หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิทยาศาสตร์วันละนิด:10 อันดับ สิ่งที่เหลือเชื่อว่ามันอยู่ในอาหารจานด่วน

โพสท์โดย BesTBBoY


หน้าที่ 1 - 10 อันดับ สิ่งที่เหลือเชื่อว่ามันอยู่ในอาหารจานด่วน

          คนเราในสังคมทุกวันนี้นึกถึงความสะดวกสบายมากกว่าความจริงของอันตรายที่อยู่รอบตัวเรา ดังเช่น อาหารที่เรากินทุกวันนี้มักจะมีเรื่องที่น่าตกใจตลอดทุกครั้ง ว่ามีสารเคมีที่ไม่น่าเชื่อว่าแฝงอยู่ในอาหารได้อย่างไร ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราเกิดอันตราย อีกทั้งยังไม่มีความรู้ว่าสารดังกล่าวคืออะไร ทำไมถึงต้องใส่ และมีโทษอย่างไร ด้วยสาเหตุนี้ทำให้มันยังคงอยู่ในอาหารต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารจานด่วนที่เรากินจนกลายเป็นชีวิตประจำวัน และนี่คือ 10 สิ่งที่เหลือเชื่อว่ามันอยู่ในอาหารจานด่วน

 10. ซัลเฟอร์ไดออกไซด์

          มาเริ่มต้นอันดับที่ 10 กัน ได้แก่ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นก๊าซที่เกิดจากเกิดจากเครื่องยนต์ เครื่องจักรที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทน้ำมันเตา เบนซิน ดีเซล ถ่านหิน เป็นก๊าซไม่มีสี ไม่ไวไฟ ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุเจือปนในอาหาร  เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ทั้งแบคทีเรีย, ยีสต์ และเชื้อรา (พูดง่ายๆ คือสารกันบูด) อีกทั้งยังเป็นสารฟอกสี ดังนั้นอาหารที่ใช้เป็นจึงมีทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเพื่อกันไม่ให้เน่าหรือขึ้นรา เช่น ผลไม้สด (เช่นลำไย), อาหารแห้ง, ผลไม้แห้ง ผลไม้กวน, ผลไม้ดอง, น้ำตาลทราย, น้ำเชื่อม, ก๋วยเตี๋ยว, วุ้นเส้น, แป้ง, อาหารแช่แข็ง, เบียร์, ไวน์, เจลาติน แม้ว่าการใช้ซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่ต้องไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด แต่ยังไงสารดังกล่าวก็ได้ทำลายวิตามิน B1 และไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่มีความไวต่อสารนี้ หากรับประทานมากอาจตายได้ อีกทั้งเป็นสารเคมีที่มีประโยชน์น้อยไม่คุ้มค่ากับการใช้จ่าย 

 9. ไนเตรท (NO3 )

          อันดับที่ 9 ได้แก่ ไนเตรท (NO3 ) เป็นวัตถุเจือปนอาหาร ใช้ในรูปของเกลือ โซเดียมไนเตรท และโปแตสเซียมไนเตรทหรือดินประสิว ซึ่งใช้เป็นสารกันเสียและเพิ่มสีอาหาร  ในเมืองนอกมักจะนิยมใช้ในเบคอนหรือแฮมและชีส เป็นที่แน่นอนว่ามันถูกพบในเบอร์เกอร์เนื้อย่างที่เพื่อนๆ กินประจำอย่างแน่นอน อีกทั้งยังทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึ่งประสงค์สำหรับผู้ที่บริโภคประจำ คือ เกิดอาการปวดหัว อาการตัวเขียว หายใจไม่ออกเพราะมีผลต่อออกซิเจนในเลือด

 8. เซลลูโลส

         อันดับที่ 8 ได้แก่ เซลลูโลส เป็นสารที่มีมากจากพืช เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำยากหรือไม่ละลายน้ำเลย ทดแทนไขมันต่ำ มันถูกพบในแป้งและน้ำมัน มักจะนำมาทำให้ข้นใช้ปรุงอาหารและมีรสชาติเหมือนน้ำสลัด น้ำเชื่อมสตอเบอรรี่มัฟฟินชีส แต่ที่น่าตกใจคือเซลลูโลสที่ใช้อาหารนั้นทำมาจากเยื่อไม้แปรรูป โดยต้มเยื่อกระดาษในสารเคมีและทำซึ่งทำเป็นแบบผงบรรจุก่อนที่จะถูกนำไปทำเป็นอาหารต่อไป 

 7. ซิลิกอนไดออกไซด์

         อันดับที่ 7 ได้แก่ ซิลิกอนไดออกไซด์ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ซิลิกามักพบได้ทั่วไปในธรรมชาติอาจในรูปของทรายหรือควอตซ์ และในผนังเซลล์ของไดอะตอม ซิลิกาเป็นสารประกอบที่มีจำนวนมากโดยทั่วไปบนเปลือกโลก ซึ่งส่วนมากนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมกระจกหรือแก้ว แต่เป็นที่น่าเหลือเชื่อว่ามันมีการผสมในอาหารด้วย เนื่องด้วยจากคุณสมบัติป้องกันการจับตัวเป็นก้อน มันจึงมักจะถูกใส่ในผลิตภัณฑ์อาหารผง อาหารเสริมสุขภาพและสารเติมแต่งอาหารแปรรูป เป็นจำนวนมาก ถึงทุกวันนี้จะมีการยืนยันว่า มันไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภคแบบเห็นได้ชัด  แต่ก็ตกใจว่ามันอยู่ในอาหารที่เรากินทุกวันได้อย่างไรกัน 

