โศกนาฏกรรมของ Badfinger เจ้าของเพลง Without You ที่ร้องโดย Mariah Carey
Without You เพลงบัลลาดอมตะที่ขับร้องโดยมาราย แครี่ย์สร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทเพลงหลายสิบประเทศทั่วโลก จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงซิกเนเจอร์ของมาราย แต่แท้จริงแล้วเพลง Without You นั้นถูกแต่งโดยพีท แฮม (คนซ้ายสุด) และทอม อีแวนส์ (คนที่สองจากซ้าย) โดยมีวง Badfinger เป็นต้นฉบับ
Badfinger วงดนตรี 4 ชิ้นจากเวลส์ถูกวางให้เป็น "The Next The Beatles" หลังจากเป็นวงแรกที่ค่าย Apple ซึ่งก่อตั้งโดยสมาชิก 4 เต่าทองเซ็นสัญญาเข้าสังกัด Badfinger ถูกยกให้เป็นหนึ่งในวงที่บุกเบิกแนวดนตรี Power-Pop หรือป็อป-ร็อกฟังสบาย นอกจาก "Without You" พวกเขามีเพลงฮิตมากมายทั้ง "Come and Get It" "No Matter What", "Day After Day" และ "Baby Blue"
ในปี 1970 Badfinger ก็ได้จ้างสแตน พอลลี่ย์ ผู้จัดการชาวอเมริกันให้เข้ามาดูแลผลประโยชน์ในวง สแตน พอลลี่ย์พา 4 สหายจากเวลส์เซ็นกับ Warner ด้วยมูลค่าสัญญากว่า 3 ล้านเหรียญ ในฉากหน้านั้นดูเหมือนว่า Badfinger กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นสุดขีด แต่หากแหวกม่านดูฉากหลังจะพบว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะรายได้ต่อปีของสมาชิกอยู่ที่แค่ 5 พัน - 9 พันเหรียญเท่านั้น ในขณะที่ผู้จัดการวงอย่างสแตน พอลลี่ย์กลับมีรายได้ถึง 75,000 เหรียญ
สแตนขู่สมาชิกวงเป็นนัยๆว่า หากใครก็ตามที่กล้าแข็งข้อกับเขา รับรองว่าจะจบไม่สวยแน่ สมาชิกทั้ง 4 เป็นเพียงนักดนตรีที่รู้แค่วิธีแต่งเพลง พวกเขาไม่รู้กฏหมายหรือสัญญา ทำให้พวกเขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมไปอย่างขมขื่นและระบายมันผ่านเพลง "Hey, Mr. Manager"
หลายปีผ่านไป Warner เริ่มสงสัยว่าเงินกว่า 6 แสนเหรียญที่มอบให้เป็นทุนทำอัลบั้มนั้นหายไปจากบัญชี ค่ายเพลงใหญ่ขู่จะชักปลั๊กงดทำการตลาดให้ Wish You Were Here อัลบั้มใหม่ของวงที่กำลังจะวางแผง และขู่จะยกเลิกสัญญาหากไม่ได้คำตอบที่พอใจ แน่นอนว่าสมาชิกทั้ง 4 ก็ไม่รู้ว่าเงินนั้นหายไปไหน คนเดียวที่รู้ก็มีแต่สแตน พอลลี่ย์ ผู้จัดการวงของพวกเขา ในปี 1975 Warner ยื่นฟ้องพอลลี่ย์ ผลของมันยังกระทบมาถึง Badfinger ทำให้ค่ายไม่ต่อสัญญาวงอีกต่อไป กำหนดการทุกอย่างถูกยกเลิกหมด
สแตน พอลลี่ย์ใช้ชีวิตอย่างราชาด้วยเงินจากน้ำพักน้ำแรงของ Badfinger และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะที่สมาชิกวงนั้นตรงกันข้าม พวกเขาใช้ชีวิตอย่างอย่างลำบาก ทั้งที่มีเพลงฮิตติดชาร์ทมากมาย ทั้งที่ทัวร์คอนเสิร์ตข้ามปี แต่ทุกคนกลับมีหนี้สินล้นพ้นตัว โดยเฉพาะหัวหน้าวงอย่างพีท แฮมที่ไม่มีกระทั่งเงินจ่ายค่าโทรศัพท์
