กอบกาญจน์ต้องชดใช้ค่าเสียหายนับหมื่นล้าน?
ตามที่รัฐบาลแก้ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ผิดพลาด ทำให้การท่องเที่ยวไทยระส่ำ เสียหายไปถ้วนหน้า นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องจ่ายชดใช้ค่าความเสียหายนับหมื่นล้านหรือไม่
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่าเมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ 4-5 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ได้พานักศึกษาของโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) ไปดูงานอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา ได้พบว่า โรงแรมในพัทยา เงียบเหงาลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งเกิดจากการปราบปราม "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาน้อยลงเป็นอย่างมาก
"ทัวร์ศูนย์เหรียญ" หรือ Zero-Dollar Tour คือการจัดคณะนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในไทย โดยซื้อทัวร์จากประเทศของตน (จีน) ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน ก่อนที่บริษัททัวร์เหล่านั้นจะส่งลูกทัวร์ทั้งกรุ๊ปมาให้บริษัททัวร์ในไทย โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่านำเที่ยวใดๆ เลยแม้แต่เหรียญเดียว บริษัทนำเที่ยวก็จะถูกไกด์เถื่อนพาตระเวนซื้อของแพงๆ ด้วยราคาสินค้าราคาสุดโหด รวมถึงโชว์ต่างๆ เพื่อรีดเอากำไร หากนักท่องเที่ยวไม่ยอมจ่าย หรือจ่ายน้อย บริษัททัวร์ก็ไม่มีรายได้พอกับค่าใช้จ่าย ไกด์จึงต้องใข้กลยุทธ์ต่างๆ ทั้งอ้อนวอน บังคับขู่เข็ญ เช่น ไม่ให้กุญแจห้อง ยึดพาสปอร์ต บางทีร้ายแรงถึงขั้นทำร้ายลูกทัวร์ หรืออาจถูกลอยแพไปเลยก็ได้ (http://bit.ly/2fdjY7k)
รัฐบาลไทยปราบ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ด้วยปฏิบัติการทลายและบุกเข้าตรวจค้น บจก.โอเอ ทรานสปอร์ต และบริษัทเครือข่ายอีก 4 แห่ง อายัดรถบัสนำเที่ยว 2,086 คัน บัญชีเงินสดกว่า 90 บัญชี มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาทปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (http://bit.ly/2fqpAxZ) แต่ปฏิบัติการนี้ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหายวับไปในทันใด ที่สำคัญปฏิบัติการนี้น่ากังขา ไปจับ "แม่และลูกชายที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกได้แค่ 2 เดือนไม่รู้เรื่องรู้ราว แทนที่จะดำเนินคดีตามปกติทั่วไป แต่กลับถูกจับติดคุกในข้อหา 'อั้งยี่' ไม่ให้ประกันตัว. . .ทำไมบริษัทของอดีตนายตำรวจใหญ่บางคนที่เกี่ยวข้อง. . .มีพฤติกรรมคล้ายกันกลับไม่โดนตรวจสอบ" (http://bit.ly/2f6mO07)
ในข่าวล่าสุด "ทัวร์ศูนย์เหรียญหนีไทย ระบาดเกาหลี-ญี่ปุ่น-ยุโรป" (http://bit.ly/2f8niAs: 5 พฤศจิกายน 2559 "มีบริษัททัวร์จีนได้ขอยกเลิกเที่ยวบิน กับสายการบินแอร์เอเชียแล้ว 6.4 หมื่นรายต่อเดือน ยังไม่รวมโรงแรม 3-4 ดาว. . .(นักท่องเที่ยวจีน) หายไปแล้ว 65% บริษัททัวร์กว่า 200 ราย ไม่กล้าที่จะดำเนินธุรกิจต่อ. . .หลายประเทศใช้โอกาสนี้จัดแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาถูก เช่น จีน-เกาหลี 5 วันราคาอยู่ที่1,700 หยวน จีน-ญี่ปุ่น 6 วัน 3,499 หยวน จีน-ฝรั่งเศส-อิตาลี 12 วัน 4,194 หยวน จีน-เยอรมัน-สวิตเซอร์แลนด์ 12 วัน 3,564 หยวน เท่ากับว่าหลายประเทศยังคงทำทัวร์ศูนย์เหรียญ" แต่ไทยกลับแก้ปัญหาแบบ "โง่ๆ" นี่คือสิ่งยืนยันชัดว่ารัฐบาลไปผิดทางแล้ว และประเทศอื่นรู้จักวิธีจัดการ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ได้ดีกว่า
โดยที่รัฐบาลไม่ถ่องแท้ถึงการแก้ไขปัญหา จึงมองว่า "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ไม่ได้ให้อะไรแก่ประเทศไทย เงินตกแก่บริษัททัวร์จีน นี่ไม่ใช่ความจริง ปี 2558 กรมการท่องเที่ยวระบุว่ามีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประมาณ 8 ล้านคน (http://bit.ly/2foowYR) แต่ละคนใช้เงินเกือบ 6,000 บาท (http://bit.ly/2ftYX7E) หรือใช้เงินรวม 48,000 ล้านบาท ปีนี้ควรเติบโตกว่าปีก่อน 10% หรือเป็นเงิน 52,800 ล้านบาท แต่ใน 4 เดือนหลังนักท่องเที่ยวจีนหายไป 60% ก็อาจเหลือรายได้จากจีนเพียง 42,240 ล้านบาท หายไป 10,560 ล้านบาท
ค่าเสียหายเหล่านี้นางกอบกาญจน์จะชดใช้หรือไม่ ต่อคนที่ทำงานโรงแรมแล้วถูกให้ออกจากงาน จักรยานยนต์รับจ้าง แม่ค้า ฯลฯ ที่ต่างตกงานนั้น นางกอบกาญจน์จะรับผิดชอบอย่างไร หากคนเหล่านี้ต้องไป "หากินแนวนอน" ไปเป็นขโมยกับโจรด้วยความคิดชั่วแล่นแล้วครอบครัวพังพินาศไป นางกอบกาญจน์จะรับผิดชอบไหมหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองจึงเชื่อว่ารัฐบาลไม่เข้าใจถ่องแท้ถึงกิจการ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ที่มีพัฒนาการมานาน ถ้าถ่องแท้จริง จะต้องไม่แก้ไขด้วยวิธีนี้ ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถทำได้มากกว่าการดูคล้ายกลั่นแกล้งกัน
ยังสิ่งที่รัฐบาลทำได้มีมากมาย เช่น ทำการวิจัยให้ถ่องแท้แล้วนำมาศึกษาเปรียบเทียบให้ดี เช่น คนไทยไปเที่ยวจีนก็ยังต้องไปแวะตามร้านค้าที่เขาจัดให้เช่นกัน การแก้ปัญหามัคคุเทศน์เถื่อน การกำหนดราคาที่เหมาะสม การควบคุมการเกิดอาชญากรรม การตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ (ไม่ใช่แบบไฟไหม้ฟาง) รวมถึงการให้รางวัล Travel Award ให้บริษัททัวร์คุณภาพ และรางวัลมัคคุเทศก์ดีเด่น การหนุนให้จัดรายการทัวร์มาตรฐานเหมาะสมกับราคา มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวจีนกับรายการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานและราคาพร้อมสร้างเครือข่ายร่วมกับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมาย ฯลฯ (http://bit.ly/2fHDYTS)
รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจึงควรร่วมกันชดใช้ความเสี่ยหายที่เกิดจากการแก้ไข "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" แบบผิดๆ