ความเหมือนที่แตกต่าง!!! ระหว่าง... กับโสเภณี...???
ความเหมือนที่แตกต่าง!!! ระหว่าง... กับโสเภณี...???
ว่าด้วยเรื่องของ...กับโสเภณี...ช่างเป็นเรื่องที่ทำให้ใครหลายคนรู้สึกแช่มชื่นเบิกบานใจ ทุกครั้งที่ได้ยิน ( รวมถึงผู้เขียนด้วย 555 ) โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการ "เนื้อสด" มาช้านาน
ซึ่งในหัวข้อนี้
"คนสารพัดขี้" อยากจะตั้งกระทู้มานานมากแล้ว แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า อาจจะมีนักวิชาการหลายๆนั้น ที่อยู่บริเวณอันใกล้นี้ หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาวิเคราะห์ เจาะลึกกันไปจนหมดเรียบร้อยแล้ว ไม่เหลือกากเดนให้คนสารพัดขี้ ได้กินปี้บ้างเลย!!! พอได้ลองไปรีเสิร์ชดู ก็มีโอกาสได้คลิกเข้าไปอ่านกระทู้ ( ธรรม ) ของคุณ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ที่เขียนเรื่อง "โสเภณีกับพระพุทธศาสนา" ตามลิงค์ที่ขโมยมาคือ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/12/Y11473619/Y11473619.html
ซึ่งคุณเขาก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโสเภณีในสมัยพุทธกาล ผนวกกับความคิดที่ผมกำลังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า โสเภณี กับ... ต่างกันยังไง? ก่อนหน้านี้เราได้ "มโน" ขึ้นมาเล่นๆว่า
1....คือชื่อเล่น โสเภณีคือชื่อจริง
2....ราคาถูก ส่วนโสเภณีราคาแพง
3....นี้มีมาก แต่โสเภณีนี้หายาก
4....อาจให้ฟรี แต่โสเภณีต้องซื้อขาย
อันนี้คือคิดเล่นๆ พอได้อ่านกระทู้ของคุณเสฐียรพงษ์ วรรณปก ซึ่งเป็นเด็กในสังกัดของมาดาม "พันทิพย์มณี" ก็พบว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก เลยอยากจะนำมาเป็นของฝากให้กับสหายบริวารของมาดาม "โพสต์จังงัง" ของเรา ได้ลองลิ้มชิมรสกันดู เผื่อจะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ใฝ่และฝัน อยากเป็น...และโสเภณี ( ในอนาคต )
ซึ่งผม "คนสารพัดขี้" ได้ทำการยัดกระทู้ที่ว่านี้เข้าไปในอุ้งปาก จากนั้นก็ทำการขบเคี้ยวให้ละเอียด แล้วกลืนลงคอ ส่งต่อไปยังกระเพาะอาหาร ทำการแยกย่อย ทยอยไปสู่ลำไส้ใหญ่ แล้วขับถ่ายมันออกมาในที่สุด...จากนั้นก็จัดใส่จานให้สวยงาม ตกแต่งด้วยผักชีโรยหน้า ต้นหอม และมะเขือเทศ ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้น พร้อมที่จะนำมาเสิร์ฟให้กับคุณผู้อ่านได้ขบฉันกันอย่างเอร็ดอร่อย...แต่ก่อนอื่นต้องให้มาดาม "โพสต์จังงัง" ของเราได้ชิมดูก่อนว่า ผลงานอันทรงคุณค่าที่ผมคัดแล้วคัดอีก ( ถึงใจถึงอารมณ์ ) จะมีคุณค่า คู่ควรแก่การบริโภคหรือไม่? ถ้าคุณผู้อ่าน "มีบุญ" ก็จะได้เก็บเกี่ยวความเอร็ดอร่อยกันอย่างทั่วถึง
อะเข้าเรื่อง!...พอผมได้อ่านกระทู้นั้นตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว แม้ว่าประเด็นที่สนใจตั้งแต่ที่แรกจะแตกต่างกัน...แต่ก็พบว่าข้อมูลที่ได้มานั้น สนับสนุนความคิดของผมเป็นอย่างดี
เนื่องจากโสเภณีในสมัยพุทธกาลนั้น ต่างจาก...ที่อยู่ในยุคปัจจุบันเราอย่างสิ้นเชิง แต่รายละเอียดปลีกย่อยจะเป็นยังไง ก็ให้ย้อนกลับขึ้นไปคลิกอ่านกันเอาเอง เพราะถ้าพูดอะไรมากไป อาจจะผิดเพี้ยนกันไปได้
กลับสู่หัวข้อ!!++
ความเหมือนที่แตกต่าง!!! ระหว่าง...กับโสเภณี???