พีท แฮมรู้ตัวอีกทีก็เมื่อเขาต้องต่อสู้กับสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตทั้งกฏหมาย, ทนาย, กระดาษสัญญาและสิ่งอื่นๆที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอ ความเครียดสะสมบวกกับภาวะซีมเศร้า ทำให้เขาเขียนจดหมายสั่งลาและสาปแช่งสแตน พอลลี่ย์
"ฉันคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรักหรือเชื่อใจใครได้อีกแล้ว นี่คือทางออกที่ดีกว่า
ปล. สแตน พอลลี่ย์คือไอ้ชาติชั่วไร้หัวใจ ฉันจะกระชากมันลงหลุมไปพร้อมกับฉัน"
จดหมายสั่งลาของพีท แฮม ฟรอนท์แมนแห่ง Badfinger ก่อนเขาจะผูกคอตายที่โรงเก็บรถของบ้านตัวเองในปี 1975 ก่อนจะผูกคอฆ่าตัวตายในโรงเก็บรถ เพียง 3 วันก่อนวันเกิดปีที่ 28 ของเขาและเพียง 1 เดือน ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะคลอด หลังจากพีทเสียชีวิต Badfinger ก็ยุบวงทันที
4 ปีต่อมา สมาชิกที่เหลือก็พยายามฟื้นตำนาน Badfinger ขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาเซ็นสัญญาทัวร์คอนเสิร์ตกับนักธุรกิจอเมริกันคนหนึ่ง แต่เมื่อพวกเขามาถึงสหรัฐฯ ทุกอย่างกลับว่างเปล่า ไม่มีการกำหนดการทัวร์ใดๆทั้งสิ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจกลับอังกฤษ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ถูกนักธุรกิจคนดังกล่าวฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 5 ล้านเหรียญฐานละเมิดสัญญา ทิ้งทัวร์กลางคัน
เย็นวันหนึ่งเดือนกันยายน ปี 1983 ทอม อีแวนส์ มือเบสของวงโทรศัพท์ทุ่มเถียงกับโจอี้ มอลแลนด์ มือกีต้าร์อย่างรุนแรง เนื่องจากที่โจอี้และไมค์ กิ๊บบินส์ มือกลองต้องการส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์ในเพลงดังอย่าง Without You ด้วย (เครดิตเพลงนี้เป็นของพีทและทอม)
ปัญหาการฟ้องร้องและปัญหาการแบ่งผลประโยชน์ในวง ทำให้ทอม อีแวนส์ตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตายใต้ต้นไม้ในสวนที่บ้านเขาด้วยวัยเพียง 36 ปี คนใกล้ชิดของเขาเผยอีกหนึ่งสาเหตุว่า ทอมยังไม่อาจคลายความเศร้าจากการสูญเสียพีท แฮม เพื่อนรักไปได้
"ฉันอยากไปอยู่ที่ๆมีพีท มันคงจะน่าอยู่กว่าที่นี่..."
ภรรยาของทอมเผยประโยคสุดท้าย ก่อนที่สามีของเธอจะทิ้งความวุ่นวายทั้งปวงในโลกนี้ไปอย่างไม่หวนคืน และหลังจากเหตุโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 Badfinger ก็ปิดฉากไปตลอดกาล
ต้นฉบับ
Mariah Carey
ยุคสมัยไหนก็เหมือนๆกันหมด คนไม่รู้กฎหมาย จะโดนกดขี่ข่มเหงและโดนเอาเปรียบตลอด
เครดิต : FB อ่าน-เพลง