ปริศนาเรือลึกลับ บนเกาะที่ห่างไกลที่สุดในโลก
ปริศนาเรือลึกลับ บนเกาะที่ห่างไกลที่สุดในโลก
ถ้าพูดถึงสถานที่ๆ อยู่ห่างไกลผู้คนที่สุด จะต้องมีชื่อของ เกาะบูเวต (Bouvet Island) อย่างแน่นอน
เกาะบูเวต เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ราว 50 ตารางกิโลเมตร ที่อยู่ห่างจากแอนตาร์กติกาถึง 1,600 กิโลเมตร ห่างจากเกาะ Tristan da Cunha ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ถึง 2,250 กิโลเมตร รวมไปถึงอยู่ห่างจากแอฟริกาใต้ถึง 2,570 กิโลเมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลมากที่สุดในโลกก็ว่าได้
เดิมทีเกาะแห่งนี้ถูกค้นพบโดย ฌอง แบบติสต์ ชาร์ลส บูเวต เดอ โลเซียร์ นักสำรวจชาวนอร์เวย์ ตั้งแต่ปี 1739 โดยเป็นเกาะที่ว่างเปล่า มีแต่หินและน้ำแข็ง ไม่มีพืชใดๆ นอกจากตะไคร่น้ำ จนกระทั่งในปี 1929 มันกลายเป็นดินแดนของนอร์เวย์อย่างสมบูรณ์
ในปี 1950 รัฐบาลของแอฟริกาใต้ได้รับอนุญาตจากนอร์เวย์ ให้สามารถเข้าไปตรวจสอบบนเกาะแห่งนี้ เพื่อดูทำเลในการก่อสร้างสถานีเรือกำปั่น แต่สุดท้ายก็พอว่าสภาพภูมิประเทศบนเกาะแห่งนี้ไม่เหมาะกับความต้องการของพวกเขา
ส่วนเรื่องลึกลับที่สุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 1964 เมื่อรัฐบาลแอฟริกาใต้ส่งคนกลับยังเกาะบูเวตอีกครั้งเพื่อศึกษาส่วนที่ใหม่กว่าของเกาะ ซึ่งจุดนี้เอง ที่พวกเขาพบว่ามีเรือลึกลับลำหนึ่งอยู่บนเกาะพร้อมกับไม้พายคู่หนึ่งที่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยหลา ถึงแม้จะพบหลักฐานว่ามีคนมากับเรือ แต่ไม่มีการพบศพมนุษย์ใดๆ ทั้งสิ้นบนเกาะ บนเรือไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ พอที่จะระบุได้ว่า เป็นเรือของใครและมาจากไหนกันแน่
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการพบเรือลึกลับลำนี้ เหตุผลก็คือทำไมเรือพายเล็กๆ ถึงมายังเกาะที่ห่างไกลผู้คนได้ขนาดนี้ ระยะทางที่สั้นที่สุดจากแผ่นดินที่มีคนอาศัยอยู่ยังไกลมากกว่า 2,000 กิโลเมตร ซึ่งไม่น่าจะมีใครที่พายเรือด้วยไม้พายมาถึงเกาะบูเวตได้เลย แล้วใครล่ะที่อยู่บนเรือ พวกเขาไปไหน หรือเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ สิ่งของอื่นๆ นอกจากไม้พายแล้วก็ไม่พบอะไรอื่นอีก
ไมค์ แดช นักประวัติศาสตร์ชาวลอนดอน ได้พยายามศึกษาหาข้อหามูลเพื่อมาตอบคำถามเหล่านี้ แต่เขาก็กลับมามือเปล่า โดยที่ไม่ได้คำตอบอะไรที่เป็นรูปธรรมได้เลย
เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ที่ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรือปริศนาบนเกาะบูเวตได้เลย และนี่คือหนึ่งในเรื่องราวลึกลับในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ที่ยังคงเป็นปริศนาจนกระทั่งทุกวันนี้
ที่มา:http://coolinterestingstuff.com/mystery-of-the-boat-in-the-middle-of-bouvet-island