ไปดูมาแล้ว The BFG ยักษ์ใหญ่ หัวใจหล่อ [ 5 จุดเด่นของหนัง V. 5 จุดด้อยของหนัง ] - อ่านได้ ไม่สปอยส์
The BFG ยักษ์ใหญ่ หัวใจหล่อ
เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยมาตั้งแต่ต้นปี
สำหรับ “The BFG” หรือที่มาจากคำว่า Big Friendly Giant ยักษ์ใหญ่ใจดีนั่นเอง
ในภาษาไทย เราใช้ชื่อหนังว่า “ยักษ์ใหญ่ หัวใจหล่อ”
เป็นที่น่าจับตากันตั้งแต่เริ่มสร้างเลยทีเดียว
เพราะหนังเรื่องนี้ ได้นำเอาหนังสือวรรณกรรมชิ้นเอกของนักเขียนระดับตำนานอย่าง โรอัล ดาห์ล มาทำ
โดยได้ผู้กำกับผู้เข้าถึงหัวใจวัยเยาว์อย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์กมากำกับ ภายใต้การดูแลงานสร้างจากค่ายดิสนี่ย์
สามสิ่งนี้ น่าจะเป็นสูตรผสมที่ลงตัวสำหรับการสร้างหนังแฟนตาซีเพื่อเด็กๆได้อย่างแน่นอน
ถ้าอย่างนั้น เราจะมาดู 5 จุดเด่นที่หนังเรื่องนี้ และ 5 จุดด้อยที่หนังเรื่องนี้ ก็มี
ให้คุณได้รับรู้ รับทราบ เพื่อเตรียมกลั้นหายใจ ไปผจญภัยและสนุกกับมัน
5 จุดเด่นจากภาพยนตร์ THE BFG (ไม่สปอยส์)
1. เป็นหนังที่น่ารักอบอุ่น
ไร้ซึ่งพิษภัย ดูได้ทุกวัย เหมาะสำหรับเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็ดูได้
2. มาร์ค ไรแลนซ์ ได้ให้การแสดงในบทยักษ์ใจดี ออกมาได้น่ารักน่าหยิก และดูมีเสน่ห์มากๆ
สมกับที่เพิ่งได้คว้ารางวัลออสการ์มาหมาดๆ รวมถึงนักแสดงเด็กน้อยอย่างในบทโซฟี ซึ่งรับบทโดย รูบี้ บาร์นฮิลล์
ก็เล่นได้เข้าขากับยักษ์ได้ดีเลยทีเดียว
3. นี่เป็นหนังที่ใช้เทคโนโลยีทางด้านภาพ ซีจี สามมิติ ออกมาได้มีสีสันสวยสดงดงาม
ทำให้การเล่าเรื่องในหนังดูมีความเป็นแฟนตาซี เสมือนอยู่ในวรรณกรรม และนอกจากนั้น
ผลงานการถ่ายภาพของผู้กำกับภาพอย่าง จานิส คามินสกี้ ก็ยังทำหน้าที่เล่าเรื่องได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย
ส่วนตัวชอบฉาก Dream Country มากๆ เป็นฉากที่เราจะได้เห็นความฝันมากมายออกมาโบยบิน ต้องไปดูเองนะ
4. หนังเรื่องนี้ เราจะได้กลับมาฟังดนตรีประกอบชวนฝันจากคุณปู่ จอห์น วิลเลี่ยมส์ อีกครั้ง
ผู้ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงคู่ใจของสปีลเบิร์ก
ที่รอบนี้มาด้วยอารมณ์เพลงแบบแฟนตาซี ระคนเศร้าๆนิดๆ มีท่วงทำนองที่ชวนระลึกถึงผลงานที่ผ่านๆมาของแก โดยเฉพาะบางธีม ที่ชวนนึกถึงหนัง Lincoln ชอบกล
5. นี่คือหนังที่ได้นักเขียนบทหนังในตำนานอย่าง E.T. เมลิสา มาทิลสัน กลับมาเขียนให้ ซึ่งเป็นการกลับมาร่วมงานอีกครั้งกับสปีลเบิร์กในรอบ25ปีเลยทีเดียว และนี่ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ทำงานด้วยกัน เพราะเธอได้เสียชีวิตระหว่างที่หนังเรื่องนี้กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ เราจะได้เห็นธีมอารมณ์เหงาๆเศร้าๆแวบมาบ้างในบางครั้ง ท่ามกลางความเป็นแฟนตาซีในหนัง ชวนระลึกถึงผลงานเก่าๆที่เป็นตำนานระดับ E.T. ได้เช่นกัน
5 จุดด้อยของหนัง The BFG เขียนให้อ่านไว้ จะได้ไม่ต้องคาดหวังมากไป (ไม่สปอยส์)
1. หนังค่อนข้างเนิบมากในช่วงแรก
ดำเนินเรื่องช้า และดูเผินๆ อาจไม่ค่อยมีอะไร ถ้าไม่ได้หลับมาก่อน แล้วมาดูหนังเรื่องนี้ อาจมีได้ฝันดี ก่อนที่ตัวละครในเรื่องจะไปจับความฝันมาให้คุณ แต่กระนั้นช่วงท้ายก็เชื่อว่าต้องมีฉากที่ทำให้คนสนุกกันได้ทั้งโรงแน่นอน
