จอห์น ดิลลิงเจอร์ ศัตรูสาธารณชนหมายเลขหนึ่ง
คงไม่มีใครโจรคนใดได้รับฉายาแบบนี้เป็นแน่แท้ ถ้าไม่ได้แสบสันต์จนทางการต้องล่าตัวให้ได้ แม้ชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยความโลดโพนจนทะยานในฐานะ ศัตรูของรัฐผู้เป็นขวัญใจประชาชนและสื่อมวลชนก็ตาม ชื่อเสียงของดิลลิงเจอร์นับว่า เป็นในตำนานของจอมโจรมานาน
.
จอห์น ดิลลิงเจอร์จึงเป็นตำนานของอเมริกาในฐานะจอมโจรโด่งดังที่สุดในยุค 30 บ่งบอกถึงภาวะอันยากจนข้นแค้นของผู้คนที่ต่างเคียดแค้นธนาคารที่สูบเงินพวกเขาไปจนหมด การมาของดิลลิงเจอร์จึงไม่ต่างกับฮีโร่ของผู้คนไปในที่สุด
.
จอห์น ดิลลิงเจอร์ มีชื่อจริงว่า จอห์น เฮอร์เบริ์ต ดิลลิงเจอร์ จูเนียร์ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน เขาเกิดอินดีแอนาโปลิส รัฐอินดีแอนา แม้ว่าครอบครัวของเขาจะมีฐานะปานกลางไม่ได้ยากจนอะไร เขากลับไม่ได้รับการศึกษาใด และเริ่มต้นอาชีพลักเล็กขโมยน้อยก่อนจะเริ่มต้นอาชีพปล้นในวัย 20 ปี แน่ล่ะว่า ด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิดทำให้เขาถูกจับกุม ก่อนจะได้เจอกับอาจารย์ที่สอนหลักแผนการปล้นให้กับเขา เมื่อพ้นโทษ ออกมา เขาเริ่มรู้ถึงวิธีการในการปล้นและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักทันที
.
ด้วยการสไตล์การแต่งตัวเนี้ยบ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่นพล่านแบบผู้ชาย รวมทั้งวาจาที่เฉือดเฉือนกับท่าทางการปล้นแบบมีสไตล์สวมเสื้อโค้ท หมวก และ ท่ากระโจนเข้าไปในเคาท์เตอร์ธนาคาร นั้นทำให้เขาได้รับการจับตามองในฐานะขวัญใจของชาวหนังสือพิมพ์
.
ในปี 1933 เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงด้วยการปล้นธนาคารใหญ่ ๆ กว่า 11 ครั้ง ได้ยอดเงินรวม 3 แสนดอลลาร์สหรัฐทีเดียว
.
ทว่าชื่อเสียงกับมัวหมองไปเมื่อเผลอไปสังหารตำรวจตายไปสองนายระหว่างการปล้นธนาคารแห่งหนึ่งแทน และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
.
ความป๊อปสตาร์ของจอห์นเป็นที่กล่าวขวัญมาก แทนที่เขาจะได้รับการปฏิบัติแบบโจรทั่วไป เขากลับเป็นขวัญใจของผู้คน เมื่อเขาเดินทางมายังชิคาโกหลังโดนจับ มีผู้คนไปต้อนรับเขาราวกับดารา แถมเจ้าตัวยังไม่สนใจตำรวจใด ๆ พร้อมกับถ่ายรูป หยอกล้อกับสื่อมวลชนพร้อมกับโพสท่าหล่อ ๆ ให้แฟนคลับของเขาอีกด้วย เรียกว่าเป็นการเยาะเย้ย เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ นายใหญ่แห่งเอฟบีไอ ที่ตั้งฉายาให้เขาว่า
.
“ศัตรูสาธารณชนหมายเลขหนึ่ง”
.
ถึงแม้ว่าจะมีการคุ้มกันด้วยตำรวจกว่า 50 นาย และพลเรือนติดอาวุธกว่า 20 คนระหว่างพาตัวเขาไปยังเรือนจำก็ตาม เจ้าตัวก็ยังแหกคุกไปซะงั้น
.
แถมยังเป็นการบุกรุกด้วยปืนไม้อีกต่างหาก ทำเอาเอฟบีไอในยุคนั้นถึงกับควันออกหูที่ถูกหยามด้วยจอมโจรคนนี้อย่างมากทีเดียว
.
ชื่อเสียงของจอห์นดังขึ้นเมื่อเขาและพรรคพวกขยายอิทธิพลไปทั่วชิคาโกและออกปล้นธนาคารอีกหลายครั้ง กลายเป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐกับเขาไปในที่สุด เมื่อเขาสังหารเจ้าหน้าที่ไปหลายคน และได้เงินไปมากมาย และบ่อยครั้งก็หนีเอาตัวรอดไปได้เสมอ ๆ ด้วยเหตุผลว่า มีผู้คนให้ความช่วยเหลือเขาตลอดนั่นเอง
.
เอฟบีไอจึงมีคำสั่งจับตายจอห์นและพรรคพวกให้ได้
.
ด้วยความช่วยเหลือของประชาชน จอห์นได้ทำการผ่าตัดหน้าและปลอมแปลงรายนิ้วมือบ่อยครั้ง และ หนีเอาตัวรอดได้ไปเสมอ จนกระทั่งใบหน้าของเขากลายเป็นที่ต้องการตัวของบรรดาเจ้าหน้าที่มีใบปิดประกาศไปทั่วประเทศ เรียกว่า เป็นจอมโจรเบอร์หนึ่งที่ผู้คนสนใจในช่วงเวลานั้น
.
กระทั่งวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1934 เมื่อไม่สามารถจับกุมเขาได้เสียที เอฟบีไอจึงวางแผนให้จอห์นไปชมภาพยนตร์กับผู้หญิงสาวสองคน เมื่อเสร็จแล้ว ในสถานการณ์หน้าโรงภาพยนตร์ ในรัฐอิลลินอยส์ จอห์นเห็นถึงความผิดปกติ และพยายามหนี แต่ก็ไม่รอดเมื่อถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมด้วยกระสุนไปทั้งหมด 5 นัด ถูกเป้า 3 นัด โดยเป็นการเสียชีวิจด้วยการถูกยิงใบหน้าจนเละจนแทบระบุตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
.
ความตายของดิลลิงเจอร์สร้างความฉงนสงสัยให้คนเป็นอย่างมาก แม้ว่า ลายมือของเขาจะตรงกันก็ตาม แต่ปัญหาคือ หลายคนไม่เชื่อว่า เขาตายจริงบ้างก็มองว่า เขาหนีรอดไปได้ บางคนถึงกับโกรธแค้นที่เขาตายแบบไม่สมศักดิ์ศรีและเอฟบีไอใช้วิธีสกปรกในการกำจัดเขาด้วย
.
หลังการตายของเขานั้น แก็งของจอห์นก็พังทลายลง พรรคพวกถูกจับกุมและสังหารกันมากมาย แต่ก็ยังมีผู้คนชื่นชมในตัวเขาก่อเกิดตำนานเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ยกย่องชายคนนี้และมีสมาคมคนรักเขาที่จะไปเยี่ยมหลุมศพของเขาในทุกปีอีกด้วย