อาการจุกที่ท้องขณะวิ่งเกิดจากอะไร
อาการจุกที่ท้องขณะวิ่งเกิดจากอะไร
อาการปวดบริเวณท้องน้อยด้านข้าง หลังวิ่งไปได้สักระยะหรือที่มักเรียกกันว่าอาการจุกเสียดท้องนั้น เป็นอาการตะคริวซึ่งสามารถพบได้ในผู้ที่ออกกำลังแบบอื่นด้วย เช่น ขี่จักรยานและว่ายน้ำ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการที่พบได้มาก แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่
อย่างไรก็ดี มีทฤษฎีที่ให้เหตุผลที่เป็นไปได้ที่ว่า มันเกิดขึ้นเพราะ "กระบังลม"ซึ่งเป็นแผ่นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่อยู่ใต้ซี่โครงที่กั้นระหว่างช่องอกและช่องท้อง
โดยปกติ เมื่อเราหายใจเข้า กล้ามเนื้อกระบังลมจะหดตัว ในขณะเดียวกันปอดก็จะขยายตัว อากาศก็จะเข้าไปข้างใน ในทางตรงข้าม เมื่อเราหายใจออก กระบังลมก็จะคลายตัว ปอดของเราก็จะแฟบลง อากาศที่อยู่ในปอดก็จะถูกดันออกมาภายนอก
แต่เมื่อเวลาที่เราออกกำลังกาย เช่น เวลาที่เราวิ่ง เท้าของเราจะย่ำลงที่พื้นในเวลาเดียวกับที่เราหายใจออก เราจะหายใจเร็วและถี่ขึ้น กระบังลมต้องทำงานอย่างหนัก ทำให้มันเกิดอาการตึงและเกร็งหรือเป็นตะคริวได้
นอกจากนี้ ขณะที่เราวิ่งหรือเคลื่อนไหวในลักษณะขึ้นลงซ้ำๆอย่างแรง ยังได้ไปไปรบกวนอวัยวะที่อยู่ภายในรอบๆด้วย โดยทฤษฎีนึงได้อธิบายไว้ว่า เป็นเพราะเยื่อบุช่องท้องซึ่งเป็นเยื่อบางๆสองชั้นซึ่งช่วยห่อหุ้มผิวนอกของอวัยวะภายในที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารในช่องท้อง โดยเฉพาะกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กเกิดการระคายเคือง
ปกติแล้วระหว่างสองชั้นนี้จะมีของเหลวคั่นอยู่เพื่อให้อวัยวะเคลื่อนไหวไปมาได้และป้องกันให้มันเสียดสีกัน เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้เรารู้สึกเจ็บแปลบ แต่เมื่อเราทานอาหารมื้อหนักเข้าไป ก็ทำให้บริเวณหน้าท้องขยายตัว เมื่อเราวิ่ง อวัยวะภายในก็จะไปเสียดสีกับเนื้อเยื่อนั้นทำให้รู้สึกเจ็บหรือเสียดท้อง
อีกเหตุผลนึงที่ทำให้เป็นตะคริวก็คือ เลือดและออกซิเจนไม่เพียงพอ เพราะร่างกายได้นำไปใช้ในการย่อยอาหาร เราจึงไม่ควรออกกำลังกายหลังทานอิ่มใหม่ๆหรือหลังดื่มน้ำเยอะๆแต่ควรจะพักให้อาหารย่อยเสียก่อนสัก 1-2 ชั่วโมง
แต่ถ้าวิ่งแล้วจุกขึ้นมาให้หยุดวิ่งทันที ให้หายใจเข้าออกลึกๆ หรือกดบริเวณที่มีอาการจุก ก้มตัวช่วงเอวไปข้างหน้า