ราชกิจจาฯ ประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2564 รวม 7 ข้อพึงปฏิบัติ บังคับใช้ 2 ก.ย.
1 ก.ย.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2564 ความว่า โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 76 วรรคสาม บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกำหนดประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว และพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 5 ได้กๆหนดมาตรฐานทางจริยธรรมซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าวข้างต้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ประกอบกับมติคณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ ในการประชุมครั้งที่ 8/2564 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564 และมติคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ในการประชุมครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 จึงกำหนดประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ ไว้รวม 7 ข้อ
1. ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ตามระเบียบแบบแผน ด้วยความโปร่งใส ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
3. กล้าตัดสินใจ และยืนหยัดกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม แก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ ปราศจากอคติ ไม่สนับสนุนผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชน
4. คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
5. มุ่งผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพ และคุณภาพของงาน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว เที่ยงธรรม ทันต่อสถานการณ์ คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง รักษาผลประโยชน์ของรัฐ มีมาตรฐานการทำงานที่เป็นสากล
6. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ โดยยึดถือความเสมอภาค และไม่เลือกปฏิบัติ เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยอมรับความแตกต่างของบุคคล และพึงวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
7. ดำรงตนเป็นแบบอย่างด้วยการเป็นข้าราชการที่ดี รักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ และความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พึงปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน ไม่ใช้อำนาจโดยปราศจากเหตุผล น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักทางศาสนามาปรับใช้
อ้างอิงจาก: www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/204/T_0051.PDF
https://www.facebook.com/RDnewsOnline/posts/2683578588610273