ทำเลต้องห้าม ที่ไม่ควรลงทุนอสังหาฯ
ทำเลดีมีชัยแน่นอน
เมื่อสรุปได้ว่าที่ดินมีมูลค่าสูง คงทนและสามารถแบ่งซอยครอบครองได้เป็นแปลง ๆ แล้ว ก็ต้องมาพิจารณาต่อว่า แล้วแปลงไหนมีมูลค่ามากกว่ากัน ในทางการค้านั้น แปลงที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีกว่าจะมีมูลค่ามากกว่า
ทำเลจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และถ้าใครยึดครองทำเลที่ดีได้ ก็ยากที่คนอื่นจะหาทำเลที่มีศักยภาพที่ใกล้เคียงกันมาทดแทน ดังนั้นที่ดินในทำเลอสังหาฯดีย่อมมีมูลค่าสูงกว่าที่ดินทั่วไป
ตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น ตึกแถวที่ตั้งอยู่หัวมุมถนนจะมีมูลค่าสูงกว่าตึกแถวคูหาอื่น ๆ ถึงประมาณ 15% และถ้าคิดเฉพาะส่วนที่ดินอาจจะสูงถึง 30% ทั้งนี้เพราะสามารถค้าขายได้ดีกว่า ด้วยมีทางเข้าออกและมุมมองที่กว้างขวางกว่า (อย่างไรก็ตามก็อาจมีข้อยกเว้นเช่นมีการสร้างสะพานข้าม/อุโมงค์ลอดทางแยกก็ อาจทำให้มูลค่าตึกแถวตกต่ำลงได้)
ในฮ่องกง นักพัฒนาที่ดินที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ยึดถือสูตรสำเร็จเรื่องทำเลข้างต้นนี้ และประสบความสำเร็จในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ความรู้เรื่องทำเลจึงเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน ไม่อาจลบล้างได้
การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปรียบเหมือนการค้าขายทั่วไปที่ต้องอาศัยทำเลที่ตั้ง หากมีทำเลอสังหาฯที่ดีถือว่ามีความสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง การซื้อบ้านและที่ดินก็เช่นเดียวกันนอกจากมีทำเลที่ดีแล้ว ทำเลที่ถือกันว่าอัปมงคลก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน
ทำเลต้องห้าม ที่ไม่ควรลงทุนอสังหาฯ
1.ทำเลอสังหาฯ ,บ้านที่อยู่บนทางสามแพร่ง ตามความเชื่อของคนโบราณทั้งไทยและจีน ถือเป็นทำเลอันตรายและอัปมงคลที่นักลงทุนอสังหาฯควรหลีกเลี่ยง
2.ทำเลอยู่ตรงข้ามกับวัดศาลเจ้าและสถานที่ไม่เป็นมงคล ทำเลอสังหาฯ เหล่านี้ไม่เป็นที่นิยมเพราะเชื่อกันว่า การอยู่ใกล้วัดและศาลเจ้าทำมาค้าขายไม่รุ่งเรือง เนื่องจากวัดมีงานศพอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกับศาลเจ้าที่มักมีเสียงดังอึกทึก หรือทำเลที่อยู่ติดกับสถานที่ไม่เป็นมงคล เช่นป่าช้า หรือสุสาน ซึ่งมีปัญหาด้านวิวทิวทัศน์ ทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่ น่ากลัว
3.อยู่ติดกับโรงแรมม่านรูดและสถานอาบอบนวด เชื่อกันว่าเป็นทำเลอโคจร ทำให้ผู้อยู่อาศัยขาดความสงบสุข
4.ที่ดินที่ถูกน้ำเซอะ ตลิ่งชัน ที่ดินติดน้ำลักษณะนี้มีโอกาสพังทลายและสูญหายได้ นอกจากนั้นอาจมีผลทำให้ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้ประโยชน์บนที่ดินมีอันตรายได้
5.ที่ดินที่มีรูปร่างผิดปกติและมีลักษณะไม่ดี เช่น เป็นที่สามเหลี่ยมชายธง ที่ดินที่มีด้านหน้าแคบและมีส่วนลึกมาก หรือที่ดินที่มีรูปทรงผิดปกติในรูปลักษณ์ต่างๆ
6.ใกล้สิ่งรบกวนซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง เช่น ทางขึ้นลงของเครื่องบิน หรือทางรถไฟ เพราะการศึกษาพบว่าเสียงดังมากๆและดังเป็นประจำจะรบกวนความสามารถในการคิดของคนเรา และยังรบกวนการพักผ่อนนอนหลับซึ่งมีผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
7.ที่ดินที่เป็นบ่อเลี้ยงปลาเก่า เป็นทำเลที่ถมแล้วไม่แน่นดินพรุ ทำให้มีปัญหาดินขาดความมั่นคงได้ในอนาคต
8.ทำเลอยู่ในแนวเวนคืน ทำเลในลักษณะนี้มีโอกาสถูกทางราชการมาเวนคืนหรือยึดคืนได้ตลอด
9.บ้านที่มีทำเลอยู่ติดกับโรงพยาบาล ทำเลลักษณะนี้อยู่แล้วจะขาดความสุขกายสบายใจ เนื่องจากจะพบเห็นผู้ป่วยหรือคนเจ็บเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอดเวลา
10.ทำเลที่มีบ้านประกาศขายติดกันหลายหลัง ถือเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดีว่าทำเลบริเวณนั้นไม่น่าอยู่ หรือมีปัญหาอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น เคยเกิดเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน
11.บ้านที่อยู่ติดหรืออยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านที่ไม่ควรอยู่ใกล้ เช่น ร้านขายโลงศพ ร้านซ่อมรถ ร้านขายสัตว์ปีก ร้านทำประตูเหล็กดัดและมุ้งลวด เพราะทำเลเหล่านี้มักมีปัญหาเรื่องมลภาวะด้านต่างๆตามมา
การเลือกซื้อบ้านและที่ดินไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุน ควรเลือกทำเลอสังหาฯที่มีข้อเสียน้อยที่สุดและพยายามหลีกเลี่ยงทำเลต้องห้ามทั้งหมด ดังนั้นในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้านและที่ดินจึงต้องใช้เวลาและพิจารณาทุกรายละเอียดอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด
ที่มา: http://www.trebs.ac.th/Thai/news/index.php?nid=64
Tag : ซื้อขายที่, ลงทุนอสังหาฯ, ทำเลอสังหาฯ