่าซั่น
มีแต่สั่งความมาว่า "ให้แม่ต้มน้ำไว้ให้หนูชงกาแฟด้วยนะ" พะนะลูกสาวกะดาย
ผมเหลียวหาด้งซิ้น บ่เห็นเว้ย...เห็นเข่าปุ้นเข่งนึง ซาวกิโล...เพิ่นสิเอาบุญเฮียนมื้อเดียวกันนี่บ้อ สงสัย
บ่ได้เอาบุญดอกครับ เอาเข่าปุ้นมาไว้ เทือมีคนมาซ่อยเกี่ยวเข่า พอได้เลี้ยงเพิ่น
น้ำยาบ่แล้วง่าย หาแนวใส่งายซะก่อน สิบ่ได้ลงนาเป็น
มาใส่งายนำกันก่อนครับพี่น้อง ป่นปลาทูกับส้มผักก่าม....เดือนสิบสองผักก่ามป่งยอดแล้วครับ
แม่นหยังน้อทางนี่...เพิ่นว่าอย่าฟ่าวหลายเถาะ โรงสีเขาบ่เซาซื้อง่ายดอก ให้ไหว้ครูซะก่อน ว่าซั่น
อย่างที่ผมเคยเว้าให้พี่น้องฟังนั่นละครับ ยามทุกข์เพิ่นกะทุกข์คือกันนั่นละ แต่เพิ่นกะมีแนวมาซ่อยผ่อนคลาย ซ่อยปลดปล่อย บ่ให้เครียดไปหลายกว่าเก่า
ผู้อยู่ทางในเมืองเช่นพี่น้องบ้านมหาหลายๆ คน รวมเทิงผมนำ กะสิคลายเครียดโดยเบิ่งหนังฟังเพลงไป ย่างห้างตากแอร์ เหตุผลกะคือสิบ่ลื่นกันเนาะ
เข่าขอบในนามันสิสำคัญไปกว่าไก่ตีไปบ่ได้
พี่น้องฟากฮั้วทางนั้นกะบ่ค่อย
เข่าแล้งแก่บ่ทันกัน หม่องขอบกะขอบ หม่องล้มกะล้ม ฝนกะคึดตะมื้ออยากตก รถเกี่ยวกะคิวยาว เฮ็ดนาปัญหาหลายอย่างครับ
กินเข่ากินน้ำ รถกะมาแล้ว ลงมือละบาดนี่
วันหยุดราชการ พี่น้องมาซ่อยกันหลาย เทิงเป็นนาติดบ้านนำแน่ ไผกายไปกายมากะแวเบิ่ง
เกี่ยวไปเกือบเคิ่งท่ง อุ้มแรกกะมา
สมกับแล้ง แต่เข่าหอมมะลิ กะเม็ดงามอ่วยซ่วยอยู่ครับ
มา...เซากินเข่าปุ้น ขนมจีนน้ำยา ก่อนบาดนี่
ขนมจีนน้ำยาไก่กะทิ สูตรแม่สาวขะแมร์ ชนิดโขลกละเอียด บ่มีต่อนกับบ่ใส่ผักซีลาวเด้อครับแต่แซบบ่ค่อย
คือแบบที่ขายทางในเมืองนั่นละครับ แต่เนื้อไก่หรือน้ำแกงเพิ่นสิเข้มข้นกว่าจักหน่อย บักแตงโมยโสธรเจ้าเก่า
ซ่อยกันเบิ่งบ่ให้เข่าเฮียนำข้างทางรถ
แม่นหยังน้อบาดเนี่ย เข่าเฮี่ยทิได๋
ลัดสูลัด ไปแล้ว ไปแล้ว
โอ้ย...เห็นหลายๆ ทีแรกว่าแม่นมาซอยกันเกี่ยวเข่า พากันมาไล่หนูติซั่น
ผลงานชิ้นโบว์แดง หนูมีแต่โตเคิ่งโลเกินครับพี่น้อง ผู้ละโตสองโต รวมๆ ประมาณซาว
ปีนี่กะคือปีที่ผ่านมาครับ ฮูหนูมุ่นอุ้ยปุ้ยทุกข้างๆ คันแทนา
แปวนำโพน นำหลังคันแท เกี้ยงมิ้นลิ้น
ชีวิตบ้านนา
คาราบาว
ชีวิตบ้านนา
อยู่ตามประสาป่าดอน
จับคันไถฝ่าลมแดดร้อน
นอนฟูกฝางช่างมีสุขใจ
ไม่ต้องกังวล
น้ำมันรถยนต์จะขึ้นเท่าใด
ขี่ควายไปถึงไหนไหน
ไกลแสนไกลไม่บ่นสักวัน
แรงควายไถ่นา
มันกินหญ้าไม่เปลืองน้ำมัน
ตายก็แกงแบ่งเนื้อกินกัน
คุณของมันก็มีมากหลาย
ชีวิตบ้านนา
รักวาจาทั้งหญิงและชาย
ซื่อจนเขาว่าโง่อย่างควาย
รู้จักอายเจียมใจเจียมตัว
ชีวิตบ้านนา
อยู่ตามประสาพวกเรา
ห่างไกลแสงและสียั่วเย้า
รักพวกเราเหมือนดังครอบครัว
อับจนพึ่งกัน
หัวใจรักมันไม่เห็นแก่ตัว
ไม่เคยมีความรักเมามัว
ตัวของตัวได้พึ่งตัวเรา
ดงดอนบ้านนา
ไกลสุดตาข้ามีขวัญใจ
ซื่อเหมือนข้ามอบรักไว้ให้
ชีวิตในบ้านนาป่าเขา
เย็นพักจากนา
หุ้งข้าวปลาไว้คอยท่าเรา
ข้าวแกงร้อนน้ำปลาสะเดา
พร้อมหน้าเจ้าลูกเมียเคลียคลอ
ชีวิตบ้านนา
กลิ่นโคลนฟางและสาบควาย
ชั่วชีวิตตรากตรำเหนื่อยกาย
ขายข้าวมาเลี้ยงตัวไม่พอ
แผ่นดินแห้งแล้ง
ฟ้าฝนเหมือนแกล้ง
คอยน้ำแห้งตอ
อดอยากมากมายมาพอ
ชีวิตหนอลำบากยากใจ
เจียมตัวทุกคน
ยังไม่พ้นผู้คนเขาชัง
คนหนอคนอกเขาเรามั่ง
ในท้องคลังเจ้ารู้บ้างไหม
ชีวิตบ้านนา
หรือผู้ดีมั่งมีอย่างไร
เกิดมาแล้วก็ต้องดับไป
ขอแต่ตายไปบนความดี