เที่ยวพาโร เที่ยวภูฏาน
เมืองพาโรถือเป็นเป็น 1 ในเมืองที่สำคัญของภูฏานในปัจจุบันเนื่องจากเป็นเหมือนประตู เข้า ออกทางอากาศของประเทศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติพาโร หรือ Paro international Airport นอกจากจะเปรียบเสมือนประตูทางอากาศแล้ว พาโรยัง ซอง ซึ่งมีความเป็นสวยงามถึงขนาดได้อยู่ในฉากหนังระดับ Hollywood มาแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของวัด ตั๊กซัง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในภูฏาน และในบล็อคนี้ผมขออนุญาตแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว สำคัญๆของเมืองพาโร ครับ ตามมาครับ
วัดตั๊กซัง หรือ วัดถ้ำเสือ (Takshang Monastery)
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องด้วย ความศรัทธาต่อท่านคุรุรินโปเช(Guru Rinpoche) ผู้ซึ่งชาวภูฏานนับถือเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 ตามตำนานกล่าวว่า ท่านได้ขี่นางเสือ และเหาะด้วยญานบารมีมาจากทางภาคตะวันออกของประเทศ เพื่อมาบำเพ็ญญาณในถ้ำของบริเวณวัด จากนั้นถ้ำแห่งนี้กลายเป็นสถานที่สำหรับ บำเพ็ญเพียรของคณาจารย์ชื่อดังอีกหลายต่อหลายรูป วัดนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 800 เมตรจากพื้น ไม่มีไฟฟ้าใช้ การเดินขึ้นสู่วัดในปัจจุบันเดินขึ้นไปประมาณ 3 ชั่วโมงโดยใน 2 ชั่วโมงแรกจะมีร้านอาหาร Tak shang café เป็นจุดให้ท่านนั่งพักและรับประทานอาหาร ดื่มชา กาแฟ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงตัววัด เมื่อถึงตัววัดท่านจะได้สัมผัสความงดงามตระการตาของวัดซึ่งไม่เหมือนที่ใดในโลกนี้ การขึ้นไปบนวัดตั๊กซังนั้นในครึ่งแรกของการเดินทาง ขาขึ้นถ้าหากท่านอยากเก็บพลังงานไว้ท่านสามารถขี่ม้าซึ่งมีให้บริการที่ตีนเขา แต่สำหรับขาลงไม่มีม้าให้บริการต้องเดินลงอย่างเดียว สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมหากจะเดินขึ้นไปยังวัดตั๊กซังก็คือน้ำดื่ม การเดินทางสู่วัดตั๊กซังก็ต้องพึ่งความพยายามไม่น้อย ต้องมีศรัทธาอันแรงกล้าและความแข็งแกร่งของแรงขาทั้งสองข้างในการเดินขึ้นเขาที่สูงชัน ระหว่างทางจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของป่าสนและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของธรรมชาติที่มีภูเขาสูงต่ำสลับซับซ้อนอยู่ในระยะสายตา มีพืชนานาพันธุ์ สายน้ำ ต้นสน มอส และท่านจะได้สัมผัสวิวของเมืองพาโรที่สวยงามได้อย่างเต็มตา ชาวภูฏานมีความเชื่ออีกว่า หากใครได้เดินทางไปกราบไหว้ที่วัดแห่งนี้ครบ 3 ครั้ง คิดหวังสิ่งใดก็จะสมหวังดังใจปรารถนา ภายในวัดตั๊กซังประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรูปสลักขององค์เทพที่ชาวภูฏานให้ความนับถือ รวมถึงงานประติมากรรมและจิตรกรรมหลายชิ้น วัดตั๊กซัง สำหรับการมาวัดตั๊กซังถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเที่ยวประเทศภูฏาน
พาโรซอง หรือ พาโรรินปุงซอง (Paro Dzong)
พาโรซองนับเป็นสถานที่ที่ทุกท่านไม่ควรพลาด เนื่องจากเป็นที่กล่าวขานถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมป้อมปราการในแบบภูฏาน เดมทีสถานที่แห่งนี้ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าโบราณ (ชนเผ่าฮุนเกล) ต่อมาหัวหน้าเผ่า ได้ยกป้อมแห่งนี้ให้กับ ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล(Shabdrung ngawang namgyal) ต่อมาท่านซับดรุงงาวัง นัมเกล ได้ทำการต่อเติมให้ใหญ่โตขึ้นจนเสร็จสมบูรณ์ ในปีประมาณ ปี ค.