คุณแม่เล่าเรื่อง “รองเท้าคู่ละ59บาท ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาเรารักตัวเอง ไม่ใช่ลูก” ซึ้งใจเหลือเกิน…
สมาชิกพันทิป คุณแม่มังกรแปดขา ได้เข้ามาตั้งกระทู้เล่าเรื่องประสบการณ์ชีวิตและให้ข้อคิดกับสังคม ถึงชีวิตของเธอเองและการเลี้ยงลูกที่คิดว่าทำไม่ค่อยถูกมาตลอด
เพื่อให้เนื้อหาชัดเจน ขออนุญาตคัดลอกข้อความที่เธอโพสต์ไว้มาเต็มๆ…
” ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรามีลูกชายคนเดียวค่ะ อายุ 4ขวบนิดๆ ฐานะปานกลาง มีกิน มีใช้ พอเหลือเก็บบ้างเล็กน้อย ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ที่ผ่านมา ตั้งแต่ลูกเกิดจนถึงทุกวันนี้ อะไรที่คิดว่าดี คิดว่าเท่ห์ คิดว่าทันสมัย และคนเค้านิยมกัน ก็จะพยายามซื้อหามาให้ลูกได้ใช้ บางครั้งรู้สึกว่ามันแพงเกินไปก็ดิ้นรนซื้อมาเพื่อให้ทันสมัย จากนั้น ยังไงต่อค่ะ อัพลงเฟสบุ๊คค่ะ ให้คนเค้ารู้กันว่าเรามีแล้วนะ!!
กางเกงยีนส์เดฟๆ ที่ใส่แล้วรู้สึกว่าลูกน่าจะอึดอัด แต่เอาน่า ก็มันเท่ห์นี่เนอะ ใส่ให้แม่ถ่ายรูปอัพเฟสหน่อยนะลูก เดี๋ยวค่อยถอดออก รองเท้าคู่ละ 2000+ ที่แบบว่า ใส่ได้ไม่ถึง 10 ครั้ง เพราะว่าเท้าลูกโตเร็วมาก ก็ซื้อมาใส่ก่อน เดี๋ยวค่อยเอาไปปล่อยต่อในห้องแม่ๆ ขาดทุนนิดหน่อยไม่เป็นไร ได้เท่ห์ในเฟสไปแล้ว
เหตุการณ์เรื่องรองเท้าคู่ละ 59.- เกิดเมื่อตอนปิดเทอมเดือนเมษาที่ผ่านมา
เราพาลูกไปเที่ยวทะเลกับญาติๆที่ต่างจังหวัด ก็จะมีเฉพาะญาติกันแค่นั้นเอง ไป 1 อาทิตย์เต็มๆ ก็ตามปกติ เราก็เตรียมเสื้อผ้าลูกไปมีทั้งแบบสบายๆ ราคาถูก และมีราคานิดหน่อย แต่ที่ขาดไม่ได้ คือรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ราคา 2000+ ที่ว่า (สาเหตุที่ย้ำราคาเพราะด้วยความที่เราไม่ได้ร่ำรวยอะไร รองเท้าราคาขนาดนี้สำหรับเด็ก 4 ขวบ สำหรับเราถือว่าแพงมาก แต่อยากเท่ห์ไงคะ อยากให้คนรู้ว่าเรามีไงคะ ถึงซื้อมา)
แต่ตลอดทริป ลูกใส่แต่หูหนีบคู่นี้
ด้วยความที่อยู่แต่ทะเล อีกอย่างมีแต่ญาติๆกันเอง ไม่รู้จะไปโชว์ใคร แล้วเค้าท่าทางจะถูกใจคู่นี้มากวิ่งเข้า วิ่งออก อย่างรวดเร็ว ออกบ้าน ไปทะเล ไปเดินเล่นตลาดกลางคืน ฯลฯ ดูเค้าจะคุ้นชิน และสบายเท้าเอามากๆ แล้วพอออกไปเดินเล่น มีคนเห็น มีคนมอง แล้วพูดกันหลายคนว่า น่ารักจังเลย ดูใส่รองเท้าสิ ญาติก็ชมว่า เข้าใจหารองเท้าให้ลูกใส่เว้ย น่ารักดี คือเด็กอ่ะเนอะ อายุเท่านี้มันยังป้อมๆ นิ้วอวบๆ จริงๆแล้ว ใส่อะไรก็น่ารัก สรุปตลอดทริปนี้ แทบไม่ได้หยิบรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง(ที่แม่อยากพรีเซ้นต์นักหนา) ออกมาใส่เลย
พอสมองว่างๆ เราเลยมานั่งคิดถึงหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จริงๆแล้วที่ผ่านมา เรารักลูก หรือ รักตัวเองกันแน่ การที่เราบังคับให้ลูกใส่อะไรที่ลูกไม่อยากใส่ เพียงเพราะตัวเราเองที่เป็นแม่ อยากโชว์ อยากอวดซะเหลือเกินว่าลูกชั้นมีนะ ชั้นซื้อแบบนี้ แบบนั้นมาให้ลูกใส่แล้วนะ จริงๆเรานี่แหละที่รักตัวเอง ลูกก็เหมือนเครื่องประดับอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อลูกใส่ของดีดี ลูกเท่ห์ ลูกหล่อ คนที่ได้รับคำชมคือเรา ถึงเค้าจะชมลูกก็เถอะ แต่ถามว่าลูกรู้เรื่องอะไรมั้ย ว่าสิ่งที่คนๆนั้นพูดมาคือชมเค้าอยู่ เค้าใส่รองเท้าหลักพัน ใส่กางเกงหลักพัน เค้ารู้มั้ยว่าสิ่งที่เค้าใส่อยู่มันมีค่ามีราคาแค่ไหน
