สุดยอด! สถานที่สวยงามจากทั่วโลก ที่คุณอาจมองข้ามไป
ในขณะที่สงกรานต์กำลังใกล้เข้ามา และวันหยุดที่รัฐบาลประกาศเพิ่มอีกหลายวัน หลายๆคนคงกำลังนั่งลิสต์รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศไว้ในใจเป็นแน่ ตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศก็ถูกแสนถูก สายการบินก็ต่างแย่งกันลดราคา วันนี้ Jetradar เว็บไซต์และแอปช่วยค้นหา เปรียบเทียบราคา เพื่อช่วยคุณจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก ขอเสนอสถานที่เที่ยวแนวใหม่ที่คัดสรรมาให้สำหรับคนขี้เบื่อที่ไม่อยากจะไปเบียดเสียดกับผู้คนมหาศาลตามสถานที่แลนด์มาร์กต่างๆ แต่เปลี่ยนมาเที่ยวสถานที่สวยงามอื่นๆที่ทำให้คุณประทับใจไม่แพ้กันอย่างแน่นอน
ปราสาทส่วนตัวของบุรุษไปรษณีย์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง นามว่า Ferdinand Cheval โดยเขาใช้เวลา 33 ปี ในการรวบรวมเก็บก้อนหินขนาดต่างๆเพื่อนำกลับมาที่บ้านแล้วก่อขึ้นเป็นรูปร่าง หลายๆคนมองว่าเขาเพี้ยน! เพราะถึงขนาดที่ว่า Ferdinand เปลี่ยนมาใช้ตะกร้าขนหินแทนการแบกกลับบ้านทีละก้อน จนสุดท้ายต้องใช้รถเข็นตักดินลำเลียงหินกลับบ้านเป็นตันๆ บางวันถึงขนาดจุดน้ำมันตะเกียงเล็กๆมาก่อสร้างถึงดึกๆดื่นๆ สถาปัตยกรรมแปลกตาอย่างที่เห็นนี้ผสมผสานระหว่างความเชื่อฮินดูกับศาสนาคริสต์
2. Habitat 67 (มอนทรีออล, ประเทศแคนาดา)
Habitat 67 คือ ที่พักอาศัยธรรมดาๆในนคร Montreal มลรัฐ Quebec ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงานนิทรรศการระดับโลก World Expo ในปี 1967 สร้างเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ดูไร้ระเบียบชัดเจน แต่มองไกลๆกลับมีแบบแผน คงความเป็นคอนเซปต์ของการรักษาพื้นที่ส่วนตัวแต่อยู่รวมกันได้อย่างกลมกลืน เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของคอนโดมีเนียมที่ล้ำสมัยมาจากยุค 70 เลยทีเดียว
3. Cubic Houses (ร็อตเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์)
สถาปนิกที่สร้างบ้านทรงประหลาดนี้ ต้องการถ่ายทอดความเป็นหมู่บ้านเล็กๆตามธรรมชาติที่ผุดขึ้นในตัวเมืองใหญ่ ผ่านตัวตึกทรงลูกเต๋าตีลังกากลับหัวหลับหาง เหมือนเป็นต้นไม้ ใบไม้ ที่แทรกซึมอยู่ในเมืองที่ไร้ป่า แต่อย่าดูถูกตึกประหลาดนี้กันไปก่อนเพราะข้างในมีพื้นที่ใช้สอยถึง 100 ตร.ม. และมีถึง 3 ชั้นด้วยกัน ที่นี่ดังพอสมควรในหมู่นักท่องเที่ยวแนวอินดี้ๆ จนปัจจุบันบ้านส่วนหนึ่งถูกดัดแปลงกลายเป็นโฮสเทลสำหรับนักเดินทางไปเรียบร้อยแล้ว
4. 30 St Mary AXE (ลอนดอน, ประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษ)
ใครหลายคนอาจะเคยเห็นตึกทรงปลอกกระสุนทำจากกระจกผ่านจากหนังดังๆหลายเรื่อง โดยเฉพาะ Basic Instinct ภาค 2 เจ้าตึก 30 St Mary Axe ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของโลกอย่าง Norman Foster ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานการสร้างสถานที่สวยงามก้องโลกมากมายในที่อื่นๆ อาทิ ตึก HSBC ในฮ่องกง หรือการบูรณะโฉมใหม่ของอาคารรัฐสภาเยอรมันอย่าง Reichstag ฯลฯ โดยมีสถาปัตยกรรมแบบ neo-futuristic อยู่ใจกลางแหล่งการเงินของมหานครลอนดอน สูง 180 เมตร มีสำนักงานให้เช่าอยู่ 41 ชั้น เดิมทีพื้นที่ตรงนี้ถูกกลุ่มกบฏ IRA ของไอร์แลนด์ระเบิดจนเสียหายในปี 1992 ก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะเปิดประมูลให้สร้างอาคารพาณิชย์ใหม่อย่างปัจจุบัน
5. Fuji television building (โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น)