2. หนังประเด็นเบา
อาจเน้นเอาใจกลุ่มผู้ชมวัยเด็กเสียมากกว่า ทำให้บางครั้ง อะไรๆในหนังอาจดูง่ายๆเกินไปสักนิด แต่ถ้ามองในแง่ดี มันก็คือหนังที่มาจากวรรณกรรมเยาวชน ความเป็นแฟนตาซีในหนังจึงค่อนข้างสูงกว่าความสมจริงแน่นอน
เหมือนกับที่เราเคยเห็นฟิลล์นี้จาก Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งเป็นผลงานของผู้เขียนเดียวกัน
3. นี่ไม่ใช่งานระดับท๊อปฟอร์มของสปีลเบิร์ก
อันนี้ต้องยอมรับจริงๆว่าการกำกับรอบนี้ของสปีลเบิร์ก แม้ว่าผลงานจะมีบางฉากที่ทำให้เราสามารถขนลุกได้บ้าง
แต่ในภาพรวมแล้ว งานนี้ดูเป็นงานที่ทำเอาใจดิสนี่ย์และเคารพต้นฉบับงานเขียนของโรอัล ดาห์ลมากกว่า
ตัวหนังเองด้วยความที่มันเรื่อยๆ จึงทำให้เรายังรู้สึกว่ายังไปไม่สุดทาง ถ้าเทียบกับผลงานอื่นๆของแก
4. หนังโลกสวย ใครโลกไม่สวยอาจไม่ชอบ
นี่เป็นหนังแฟนตาซีที่มองโลกในแง่ดีมากอีกเรื่องเลยทีเดียว สปีลเบิร์กได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กให้กับหนังเรื่องนี้
ได้เต็มเปี่ยม แต่ในขณะเดียวกัน บางทีมันอาจดูโลกสวยไปสักนิดกับตัวเรื่อง แม้ว่าในตัวหนัง จะมีฉากที่ดูน่ากลัว ชวนหวั่นสะพรึงเข้ามาบ้าง แต่ถ้ามองในภาพรวม เราก็ยังรู้สึกว่า มันค่อนข้างใสมากอยู่ในทีเดียว เอาเป็นว่า คิดว่านี่คือหนังสปีลเบิร์กฝั่งใสๆผนวกกับได้จิตวิญญาณโรอัล ดาห์ล + อารมณ์โคตรดิสนี่ย์ลงไป ถ้าไม่ติดอะไร คุณก็สนุกกับมันได้ไม่ยากแน่นอน ยังไงก็ยังเชื่อว่า “ความบริสุทธิ์” ของหนังเรื่องนี้ น่าจะมัดใจคนดูได้บ้างแหละ
5. บทหนังเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
ใครที่คาดหวังว่าจะเข้ามาดูหนังที่มีการใช้ชั้นเชิงของบท ตบไป ตบมา คงต้องผิดหวังแน่นอน
เพราะหนังเรื่องนี้ บทหนัง ค่อนข้างราบเรียบพอสมควร ไม่มีอะไรดูหนักไป ดราม่าเกิน
แต่ข้อดีของมันคือ เราจะได้เห็นมุขตลกสอดแทรกมาในหนังอยู่ตลอด
ทำให้แม้ตัวหนังจะเดินช้า บทราบเรียบ แต่ก็ยังดูได้เรื่อยๆ
จนไม่รู้สึกเบื่อเกินไป เกินกว่าที่จะดูต่อ
สรุปก็คือ นี่เป็นหนังเด็กที่ดูได้เพลินๆครับ
สปีลเบิร์กก็ยังคงหน้าที่ในการเป็นพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ดที่เสกตัวหนังสือเป็นภาพได้น่าอัศจรรย์ใจตามเคย
เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมากถึงขั้นเป็นท๊อปฟอร์มของผู้กำกับชั้นครูครับ
กระนั้นถามว่าน่าดูในโรงไหม ผมก็ยังอยากแนะนำทุกคนที่มีความเป็นเด็กในหัวใจ
ลองไปพิสูจน์กันด้วยตัวเอง
กลั้นหายใจ
ตีตั๋วไปชมสักครั้งด้วยตาตัวเองดูครับ
.
#MovieReview #BFGTH #ตอนที่8 #2016 #TheBFG
สุดท้าย ขออนุญาตฝากข้อความนี้ทิ้งไว้นิดนึงนะครับ
หนังที่เราหลงรัก อาจไม่จำเป็นต้องดี
และหนังที่ดี เราก็อาจไม่ได้หลงรัก
ไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองดีกว่าครับ ไม่ต้องเชื่อผม
แต่ถ้าอยากติดตามข่าวคราวเรื่องหนัง
สามารถติดตามสาระบันเทิงดีๆได้ต่อที่นี่ https://web.facebook.com/Napat.Tang.Fans
+ ตั้งค่า See First เพื่อจะได้ไม่พลาดกับข้อมูลข่าวสารดีๆนะครับ
ถ้าชอบเนื้อหากระทู้ อย่าลืม โหวต กันหน่อยนะคร้าบ ขอบคุณมากครับ