นายก แจงสภา "ระบบ สธ.ไม่ล้มเหลว" ยันไม่มีเจตนาทุจริต ลั่น "ไม่โกรธฝ่ายค้าน"
ไม่คุ้นเคยทุจริต! การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ สรุปเป็น 4 ประเด็นหลัก คือ
1. กรณีการแก้ปัญหาโควิด-19
- รัฐบาลได้เตรียมแผนป้องกันการระบาด ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโรคที่อู่ฮั่น
- มีการจัดตั้งศูนย์บริการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน จนถึงการจัดตั้ง ศบค.
- ได้กำหนดมาตรการควบคุมโรคที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ตามที่แพทย์ สธ. ได้ร่วมกันพิจารณา
"ผลของมาตรการออกมาน่าพอใจ"
"ระบบสาธารณสุขไม่ได้ล้มเหลว"
2. กรณีชุดตรวจ ATK
- ปัจจุบันเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่อนุญาตให้จัดจำหน่ายได้ และรัฐบาลมีนโยบายจัดหา ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น
- ไม่เคยมีข้อสั่งการให้ซื้อชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองโดย WHO ในการประชุม ศบค. เพราะในขณะนั้นยังไม่มีชุดตรวจยี่ห้อใดผ่านการรับรอง มีแต่ที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เฉพาะเท่านั้น
3. กรณีการจัดหาวัคซีน
- ไม่ปิดกั้นให้ภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน แต่ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ
- รัฐบาลมีการจัดหาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ได้รับการยืนยันว่าสิ้นปีนี้ครบ 61 ล้านโดส และจะสนับสนุนวัคซีนที่ผลิตในประเทศ
- กรณี COVAX รัฐบาลพยายามพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุดก่อน บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ระยะเข้าร่วม COVAX ได้เพราะมีการปลดล็อกต่างๆ
"หากไทยมีวัคซีนมากเกินพอก็พร้อมดูแลอาเซียนประเทศเพื่อนบ้านด้วย"
4. กรณีด้านเศรษฐกิจ
- หลายประเทศก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้
- คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่แก้ไขได้ในอนาคต แม้จะหดตัว
- การคาดการณ์ IMF ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยปี 2565 ไทยจะกลับมาเติบโตรองจากมาเก๊า
- คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่แก้ไขได้ในอนาคต
- “เศรษฐกิจไทยไม่ใช่ไม่ฟื้น เพียงแต่ฟื้นตัวช้า”
ทั้งนี้ นายกฯ ยืนยัน การดำเนินการของรัฐบาล ทุกอย่างไม่มีเจตนาทุจริต เชื่อมั่นว่าตนไม่ได้มีเจตนาทุจริตและไม่คุ้นเคยกับการทุจริตด้วย