 6. แอล-ซีสเตอีน

          อันดับที่ 6 คือ แอล-ซีสเตอีน เป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มประสิทธิภาพแป้งนุ่มขึ้นและยืดหยุ่นขึ้น นิยมมาใส่ในแป้งโดนัท ที่น่าตกใจคือแหล่งที่พบสารนี้ อยู่ในเส้นผมและขนเป็ด ประมาณ 80% 

 5. ไดเมทิลโพลีไซโลเซน

          อันดับที่ 5 คือ ไดเมทิลโพลีไซโลเซน มีฤทธิ์เป็นสารป้องกันการเกิดฟอง และช่วยบรรเทาอาการที่มีแก๊สในกระเพาะมาก ในร้านอาหารจานด่วนนิยมใช้ป้องกันไม่ให้น้ำมันเดือดเกิดฟองกระเด็นหลังการใช้ช้ำหลายครั้งเวลาจุ่มอาหารลงในถังที่ลวกน้ำมัน เป็นที่แน่นอนว่ามันมักจะอยู่ในไก่นัตเก็ต มันฝรั่งทอดที่เรากินกันทุกวัน  แต่มันก็ไม่เป็นพิษอย่างที่องค์การอนามัยโลกประกาศเอาไว้ และในประเทศอื่น ๆ ก็พบวิธีนอกเหนือจากการใช้ไดเมทิลโพลีโซโลเซนไม่ให้น้ำมันเกิดฟอง ทำให้วิธีนี้อาจจะหายไปในอนาคตก็เป็นได้

 4. สีโคชินีล

          อันดับที่ 4 คือ สีโคชินีล เป็นสีผสมอาหารที่ได้จากแมลงโคชินีลตัวเมียที่กำลังมีไข่ แมลงนี้เป็นเพลี้ยหอยชนิดหนึ่งที่มีขนปุยสีขาวปกคลุม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dactylopius coccus Costa เป็นแมลงพื้นเมืองของเม็กซิโก อเมริกากลางและประเทศแถบเทือกเขาแอนดีสตะวันตกของอเมริกาใต้ (อีกแบบก็มาจากกระบองเพชร) ซึ่งสีออกมาจะเป็นสีแดงฉ่ำๆ ที่มักนิยมมาใช้ในเครื่องสำอาง และนอกจากนี้ในอาหารสามารถนำมาเคลือบลูกกวาด เครื่องดื่ม ไส้กรอก แฮม ไอศกรีม นมเปรี้ยว อาหารย่าง ฯลฯ แม้ไม่มีอันตราย แต่เพื่อน ๆ ก็คงตะหนักว่าสิ่งที่เราเห็นทุกวันอาจไม่ได้เป็นสิ่งที่เราคิดเอาไว้เสมอไป 

 3. TBHQ Tertiary Butyl Hydro Quinone

          อันดับที่ 3 ได้แก่ ทอร์ไทอารี บิวทิล ไฮโดร ควิโนน หรือภาษาอังกฤษ Tertiary Butyl Hydro Quinone เรียกย่อว่า TBHQ เป็นสารกันบูด หรือวัตถุกันหืนที่ได้จากปิโตเลียม ซึ่งเป็นสารที่ใช้เพื่อยืดระยะเวลาการเน่าเสียของอาหาร มักจะนิยมใช้กับอาหารทอด ไขมัน น้ำมันพืช และ น้ำมันสำหรับทอดอาหาร ซึ่งมีการจำกัดการใช้เพียง 0.02% ในอาหาร เพราะหากบริโภคมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่าทำให้เกิดเนื้องอกในกระเพาะอาหารและเป็นสารก่อมะเร็ง

 2. แอมโมเนียมซัลเฟต

          อันดับที่ 2 คือ แอมโมเนียมซัลเฟต เป็นอนินทรีเกลือที่นิยมใช้เป็นปุ๋ยในดินที่เป็นด่าง นอกจากนี้ยังเป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพ ในการใช้ประโยชน์ในด้านอาหาร เป็นสารเติมแต่ง วัตถุเจือปนอาหาร โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัย นำมาใช้ควบคุมความเป็นกรดในแป้งและขนมปัง ใครจะไปรู้ล่ะว่าแฮมเบอร์เกอร์ที่เรากินทุกวันมีปุ๋ยชนิดนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ รู้แบบนี้ก็ไม่ค่อยจะอยากกินซะแล้วสิ