1.ไม่ว่าจะเป็น...หรือโสเภณี ก็ต้องพร้อมเสมอที่จะมอบความสุขและรองรับกากเดน ( ทางเพศ ) ของผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการ
ซึ่งในที่นี้ "สินค้า...คือร่างกาย แต่จิตใจ...คือบริการ"
ทั้งสองส่วนนี้ ต้องสอดรับกันเป็นอย่างดี ซึ่งจะมีราคามากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความละเอียด ประณีตในขั้นตอนการผลิต
2.คำว่า......มีที่มายังไงเราไม่รู้ ( รู้แต่เพียงที่อยู่เท่านั้น ) แต่คำว่าโสเภณี มีที่มาจากคำว่า "โสภา" ที่แปลว่าสวยงาม และคำสรรพนามใดก็ตาม ที่ลงท้ายด้วยสระ "อี!!!" ก็จะบ่งบอกสถานะทางเพศเป็นอย่างดี เช่น กุมารี นาคี บุตรี ภิษุณี สามเณรี เศรษฐิณี อิตถี เป็นต้น
ซึ่งคำว่า "โสเภณี" นั้น แปลว่าผู้หญิงที่สวยงาม...คือหญิงงาม ( แห่ง ) เมือง...และงามพร้อมทั้งกายและใจ อันนี้ กติกามารยาทเขามาอย่างนั้น แต่จะงามพร้อมกันหมดทุกนางหรือเปล่า ก็อีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น...โสเภณีในสมัยพุทธกาล จึงไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความสุขทางเพศให้เท่านั้น แต่ยังได้รับการฝึกอบรมเรื่องของกิริยามารยาท มีความเฉลียวฉลาด รอบรู้เรื่องเหตุบ้านการเมือง สามารถปรับทุกข์ ให้คำปรึกษา และเป็นกำลังใจ ให้แก่ผู้ที่ซื้อบริการได้ ซึ่งต่างจาก... ที่อาจจะไม่ได้รับการฝึกอบรมในเรื่องแบบนี้ ว่าง่าย "นึกอยากจะขายก็ขาย" นั่นเอง
2.เนื่องจากโสเภณี เป็นหญิงที่งามพร้อม ทั้งกายและใจ "ราคาค่างวด" จึงสมน้ำสมเนื้อกับสินค้าและบริการที่สร้างขึ้น "มโน" เอาว่า โสเภณีในสมัยพุทธกาลไม่ได้แพงเฉพาะรูปหน้าและเรือนร่างเท่านั้น แต่ยังแพงไปด้วยเครื่องประดับ คลอสตูม และเมคอัพบนใบหน้าด้วย ก่อนจะถูกส่งตัวเข้าฮาเล็ม ก็ต้องผ่านการขัดสีฉวีวรรณ ประทินเนื้อด้วยเครื่องหอมและดอกไม้งาม ประดับองค์ด้วยรัตนชาติ ที่ดารดาษไปด้วยทองคำ และมณีนพรัตน์นานาชนิด ซึ่งประดิษฐ์ออกมาจากถ้อยคำของคนสารพัดขี้นี้เอง ( 555...)
แม้ขั้นตอนสุดท้าย อาจจะต้องถอดเครื่องสังเวยออกจนหมด แต่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในองประกอบ ที่จะช่วยปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศได้เป็นอย่างดี แต่......กลับไม่ได้รับการคัดสรรค์วัตถุดิบที่ดีเลิศประเสริฐศรีแบบบี้
3.โสเภณีนั้น ได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งจากราชามหากษัตริย์ ซึ่งไม่ใช่ว่าใครจะได้เป็นง่ายๆ อุปมาเหมือนการประกวดนางงามในยุคปัจจุบัน ต้องคัดแล้วคัดอีก จนกว่าจะได้ผู้เข้าประกวดที่เหมาะสมมากที่สุด แต่...นั้น...ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาคอยแต่งตั้ง ไม่มีอะไรทำ ก็แต่งตั้งตัวเองได้เลย ( ผมก็แต่งตั้งได้ )
ซึ่งมูลเหตุของการแต่งตั้งโสเภณีในสมัยพุทธกาลนั้น ให้คุณประโยชน์ด้วยกันอยู่ 2 เรื่อง
1.เพื่อดึงดูดทรัพย์จากเศรษฐีต่างเมือง
2.เพื่อลดทอนความขัดแย้งระหว่างเศรษฐีและราชามหากษัตริย์ ที่อาจพึงพอใจหญิงงามคนเดียวกัน จนอาจทำให้เกิดศึกสงคราม การแต่งตั้งหญิงงาม ให้เป็นหญิงกองกลาง จึงมีความจำเป็นด้วยเช่นกัน
4....ไทยในปัจจุบันเรานั้น...มีมากมายนับไม่ถ้วน แต่โสเภณีไทย ยังมีหลงเหลืออยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือมีก็คงจะน้อยมาก
5.โสเภณีนั้น ซื้อขายกันอย่างเป็นกิจลักษณะ มีขั้นมีตอน และอาจจะมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ด้วย แต่...นั้นซื้อง่ายขายคล่องมากกว่า แต่กำไรงามหรือไม่นั้น อันนี้...ก็ไม่รู้!!!
6.โสเภณีเป็นหญิงผู้มีเกียรติ แต่... ไปหาคำตอบเอาเอง
7.โสเภณี ในมุมมองของคนไทยในปัจจุบัน อาจไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ค้าบริการ แต่อาจรวมถึงหญิงสาวที่เป็นโสด แม่ม่ายลูกติด หรือผู้ที่มีสามีเป็นตัวเป็นตนเอง แต่ยังคงงามพร้อมทั้งกายและใจ ไม่มีประวัติเสียๆหายๆ ก็จัดว่าเป็นโสเภณีด้วยเหมือนกัน
8.... ในมุมมองของคนไทยในปัจจุบัน อาจไม่ใช่แค่ผู้ที่ขายตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ผู้หญิงทีอยากได้ ก็ให้ฟรี อยากมี ก็ให้ได้ จัดเข้ากลุ่มประเภทของสตรี "ผู้มีคัน" เป็นต้น
และนี่ ก็คือเนื้อหาทั้งหมดที่ "คนสารพัดขี้" ได้ทำการแยกย่อยและขับถ่ายออกมา ให้คุณผู้อ่านได้รับประทานกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง หวังว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากเป็น...และโสเภณีนะครับ
https://thestupidarticles.blogspot.com/