Fuji television building คือ ตึกใหม่สำหรับถ่ายรายการและสำนักงานบริหารของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังช่องหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของมัน คือ รูปทรงทันสมัย และเก๋ไก๋ด้วยการออกแบบให้มีชั้นสำหรับชมวิวอยู่ในลูกบอลทรงกลมที่บาลานซ์น้ำหนักระหว่างอาคารทั้ง 2 อาคารไว้ด้วยกันเพื่อรองรับปัญหาการเกิดแผ่นดินไหวได้ด้วย ตึกตั้งอยู่ในเขตท่องเที่ยวโอไดบะและค้นหาได้ไม่ยากเพราะมีรถโมโนเรลวิ่งผ่านหน้าสถานี ถึงจะติดกับพื้นที่สาธารณะที่จะต้องมีเสียงดังเป็นธรรมดาก็ตามแต่ภายในใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการเก็บเสียงไม่ให้มีปัญหาในการอัดเสียงรายการโทรทัศน์แต่อย่างใด
6. The Waldspirale (ดาร์มสตั๊ดท์, ประเทศเยอรมนี)
The Waldspirale แปลว่า The Forest Spiral สร้างโดย Friedensreich Hundertwasser สถานปนิกชื่อดังชาวออสเตรีย ผู้ที่ต้องการทำให้บ้านกลายเป็นเหมือนป่าย่อมๆที่แทรกอยู่ในตัวเมืองที่น่าอึดอัด จุดเด่นของตัวอาคารคือการทำเป็นทรงสูงเหมือนกับหอคอยบาบิโลนและมีหลังคาที่เป็นสวนลอย ปลูกไม้เลื้อยให้เลื้อยยาวลงมาจนเหมือนบ้านต้นไม้ตามชื่ออาคาร จุดเด่นอีกประการคือการตกแต่งภายนอกให้มีเส้นสะเปะสะปะ ไม่ใช้เส้นตรง และทาสีฉูดฉาดเพื่อทำให้ pattern ตรงๆเหลี่ยมๆที่น่าเบื่อของหน้าต่างแต่ละบานเปลี่ยนไปกลายเป็นสีสันที่แปลกตา
7. Dancing Building (ปราก, สาธารณรัฐเช็ค)
The Dancing Building ถูกดีไซน์ในปี 1992 และสร้างเสร็จในปี 1996 ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทประกันชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทำเป็นรูปทรงแนว modern ทรงกระจก ตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารทางประวัติศาสตร์ของกรุงปรากที่เป็นสไตล์ บาร็อค โกธิค ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางของ Dancing Building ของกรุงปราก ชั้นบนสุดของอาคารปัจจุบันเป็นภัตตาคารชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองนี้ มีวิวสวยงามเห็นแม่น้ำ Rašín และปราสาทปราก คอนเซ็ปต์ของอาคารเปรียบเสมือนการใช้ หยิน-หยาง มาผสมกันโดยรวมอาคารที่เป็นสองส่วนเข้าด้วยกัน ตึกหนึ่งตรงอยู่กับที่ อีกตึกหนึ่งบิดพริ้วเหมือนกำลังเคลื่อนไหวเข้าหา จนคล้ายกับลักษณะของนักเต้นระบำ ชาย-หญิง นี่เองจึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกตึกดังกล่าว
8. Lotus Temple (เดลี, ประเทศอินเดีย)
อาคาร Lotus temple เป็นศาสนสถานของลัทธิ Bahá’í ถูกสร้างขึ้นในปี 1986 โดยทำให้ดูคล้ายดอกไม้กำลังจะผลิบาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติและความเป็นหนึ่งอันเป็นสิ่งที่ลัทธินี้พร่ำสอน ที่นี่เปิดต้อนรับผู้คนจากทุกศาสนา แต่ห้ามเล่นเครื่องดนตรีใดๆภายในเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนจากศาสนาอื่น หลังจากที่ Lotus Temple เปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2001 ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่นี่กว่า 70 ล้านคนแล้ว ซึ่งคิดแล้วมากกว่าทัชมาฮอาลหรือหอไอเฟลเลยทีเดียว
ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน จะเป็นญี่ปุ่น หรือเยอรมัน ฝรั่งเศส ที่สำคัญเราคนไทยต้องช่วยกันทำตัวเป็นแขกที่ดี ไม่ส่งเสียงโวยวายให้เจ้าบ้านเขาประทับใจกับแขกจากเมืองไทยและยินดีต้อนรับพวกเราคนไทยกลับไปเยือนอีกครั้งจะดีกว่า เดินทางไปอย่างน่าประทับใจ และกลับเมืองไทยอย่างเต็มภาคภูมิ