อย่าให้ใครว่าไทย มักง่าย : ไทยเท
เหตุแห่งน้ำ..รอระบาย เพราะไทยเท ?? ....ถึงเวลาแล้ว หรือไม่? ที่คนไทยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม.. "ไม่" ทิ้งขยะลงแม่น้ำ ลำคลอง..เพราะนั่นคือสาเหตุหนึ่งของน้ำระบายไม่ทันใจ..ต้องร่วมมือกัน ไม่กล่าวโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง..
จึงขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ดังนี้
“...ถ้าอยากจะพูดก็พูดถึงเรื่องน้ำท่วมกันเสียก่อน เป็นเรื่องที่หมู่นี้ก็เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่ง คนสนใจอันดับหนึ่ง
ถ้าดูไปวิธีที่จะขจัดน้ำท่วมก็มีหลายวิธี และโดยมากก็ไม่ค่อยคิดกัน วิธีอย่างหนึ่งก็คือสูบน้ำ สูบน้ำอย่างไร ถ้าไม่ระวังก็เป็นการสูบน้ำใส่ให้คนอื่น คนอื่นก็ได้รับน้ำก็ทำให้เดือดร้อนต่อไป
คนที่ได้รับน้ำนั้นถ้ามีความสามารถที่จะสูบก็สูบต่อ หมายความว่า สูบต่อไปวนไปวนมา น้ำนั้นก็จะกลับมาที่เดิม เป็นอันว่าความเดือดร้อนนั้น ได้แจกจ่ายออกไปให้ทั่วถึง แล้วก็ไม่มีระบบไม่มีระเบียบ
..ทำให้เสียกำลังในทางที่จะต้องใช้สูบน้ำ ถ้าใช้ไฟฟ้าก็เสียไฟฟ้า ถ้าใช้เชื้อเพลิงอย่างอื่นก็เสียเชื้อเพลิง ก็เป็นสิ่งที่สิ้นเปลือง
และทำให้เกิดเสียอีกอย่างก็คือเสียสุขภาพจิต เพราะถ้าหากว่าเราสูบน้ำออกไปทำให้ที่เราแห้ง สุขภาพจิตก็อาจจะดีขึ้น แต่ไม่ทันไรน้ำก็กลับมาอีก ทำให้เสื่อมสุขภาพจิต
ฉะนั้น การทำนี้ก็แสดงให้ เห็นว่า ความจริงก็ ขาดสามัคคีธรรม นั่นเอง
แต่จะทำยังไงสำหรับให้เกิดสามัคคีธรรม ทำด้วยวิธีที่เหมาะสม ก็ต้องวางแผนให้ดีขึ้น แล้วทุกคนก็จะต้องช่วยคิดให้โครงการเหล่านั้นได้ผล
ซึ่งเวลาไปดูตามภูมิประเทศ ก็ได้เห็นว่า มีวิธีทำบางประการ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติ...”
บางส่วนจากพระราชดำรัสในโอกาสที่คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2526 ...ที่มา : ข้อมูลจาก สำนักราชเลขาธิการ
...............
อีกทั้งขออัญเชิญพระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทาน ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักสวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551
"...หากคนไทยไม่รู้ ก็ไม่สามารถปกป้องทรัพยากรสำคัญ รักษาแม่น้ำลำคลองความสะอาดต่างๆ
ทำให้ประชาชนเข้าใจ ว่า การทิ้งอะไรลงไปทำลายน้ำสะอาด โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ก็ถือเป็นผลร้ายต่อบ้านเมือง หวังว่ารัฐบาลจะรณรงค์ ให้ประชาชนรู้คุณค่าของน้ำ ถนอมน้ำสะอาด ปลูกฝังลูกหลานให้ใช้น้ำอย่างมีวินัย..."