เรื่องน่ารู้ “หลอดไฟ LED”
วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องหลอดไฟ LED กันค่ะ หลอดไฟ LED สามารถช่วยเราประหยัดไฟได้มากกว่าถึง 80% ให้แสงสว่างที่มากกว่าและไม่มีรังสี UV มาทำร้ายผิว แถมอายุการใช้งานหลอดก็ยาวนานกว่าหลอดทั่วไปอีกต่างหาก !!!
LED กับเทคโนโลยีส่องสว่าง
Light Emitting Diode เป็นเทคโนโลยีของการส่องสว่างแบบใหม่ ที่ทนทาน ให้ความสว่างสูง กินไฟน้อย เกิดความร้อนต่ำ ซึ่งระดับความสว่างก็ต่างกันตาม Chip LED โดยสามารถดูค่าความสว่างหรือปริมาณแสง (ลูเมน : lm) ที่จะบ่งบอกค่าความสว่าง เช่น หลอดไส้ขนาด 100 วัตต์ ให้แสงสว่าง 400 ลูเมน เมื่อเทียบกับ LED จะกินไฟเพียง 5 วัตต์เท่านั้น
วิธีเลือกหลอดไฟLED
>>สีของแสง
แสงนวล Warm White จะให้แสงนวลตา อบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน Warm white ให้แสงสีแดงออกโทนส้ม เป็นโทนสีร้อน โทนอบอุ่น ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ ต่ำกว่า 3,000 เคลวิน
แสงขาว Day Light ให้แสงสว่างมาก เหมาะกับพื้นที่ใช้งานเช่นห้องทำงาน ห้องครัว ที่ต้องการแสงที่สว่างสบายตา Day light ให้แสงสีโทนออกขาวอมฟ้า คล้ายแสงธรรมชาติตอนกลางวัน ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 4,500-6,500 เคลวิน ขึ้นไป ให้ค่าสีที่สมจริง
แสงเย็น Cool white ให้แสงสีในทางสีขาว เป็นโทนสีดูเย็นสบายตา ค่อนข้างสว่างกว่าเมื่อเทียบกับ Warm white ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 3,000-4,500 เคลวิน
>>ขั้วหลอดต่างขนาด
ขั้วหลอดไฟ LED ที่ใช้กับโคมเป็นแบบไหนต้องไม่ลืมสังเกตให้แน่ใจว่าเป็นขั้วเกลียว ขั้วเกลียวเล็ก ขั้วเข็ม หรือขั้วเสียบ
>>หลอดขาวขุ่นหรือหลอดใส
หลอดไฟมีทั้งแบบหลอดใสและแบบขาวขุ่น ผิวเคลือบของหลอดต่างกันก็จะให้แสงที่ต่างกัน หลอดใสเหมาะใช้กับโคมไฟที่ออกแบบตัวโคมให้สร้างลวดลาย ก็จะต้องการการกระจายแสงที่มาก ส่วนหลอดขาวขุ่นจะให้แสงที่สม่ำเสมอเหมาะใช้กับพื้นที่ให้แสงแบบไม่ต้องมีตัวโคม
>>สวิตช์หรี่ไฟ dimmable
การเลือกใช้หลอด LED สำหรับแต่ละที่ต้องดูด้วยว่าต้องการให้หรี่ไฟได้หรือไม่ หลอด LED บางรุ่นหรี่ไฟได้ บางรุ่นหรี่ไฟไม่ได้ สังเกตได้จากสัญลักษณ์ (ภาพ Dimmable / Not Dimmable)
>>รูปทรงหลอดไฟ LED
หลอดจำปา ให้แสงคล้ายแสงเทียนเหมาะสำหรับโคมไฟประดับที่ต้องการเพียงแสงสลัวๆ
หลอดทรงกลม ให้แสงสว่างองศากว้าง เหมาะใช้โคมไฟและโป๊ะโคมที่สร้างลวดลายเวลาเปิดไฟ
หลอดทรงยาว ให้แสงคล้ายหลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดนีออน เหมาะสำหรับให้แสงสว่างทั่วไป
>>มุมกระจายของแสง
การให้แสงของหลอด LED จะเป็นแบบแสงพุ่งตรงเหมือนแสงจากไฟฉาย ดังนั้นในการเลือกหลอด LED จึงต้องดูเรื่องการกระจายแสง จากรีเฟลกเตอร์ของหลอดไฟแต่ละรุ่นประกอบด้วย
>>ค่าประหยัดไฟของหลอดไฟ
มีตั้งแต่ระดับ A++ คือประหยัดสูงสุด ไปจนถึง E ซึ่งจะลดระดับความประหยัดลงมา
เครดิต : THAIHOMEONLINE