ชาร์ล อองรี แซงซัง เพชฌฆาตเปลี่ยนแผ่นดิน
ถ้าพูดถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลกและวันสำคัญของประชาธิปไตยแล้วล่ะก็คงไม่พ้นวันที่ 16 กรกฏาคมปี 1789 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติครั้งใหญ่บนโลกจากระบอบกษัตริย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้มาพร้อมกับการประหารชีวิตบรรดาอำนาจเก่าที่ครองอำนาจในขณะนั้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และ พระนางมารี อ็องตัวแน็ต อดีตกษัตริย์ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตจากผู้ปฏิวัติและจบลงด้วยกิโยตินอันเป็นจุดจบของระบอบกษัตริย์ของฝรั่งเศสลงอย่างสิ้นเชิง
.
และคนที่ทำหน้าที่ในการประหารทั้งสองพระองค์รวมทั้งฝ่ายต่อต้านนั้นก็คือ เพชฌฆาตหนุ่มผู้ชื่อว่า เป็นมือสังหาร 3000 ศพ เพราะ ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่นี้เขาได้ทำการฆ่าคนมาเป็นจำนวนมากจนหลายคนบอกว่า เขาเป็นปีศาจที่ไร้หัวใจเลยด้วยซ้ำ
.
ชายที่มีชื่อชาร์ล อองรี แซงซัง
.
ชีวิตของชาร์ลเรียกว่าเกิดมาในตระกูลของนักฆ่าที่ทำงานมาแทบทุกรุ่นให้กับราชสำนักของฝรั่งเศส ตัวเขานั้นมีความสามารถในด้านศิลปะและอารมณ์อ่อนไหวอย่างยิ่ง แม้ว่าตัวเขาจะไม่อยากทำงานนี้ แต่พ่อของเขาซึ่งทำงานอยู่กับศาลนั้นได้บอกว่า ตัวลูกของเขานั้นจะเป็นเพชฌฆาตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูล ซึ่งแน่ล่ะว่า ตัวของชาร์ลไม่ได้อยาก แต่เพราะต้องรักษาชื่อเสียงของตระกูลเขาจึงต้องทำงานนี้
.
กล่าวกันทั้งชีวิตของเขานั้น ชาร์ลทำการประหารชีวิตคนไปกว่า 2918 คน ซึ่งมีบุคคลตั้งแต่โจรตัวเล็กตัวน้อย ทหารหนีทัพ พวกฆาตกรรมไปจนถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาล ที่ปรึกษาของกษัตริย์จนกระทั่งพวกคณะนักปฏิวัติเองก็ตาม
.
แน่ล่ะว่า ในบรรดาหลายชื่อของคนที่ถูกเขาประหารชีวิตแล้วรู้สึกสะเทือนใจที่สุดคงไม่พ้นชายผู้พยายามลอบสังหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
.
ผู้มีนามว่า โรแบร์ ฟราสซิส เดเมี่ยน
.
ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นการประหารที่ทารุณโหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ของประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์
.
เดเมี่ยนถูกจับสืบสวนทรมานอย่างรุนแรงชนิดไร้มนุษยธรรม เขาถูกนำสารซัลเฟอร์หลอมจนร้อนระอุเผาที่มือข้างที่เขาใช้ถือมีดเพื่อแทงหลุยส์ ๑๕ จากนั้นก็นำเอาขี้ผึ้งร้อนและน้ำมันเดือดจี้เข้าไปที่แผล และจี้ตามแขน ขา เท้า มือ จนทรมานอย่างแสนสาหัส แน่ล่ะว่า ตัวของเดเมี่ยนไม่รับสารภาพทำให้เขาถูกทรมานอย่างหนักจนร่างกายและสภาพจิตใจพังทลายไปหมดแล้ว
.
และในที่สุดศาลฝรั่งเศสก็ตัดสินประหารชีวิตเขา แม้ว่า พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ต้องการให้อภัยโทษด้วยการไม่ลงโทษตาย แต่คณะลูกขุนและศาลต่างไม่ยินยอมด้วยเหตุผลว่า การคิดลอบฆ่ากษัตริย์เป็นความผิดมหันต์จะตายสถานเดียว
.
พิธีประหารเกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาของคนดูที่อยากเห็นคนโดนประหารตรงหน้า กระนั้นเองวิธีประหารนี่แหละที่ทำให้ทุกคนต้องสยองไปตาม ๆ กัน
.
วิธีประหารก็คือ ใช้เชือกมัดตามแขนขา ๔ จุด แล้วใช้ม้า ๔ ตัว พร้อมคนขี่ ดึงเชือก เพื่อให้ร่างกายฉีกขาดออกจากกัน
.
กล่าวกันว่า ก่อนจะถูกประหารเดเมี่ยนได้ตะโกนร้องคำว่า la journée sera rude ออกมาด้วย
.
ทว่าการประหารครั้งนี้กลับเป็นการทรมาน เมื่อไม่สามารถแยกร่างของเดเมี่ยนออกมาได้ ทำให้การประหารกินเวลาไป ๒ ชั่วโมงเศษทีเดียว
.
โดยเฉพาะชาร์ลที่มีจิตใจอ่อนไหวอยู่แล้ว แถมการไปยืนดูการฆ่าครั้งนี้ที่ลุงของเขาทำนั้นทำให้เขาแทบบ้า ลุงของเขาเสนอให้ตัดข้อและเอ็นต่อผู้พิพากษาเพื่อให้ตัวของคนถูกประหารไปสบายขึ้น
.
ทว่าความหวังดีของลุงของชาร์ลกลับไม่เป็นผลเมื่อผู้พิพากษาไม่อนุญาต และดำเนินต่อไปจนกระทั่งร่างของเดเมี่ยนขายเป็นชิ้น ๆ
.
แน่ล่ะว่า นั่นเองที่ทำให้เขาตัดสินใจเสนอให้นำกีโยตินมาใช้แทนเพื่อให้คนถูกประหารตายสบายไม่ทรมานขึ้นก็ตาม
.
กล่าวกันว่าในก่อนที่ชาร์ลจะได้ทำหน้าที่ประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อ็องตัวแน็ตด้วย
.
จนกระทั่งเกษียรจากงานชาร์ลจึงได้พูดคุยกับพระเจ้านโปเลียนมหาราชซึ่งถามเขาว่า
.
“เป็นไงนอนหลับดีไหม กับการประหารชีวิตคนร่วมสามพันคน”
.
ชาร์ล ตอบเหมือนย้อนว่า
.
" ถ้าจักรพรรดิ พระราชา เผด็จการ ยังนอนหลับได้อย่างสบายดี แล้วทำไมเพชฌฆาต จะนอนหลับบ้างไม่ได้ละ "
.
ชาร์ลเสียชีวิตด้วย 67 ปีในปี 1806 พร้อมกับผลงานประหารชีวิตคนไปกว่า 2918 คน แม้ว่าจะไม่ถึง 3000 แบบฉายาของเขา แต่ก็นับว่าเป็นมือสังหารที่ฆ่าคนมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
.
ปัจจุบันศพของเขาถูกฝังอยู่ในสุสานมอนมาเทร่ ในปารีส
.
พร้อมกับทิ้งเรื่องราวของนักประหารเบอร์หนึ่งผู้มีจิตใจอ่อนไหวเอาไว้ให้ได้เล่าขานผ่านการ์ตูนและเกมที่นำเรื่องของเขามาเขียนอย่างมากมายในปัจจุบัน