การที่เราซื้อกางเกงหลักพันให้ลูกใส่ .. หูย!! ออกไปข้างนอกนี่นะ คอยประคบประหงมอย่างดี อย่าทำกางเกงเปื้อนนะลูก ระวังๆ นะลูก โอ้ย.นั่งดีดีสิ ตูดเปื้อนหมดแล้ว อย่าวิ่งซนสิลูก เดี๋ยวล้มกางเกงแพงนะ ย้อนกลับไปคิดเรื่องพวกนี้ แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย! ทุกข์ว่ะ เราเองก็ทุกข์ เพราะของแพงก็ต้องคอยกังวลไม่อยากให้มันเสียหายเร็ว ลูกเองก็ไม่ได้เล่นเต็มที่ และยังต้องมาได้คอยฟังเสียงบ่น เสียงห้ามของแม่ กลายเป็นขัดความสุขของเค้าไปซะอีก
การที่เราใส่รองเท้าราคาแพงๆให้ลูก เวลาลูกเดินย่ำน้ำ เดินเปื้อนฝุ่น เราก็คอยบ่นลูก ให้ระวัง บางทีหงุดหงิดใส่ลูกด้วยนะ ทำไมไม่ระวัง มันเปื้อนแล้วนะ เดี๋ยวมันพังง่าย เดี๋ยวขายไม่ได้ราคา ทั้งๆที่วันไหนที่ลูกใส่ แตะ เราปล่อยเค้าให้อิสระมากๆเลย เพราะแค่ความต่างของราคารองเท้าแค่นั้นเอง ถามว่าเด็ก 3 ขวบ 4 ขวบ มันจะรู้มั้ยว่ารองเท้าที่ใส่อยู่ ราคาถูก แพง แค่ไหน เค้าแค่อยากเล่นตามวัย สนุกสนาน ตามวัยเค้า แต่เราเป็นแม่ นี่สิ..
(กรณีที่เราพูดถึงคือ สำหรับคนที่ฐานะปานกลางอย่างเรานะคะ ที่ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่อยากได้ อยากมี แบบคนอื่นเค้า สุดท้ายไม่ได้มีความสุขเลยค่ะ ทั้งเรื่องเงิน และเรื่องความสุขลูก ซื้อไปก็เสียดายนะ แต่อยากซื้อ แล้วก็มาคอยให้ลูกต้องระแวดระวังรักษาของที่เรายัดเยียดให้ใส่ ทั้งที่เค้าไม่ได้ต้องการ ส่วนคนที่มีเงินมากๆ มีฐานะดี มีเงินเหลือ ซื้อไป คงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับชีวิต 555)
ตอนนี้เราคิดได้แล้วค่ะ ตั้งแต่เปิดเทอมมานี่ แทบไม่ได้ซื้ออะไรที่ราคาแพงๆให้ลูกเลย เก็บเงินไว้ดีกว่า ตอนนี้เค้ายังเรียกร้องไม่เป็น ยังไม่ได้อยากได้ อยากมีอะไร สิ่งที่เค้าต้องการคือเวลาจากพ่อแม่มากกว่า ถ้าขืนตอนนี้เราใช้เงินหมดไม่มีเหลือเก็บ พอลูกโตพอที่จะเริ่มเรียกร้องเป็น อยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ อยากไปเที่ยวที่นู่นที่นี่ แล้วเราไม่มีให้เราคงเสียใจมาก
วิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของเราง่ายนิดเดียวค่ะ ทุกวันนี้พอเห็นอะไรที่น่าช้อป เรารีบใช้นิ้วดันขึ้นเลยค่ะ ปัดเลย ไม่อยากเห็น 555 หรือลดความอยากได้อยากมีลงไป ไม่ต้องอยากได้หน้า ได้ตา ว่าคนอื่นใส่กันเราไม่มีใส่ เด็กๆเค้าน่ารักในตัวเค้าเองอยู่แล้วเนอะ ใส่อะไรก็น่ารัก บางทีลูกใส่แค่เสื้อง่ายๆราคาร้อยกว่าบาท ถ่ายรูปสวยๆหน่อย อัพลงเฟสก็น่ารักแล้ว ไม่เห็นจะมีใครมาถามว่าเสื้อยืดแบรนด์อะไรเลย… 555 ส่วนรองเท้าผ้าใบคู่ที่มีอยู่ก็เกือบจะเล็กหมดแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าถ้าคู่เก่าๆใส่ไม่ได้แล้ว เราจะซื้อคู่ละ 199 หรือ จะหาซื้อแบรนด์ไหนใส่ดี รอบนี้ขอซัก พันต้นๆก็พอ 555 แต่หูหนีบคู่ละ 59บาท นี่ คงหาไซส์ใส่ไปเรื่อยๆ เพราะเจ้าลูกชายตัวแสบชอบเอามากๆ