เลิกทำบ้านประชารัฐได้แล้ว
ตามที่มีข่าวว่า "คลังดื้อ 'บ้านประชารัฐ' ปล่อยกู้อืด! ต้นตอสร้างบ้านบนที่ตัวเอง" นั้นแสดงให้เห็นว่าเราควรเลิกนโยบายบ้านประชารัฐทื่ถือว่าผิดพลาดได้แล้ว รับความจริงแล้วไปต่อดีกว่า
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) แสดงความเห็นว่า การที่โครงการนี้มีเป้าหมายให้กู้รวม 40,000 ล้านบาท โดยธนาคารของรัฐ 2 แห่งคือธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน ทั้งนี้คาดหวังให้ปล่อยกู้ได้หมดภายใน 3-4 เดือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จนถึงขณะนี้ ปล่อยกู้แล้ว 7,735 ราย วงเงิน 7,700 ล้านบาท นี่จึงเป็นความล้มเหลวที่ไมได้กระตุ้นเศรษฐกิจใด ๆ เลย
ธนาคารทั้งสองให้ความเห็นว่า "ไม่ควรนำราคาที่ดินมานับรวมกับค่าก่อสร้าง เพราะโครงการนี้ กำหนดชัดว่า บ้านและที่ดินเมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 1.5 ล้านบาท แต่ประชาชนในต่างจังหวัดและหัวเมืองใหญ่ ที่เป็นลูกค้าของ ธอส.ต้องการปลูกบ้านบนที่ดินตนเอง ทำให้การยื่นเรื่องขอกู้เงินทำได้อย่างจำกัด เช่น ราคาที่ดินในต่างจังหวัดสำหรับที่อยู่อาศัย 800,000-1 ล้านบาท จึงเหลือวงเงินที่ยื่นกู้ได้อีกไม่เกิน 500,000 บาท รวมแล้วไม่เกิน 1.5 ล้านบาท แต่ค่าก่อสร้างบ้านปัจจุบันหลังละ 700,000-800,000บาท ทำให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ต้องการกู้เงิน ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ธอส.แก้ปัญหาโดยเสนอให้ลูกค้ากลุ่มนี้ใช้บริการสินเชื่อตามปกติของธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยแพงกว่าเล็กน้อย”
แต่ ดร.โสภณ พรโชคชัย เห็นว่า
1. ในกรณีที่ลูกค้ากู้ไปปลูกบ้านเอง แสดงว่าไม่ได้มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง เพียงแต่จะขยายครอบครัวเลยจะสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองใหม่ ไม่มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือ
2. โครงการบ้านประชารัฐก็ไม่ได้เอื้อดอกเบี้ยต่ำกว่านัก ดังนั้นคนจึงไปกู้ตามปกติ ซึ่งก็ไม่เสียดอกเบี้ยมากอยู่แล้ว แสดงว่าในความเป็นจริง ประชาชนไม่ได้มีปัญหาว่าบ้านแพง ซื้อไม่ไหวแต่อย่างใด
3. แม้ว่าทางราชการให้ตัดค่าที่ดินออกไปจากการกู้เพื่อสร้างบ้านใหม่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการช่วยผู้มีบ้านหลังแรก ประชาชนเหล่านี้คงมีบ้านแล้ว แต่จะสร้างเพิ่ม
4. การส่งเสริมให้คนกู้ไปต่อเติมหรือสร้างบ้านใหม่ อาจมีการฉ้อฉลเกิดขึ้นโดยกู้เงินเกินวงเงินก่อสร้างจริง และนำเงินไปใช้ในทางอื่น ไม่ได้มีความจำเป็นต้องปล่อยกู้สร้างบ้านเลย ในปัจจุบันการสร้างบ้านเองก็ไม่ได้เป็นที่นิยม
ดร.โสภณ เคยเสนอหนทางง่าย ๆ อย่างหนึ่งก็คือการส่งเสริมการซื้อบ้านมือสองซึ่งเป็นบ้านที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียต้นทุนในการผลิตใหม่ (bit.ly/1S9YmDN) โดยประกาศให้ผู้ที่มีบ้านที่จะขายในราคาถูก ที่อาจเป็นทั้งผู้ประกอบการที่มีหน่วยขายเหลืออยู่น้อย ไม่มีงบประมาณในการโฆษณา หรือประชาชนทั่วไปผู้มีบ้านหรือห้องชุดเป็นของตนเองในราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท เพื่อให้โอกาสคนซื้อบ้านได้ซื้อบ้านในราคาถูก และคนขายบ้านได้เงินสดไปหมุนเวียนโดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินหรือไม่ต้องไปขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล
ทั้งนี้ให้ผู้สนใจขายบ้านลงทะเบียนไว้กับกรมบังคับคดี การเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บสก. หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยต้องเสียค่าธรรมเนียมในการว่าจ้างบริษัทประเมินที่เป็นกลางไปประเมินหน่วยละประมาณ 3,000 บาท เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจกับผู้ซื้อบ้านว่า จะได้บ้านที่มีราคาที่เป็นธรรม และเพื่อป้องกันการทุจริต ก็ให้บริษัทประเมินทำประกันไว้ว่า หากประเมินผิดไปจากความเป็นจริงเกิน 10% ต้องเสียค่าปรับ 20 เท่าของค่าจ้าง
แล้วให้ใช้หอประชุมกองทัพบก ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือสถานที่อื่นใดจัดการขายบ้านเหล่านี้ โดยให้ผู้จะขายรายย่อยตั้งโต๊ะขายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือให้บริษัทพัฒนาที่ดิน บสก. สถาบันการเงินที่มีทรัพย์สินจะขายจัดบูธได้โดยเสียค่าใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนผู้ขายบ้านรายย่อย หรือให้บริษัทพัฒนาที่ดินที่มีสินค้าถูกเหล่านี้ขายมาขายกับผู้สนใจซื้อโดยตรง
ให้ผู้ขายบ้านตั้งราคาขายตามราคาที่ประเมินได้ ใครมาก่อนได้ไปก่อน
โดยผู้จะซื้อแต่ละรายต้องวางเงินจองไว้ 50,000 บาท โดยสถาบันการเงินที่เป็นกลาง เป็นผู้เก็บรักษาเงินดังกล่าว หากตกลงกันแล้วแต่ผู้ซื้อกลับ 'เบี้ยว' ให้ยกเงินนี้ให้กับผู้ขาย ทั้งนี้ในการซื้อขายนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการซื้อขายเฉพาะบ้านมือหนึ่งบ้านหลังแรกเท่านั้น เพราะวัตถุประสงค์หลักคือการกระตุ้นให้มีการซื้อบ้านเหล่านี้ได้โดยง่ายซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจเป็นสำคัญ และในกรณีที่ยังมีหน่วยขายเหลือ ให้ตกลงกับเจ้าของบ้านเพื่อลดราคาเหลือ 80% แล้วนำออกมาประมูลเพื่อส่งเสริมการขายในอีก 1 เดือนให้หลัง
อย่ามัวส่งเสริมให้สร้างบ้านใหม่ ซื้อบ้านใหม่ ยังมีบ้านสร้างเสร็จแต่ไม่มีคนอยู่มากมาย ที่ไม่ควรทิ้งให้เป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"



