ศีลเป็นเหตุแห่งความร่ำรวยได้จริงหรือ เมตตาธรรมโดย พระราชพรหมญาณ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ท่านได้สอนเอาไว้เรื่องการพยายามรักษาศีลให้ต่อเนื่องยาวนานก็เป็นเหตุให้มั่งมีร่ำรวยขึ้นได้คนที่รักษาไม่ได้แล้วตัดพ้อว่ารักษาศีลไม่ได้ผลอะไรนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
“...โธ่เอ๋ย ซวยมาแล้วกี่ปี ศีลขาดมากี่ปีมันคุ้มกันหรือคือว่ารักษาศีลจริงๆ แค่ศีล 5 น่ะ ค่าเหล้าไม่เสีย ค่าเจ้าชู้ไม่เสีย ค่าม่านรูดไม่เสีย มีคำถามต่อว่าพระท่านอยู่วัดไม่น่าจะรู้อะไรเรื่องนี้ จริงๆแล้วพระน่ะท่านไม่รู้ แต่ฉันรู้มีคนไปพูดให้ฟังเลยไม่ขี้ร้อนไม่ต้องไปอาบน้ำตามห้อง
เรื่องที่ไม่เสียมีเยอะแยะทรัพย์ก็ดีขึ้น ไอ้ใจร้ายไปฆ่าเขาไปตีเขาทะเลาะกับเขาก็ไม่มี แม้แต่ติดคุกติดตะราง ไม่ต้องเสียสตางค์นี่ถ้ารักษามาตั้งแต่เกิดนะ ป่านนี้รวยนานแล้ว แกรักษามากี่วันนี่แล้วขาดทุนมากี่ปี”
ที่สำคัญก็คือการรักษาศีลให้ดีนั้นมีอานิสงส์ใหญ่มากดังพระบาลีที่ว่า
“......สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย ฯ...” ซึ่งแปลความได้ว่า
1. ศีลเป็นเหตุให้ไปสู่สุคติ (สีเลนะ สุคติง ยันติ)
2. ศีลเป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ (สีเลนะ โภคะสัมปะทา)
3. ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน (สีเลนะ นิพพุติง ยันติ)
ซึ่งอานิสงส์สองอย่างแรกเรียกได้ว่าเป็นอานิสงส์ระดับ “สวรรค์สมบัติ” และ อานิสงส์อย่างที่สุดท้ายคือเป็น “นิพพานสมบัติ” ซึ่งเป็นอานิสงส์สูงสุดในพระพุทธศาสนา
แต่ผลแห่งการถือศีลนั้นจะให้ผลไปได้อานิสงส์แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ ระดับของศีลที่ถือรักษาและเป็นไปตามกฎแห่งการสะสมคือ ถือให้สม่ำเสมอ ถือให้มากพอและถือให้นานพอจึงจะเป็นพื้นฐานกำลังอานิสงส์ให้เราได้รับตามความมุ่งหมายแห่งศีลนั้น
จากหนังสือเรื่อง ปาฏิหาริย์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ไขปัญหาธรรม และกรรมจากพระอริยเจ้า โดย ธ.ธรรมรักษ์