พวกโลกสวย vs พวกมองโลกตามจริง
เพื่อนๆเคยได้ยินกันบ้างมั๊ยครับ คำว่า “พวกโลกสวย” กับ “พวกมองโลกตามจริง”
ผมเองในตอนแรกๆที่ได้ยินก็ไม่รู้หรอกว่าหมายถึงอะไร แต่พอได้ยินบ่อยเข้า หรือได้เห็นจากตามเว็บบอร์ดต่างๆบ่อยๆ ก็คิดว่าได้เข้าใจความหมายที่น่าจะถูกต้อง(ตามที่ผู้คนใช้กัน) เลยขออนุญาตสรุปตามนี้นะครับ
“พวกโลกสวย” มักจะมีพฤติกรรม ดังต่อไปนี้
- คือพวกที่ไม่มองโลกตามความเป็นจริง
- คือพวกที่พยายามมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ดีหรือมีความดีแฝงอยู่ ทั้งๆที่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น
- คือพวกที่ไม่ค่อยฉลาด มองอะไรไม่ค่อยออก และไม่เข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง
- คือพวกอวดฉลาด คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แสร้งทำตัวเป็นคนดี
- คือพวกเพ้อเจ้อ อยากได้โลกตามอุดมคติ ที่มีแต่ความดีงาม
- และอีกหลายๆอย่าง โดยสรุปก็คือ “พวกโลกสวย” นี่จะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
ส่วน “พวกมองโลกตามจริง” ก็จะเป็นอะไรที่ตรงข้ามกันทั้งหมด อาทิเช่น
- คือพวกที่มองโลกตามสภาพความเป็นจริง
- คือพวกที่มองทุกอย่างแบบผิดก็บอกว่าผิด ถูกก็บอกว่าถูก ไม่ได้พยายามมองหาแต่ข้อดีของทุกเรื่อง
- คือพวกที่มองโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เข้าใจความเป็นไปของโลก
- คือพวกที่ไม่ได้อวดฉลาด ไม่ได้พยายามทำตัวเป็นคนดี แต่เป็นคนพูดอะไรตรงๆ
- คือพวกที่คิดว่าตนเป็นคนจริงใจซื่อสัตย์ต่อความเป็นจริง ไม่ได้แสร้งทำตัวเป็นคนดีของสังคม
ที่ผมสรุปออกมาอย่างนี้ ไม่ใช่พูดเองเออเองนะครับ แต่มันมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่าคนพวกนี้คิดว่าตนเองนั้นดีกว่า โดยเราจะเห็นได้จาก คำพูดต่างๆที่ “พวกมองโลกตามจริง” ชอบใช้ เช่น “อยากฟังความเห็นของคนที่คิดเป็น ไม่ต้องการพวกโลกสวย”, “หัดมองโลกแห่งความจริงซะบ้าง อย่ามาทำเป็นโลกสวย”, “พวกมองโลกไม่เป็น คิดแต่ว่าโลกสวยงามมีแต่คนดี” และอื่นๆอีกเพียบ ไม่มีหมดล่ะครับ ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างแล้วหรือบางทีอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไป ในขณะที่ “พวกโลกสวย” เวลาจะพูดอะไรหรือเสนอความคิดเห็นอะไร ต้องคอยระมัดระวังตนเองว่าจะถูกต่อว่าหรือแดกดันจากบรรดาเพื่อนๆหรือคนอื่นที่เป็น “พวกมองโลกตามจริง”แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมไม่สามารถสรุปได้ก็คือ พวกไหนมีจำนวนมากกว่ากันในสังคมของเรา ซึ่งจำนวนตรงนี้พวกเราคงต้องค่อยๆหาคำตอบกันไปละกันนะครับแต่จากการคาดเดาของผม(ไม่ใช่ข้อสรุป) ผมเดาว่า “พวกมองโลกตามจริง” น่าจะมีจำนวนมากกว่า
ทำไมน่ะหรือครับ? แล้วเราค่อยมาดูกันในตอนต่อๆไป ถ้าเพื่อนๆยังแวะเวียนมาอ่านบทความของผมอยู่นะครับ ^^แล้วทำไมอยู่ๆ ผมต้องมานั่งอ้างถึงคนสองพวกนี้ด้วยน่ะหรือครับ ก็เป็นเพราะว่า ในสังคมมนุษย์เราก็ประกอบด้วยคนสองพวกนี้นั่นแหละ เพียงแต่เราจะเรียกกันว่า “คนมองโลกในแง่ดี และ คนมองโลกในแง่ร้าย” หรือ “คนคิดบวก กับ คนคิดลบ” สังคมของเราจะพัฒนาหรือขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วยการอาศัยผู้คนในสังคม ซึ่งสังคมของเราจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็ต้องดูว่าระหว่างคนสองกลุ่มนี้ “ใคร” ที่จะมีอิทธิพลต่อสังคมโดยรวมของเรามากกว่ากัน ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่า ผู้ที่จะทำให้สังคมของมนุษย์เราดีขึ้นได้ก็คือพวกมองโลกในแง่ดี หรือพวกโลกสวย นั่นล่ะครับใจจริงของผมที่ตัดสินใจตั้ง The Optimistic Society ขึ้นมาก็เพียงต้องการจะนำเสนอแต่สิ่งที่ดีและเป็นบวกเท่านั้น เพียงแต่ต้องมีการนำเสนอในแง่ลบบ้างเป็นบางครั้งเพื่อให้เรามองเห็นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม เพื่อที่เราจะได้ปรับปรุงแ้ก้ไขได้ถูกจุด เพราะโดยส่วนตัวนั้น ผมเชื่อมั่นในการมองโลกในแง่ดีแน่นอนครับและจะเน้นในเรื่องนี้เป็นหลักด้วย เพียงแต่ถ้าเราใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบ้าง(ความคิดลบในสังคม) จะทำให้เราได้มุมมองที่กว้างขึ้นในการพัฒนาตนเองและสังคมอย่างแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้นครับ