ศ.1646 พาโรซองตระหง่านและเป็นซึ่งสัญลักษณ์แห่งอำนาจสืบมา ถือได้ว่าซองแห่งพาโรเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่และล้ำค่าของประเทศภูฏาน ที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Little Buddha อีกด้วย ปัจจุบันพาโรซองเป็นสถานที่สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโร และวัด โดยมีพระสงฆ์จำวัดมากกว่า 200 รูป จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือ หออุตเสะสูง 5 ชั้น มีหลังคาสีเหลืองซ้อนกันสามระดับ ภายในหอเป็นที่เก็บรักษาภาพเขียนทังก้าโบราณ และโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย และเพราะหอตั้งอยู่ ณ จุดกึ่งกลาง ทำให้เป็นส่วนที่ดูสง่างามที่สุดของป้อมแห่งนี้ ภายในพาโรซองยังมีลานกว้าง เพื่อใช้สำหรับเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา โดยเฉพาะงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่คือ พาโรเทชู ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองพาโร หรือตาซอง (Ta Dzong)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บสะสมงานศิลปะอันล้ำค่ามากมาย ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทังก้า ประติมากรรมภูฏาน เครื่องภาชนะทองเหลือง ทองแดง ไม้ เครื่องแต่งกายประจำชาติ ดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงาม ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการสำหรับตรวจดูความปลอดภัยให้กับ พาโรซอง และใน ปี. ค.ศ.1968 พระราชาธิบดี จิ๊กมี่ ซิงเย วังชุก (Jigme Singye Wangchuck) รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชบัญชาให้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเพื่อคงไว้ซึ่งองค์ความรู้ของชนชาติ แต่โชคร้ายเกิดเหตุแผ่นดินไหวจึงทำให้ต้องสร้างอาคารขึ้นใหม่เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แทน ภายในพิพิธภัณฑ์ท่านต้องเดินวนขวาเพื่อเข้าชม ห้องต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นของล้ำค้าแห่งประวัติศาสตร์ชนชาติภูฏาน
วัดคิชู ลาคัง (Kyichu Lhakhang)
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาพาโร ไม่ไกลจากวัด ตั๊กซัง ถือได้ว่าเป็นวัดแห่งแรกของประเทศภูฏานเลยทีเดียว สร้างเมื่อประมาณ ค.ศ 659 โดยกษัตริย์ทิเบต มีชื่อว่า ซองเซ็น กัมโป(Srong tsan Gam-po) ภายในวัดมีพระศากยมุนีเป็นพระประธานในโบสถ์ ต่อมา สมเด็จพระราชชนนีของ พระราชาธิบดี จิ๊กมี่ ซิงเย วังชุก (Jigme Singye Wangchuck) ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อขยายวัด และทรงสร้างรูปปั้นของท่านคุรุรินโปเชสูง 5 เมตรไว้ที่วัดนี้ด้วย ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากอธิฐานอะไรแล้วเอาหน้าพากไปสัมผัสกับเท้าของท่าน หากเป็นพรดีก็จำสำเร็จอย่างไม่ยากเย็น นอกจากนั้นพระประธานในวัดคิชู คือพระโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวร ในท่ายืน มี 11 เศียร สองมือตรงกลางอยู่ในท่าพนมมือยังเป็นที่นิยมในการเดินทางมากราบไหว้บูชาจาก คนภูฏานเอง หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติที่นับถือศาสนาพุทธ มหายาน ท่านสามารถเห็นรอยบุ๋มของการกราบนับครั้งไม่ถ้วน ต่อหน้ารูปบูชาของพระโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวร ซึ่งแสดงถึงความศรัทธาของชาวพุทธมหายานทั่วโลก
วัดตัมโช (Tamchoe Monastery)
วัดตัมโช อยู่ระหว่างเส้นทางจากพาโรไปทิมพู ตั้งอยู่บนฝั่งท่ามกลางทิวทัศน์ที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำปาโรชู(Paro Chu) กับแม่น้ำทิมพูชู(Thimphu Chu) (คำว่า Chu แปลว่า น้ำ) ท่านลามะทังทง เกลโป เป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นพร้อมสะพานเหล็กแห่งแรกของประเทศภูฏาน แต่สะพานถูกน้ำพัดทำลายลงในปี ค.ศ. 1969 ในปัจจุบันสะพานที่เห็นนั้นได้ใช้โซ่เหล็กสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 2005 ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นข้ามสะพานซึ่งรายล้อมด้วยธงมนตร์ในแบบภูฏาน หลากหลายสี