 1. เมือกสีชมพู

          และก็มาถึงอันดับที่ 1 เป็นอันดับสุดท้าย เป็นเรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับสารที่อยู่ในอาหารจานด่วน จนถูกนำมาแฉมีผลกระทบกระเทือนไปทั่วอเมริกามาแล้ว “เมือกสีชมพู” หรือ BLBT (Boneless Beef Trimming)  ถ้าถามว่ามันคืออะไร มันคือเศษเนื้อที่เหลือจากการชำแหละนำมารวมกันเป็นเนื้อบดสำเร็จรูปนั้นเอง สาเหตุที่น่ากลัวก็คือ  เจ้าเศษเนื้อดังกล่าวมีการปนเปื้อนจากเชื้อโรคสูงมาก เพราะว่าเนื้อที่นำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นเนื้อจากส่วนที่ใกล้ทวารหนัก เศษเนื้อจากกระเพาะมารวมกัน ดังนั้นผู้ผลิตจึงใช้แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์และสารอื่นๆ มาฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสารอื่นๆ ที่ว่าเป็นสารตัวเดียวที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลายนั่นเอง จากนั้นก็นำสารเร่งสีมาใส่ให้ดูดีเพื่อให้น่ารับประทาน 

          ที่สำคัญ มีผลิตภัณฑ์มากมายที่มี “เมือกสีชมพู” เป็นส่วนประกอบถึง 70% โดยผู้บริโภคไม่รู้เลยว่าอาหารที่ตนกินมีส่วนประกอบอะไรอยู่ ซึ่งผู้ผลิตมักจะไม่ใส่ใจผู้บริโภคและต้องการกำไรที่มากกว่า คนส่วนใหญ่ต่างเรียกอาหารแบบนี้ว่า “เมือกสีชมพู” มากกว่าอาหาร อีกทั้งทางกฎหมายอเมริกาเองก็มีการยืนยันบอกว่า อาหารลักษณะแบบนี้มีความปลอดภัยดังเช่นอาหารทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้มีรายการข่าว ABC ออกมาแฉเรื่องดังกล่าว ทำให้กระแสต่อต้านดังไปทั่วอเมริกา เดือดร้อนถึงแมคโดนัล ที่โดนกล่าวหาว่าใช้ "เมือกสีชมพู" จนต้องออกมาบอกว่าตนได้เลิกใช้เมือกสีชมพูและเปลี่ยนไปใช้อาหารที่มีความปลอดภัยแทน เป็นระยะเวลานานแล้ว

          อย่างไรก็ตาม  การรับประทานอาหาร  นอกจากเราจะคิดถึงรสชาติที่แสนอร่อยแล้ว  แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงคุณประโยชน์และโทษที่จะตามมาด้วยนะคะ  อย่างคติที่ว่า  "ตามใจปาก ลำบากท้อง" คับ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
BesTBBoY's profile


โพสท์โดย: BesTBBoY
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
โรงแรมขนาดใหญ่ที่สุด และมีจำนวนห้องมากที่สุดในประเทศไทย"กานต์" เมีย "เสก โลโซ" ลั่น! "เบิร์ด ธงไชย" ไม่ใช่พ่อ..เพราะ Gู คือชาวร็อคเตือนเเรง 4 ปีชง 2568 โดย ริว จิตสัมผัส! ความท้าทายที่ต้องระวังให้ดีในปีนี้สื่อเยอรมันลงข่าวนายกแพทองธาร ชีวิตติดหรูกระเป๋าแบรนด์เนม 200 ใบ เเละทรัพย์สินระดับพันล้านเจ้าของบ้านผวา! ซักผ้าเจองูสิงดงยักษ์ ซุกราวตากผ้า กู้ภัยจับรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส่ แป๊บเดียวก็เป็นวันพุธแล้ว อีกสองวันก็จะได้พักแล้วน๊าเปิดดวงปีชง 2568! หมอกฤษณ์เตือน 4 นักษัตร ระวังให้ดี ปีนี้ชะตาเปลี่ยนครั้งใหญ่เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.9" งวดวันที่ 17 มกราคม 2568ดราม่า! เขียนเช็กขึ้นเงินได้อีก 100 ปี โหนกระแสดวงดีปี 2568: หมอช้างเผย 5 ราศีดวงเด่น การงานรุ่ง และโชคดีตลอดปี!โรงเรียนในประเทศไทย ที่เก่าแก่และมีอายุมากที่สุดในปัจจุบันใครยืมเงิน บุ๋ม ปนัดดา แล้วไม่คืน? เปิดเรื่องราวสุดแซ่บสะเทือนวงการบันเทิง!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ความจริงอันโหดร้าย เกี่ยวกับผู้หญิง"กานต์" เมีย "เสก โลโซ" ลั่น! "เบิร์ด ธงไชย" ไม่ใช่พ่อ..เพราะ Gู คือชาวร็อคเจ้าของบ้านผวา! ซักผ้าเจองูสิงดงยักษ์ ซุกราวตากผ้า กู้ภัยจับมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ที่จะลดการเซ็นเซอร์เนื้อหาบน Facebook และ Instagramเตือนเเรง 4 ปีชง 2568 โดย ริว จิตสัมผัส! ความท้าทายที่ต้องระวังให้ดีในปีนี้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่ Facebook และ Instagram จะเลิกเซ็นเซอร์ เพราะเรากำลังอยู่ในโลกยุคใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่