"ขันที" เป็นชายไม่เต็มตัว แล้วยังเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ด้วย

จากการศึกษาเรื่องราวหลายปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับขันทีของผม ทำให้ผมได้เรียนรู้หลายๆอย่าง โดยอาศัยทั้งเรื่องราวข้อมูล และความรู้สึก ทำให้รู้ว่าขันทีนั้น ไม่ได้เป็นเพียงจะเป็นชายไม่เต็มตัว แต่ยังเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ด้วย

ขันทีส่วนมากแล้วจะถูกตัดตั้งแต่เด็ก แต่มีบ้างที่ถูกตัดเมื่อโต (เช่น เว่ยจงเสียน) โดยเฉพาะสมัยโบราณที่มีการลงโทษด้วยวิธีนี้อยู่ จะมีขันทีจำนวนมากที่ตัดตอนโต สาเหตุหลัก 2 อย่างที่ต้องมีรับขันทีไป ก็คือ

1. หากเอาผู้ชายมี "ของ" เขามารับใช้ในวัง ด้วยความกำหนัดของพระสนม นางกำนัล จะไม่มีเจอผู้ชายนอกวังเลย (ฮ่องเต้เป็นผู้ชายคนเดียวที่เข้าวังได้โดยไม่ถูกตัด หากล่วงล้ำเข้ามา ต้องถูกตัดหัวอย่างเดียว) การที่ถูกกักแล้วมีผู้ชายเต็มตัวเข้ามา คิดเอา ขนาดพระสนมชั้นล่างยังสวยปานนางฟ้า สุดท้ายก็ลักลอบชู้เต็มวังไปหมด

ดังนั้นการตัดจะทำให้ขันทีทำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังไม่มีอารมณ์ด้วย แต่คงลืมไปว่าขันทีก็ยังมีกิเลสอยู่ สุดท้าย เมื่ออำนาจอยู่ในมือขันที เกือบทุกราชวงศ์ต้องย่อยยับ ขุนนางธรรมดายังพอทำให้ราชวงศ์เสื่อม แต่ถ้าขันทีมีเอี่ยว ฮ่องเต้ไม่เกิน 5 พระองค์ ราชวงศ์ล่มสลาย ท้ายสุดถึงขั้นหมดระบอบฮ่องเต้เลยทีเดียว หรือแม้แต่เกือบทำเสียเอกราชก็เคย

2. การที่ขันทีไม่สามารถมีลูกมีเมียได้จะทำให้ไม่เกิดระบบซ่องสุมกบฎภายในวัง อีกทั้งยังอยู่ตัวคนเดียว พ่อแม่พี่น้องก็พลัดพราก ต้องอยู่ในวัง และออกนอกเขตเมืองหลวงไม่ได้ด้วย รวมถึงการไม่มีบุตรสืบ ทำให้ไม่รู้ว่า หากขันทีจะล้มราชวงศ์ที่ตัวเองรับใช้อยู่ จะตั้งราชวงศ์ใหม่เพื่ออะไร (เจ้าเกา ขันทียุคราชวงศ์ฉินเกือบเป็นจักรพรรดิแล้ว แต่คงเพราะอะไรบ้างอย่าง ถึงทำให้เลิกคิด) สู้อยู่เกาะฮ่องเต้ จะทำให้ได้ลาภกับอำนาจที่ล้นฟ้าก็พอแล้ว

รากศัพท์ของขันที คำว่า ไท่เจี้ยน คำว่า ไท่ หมายถึง ความยิ่งใหญ่ เจี้ยน หมายถึง นักโทษ หรือ ผู้ดูแล แปลตามคำศัพท์คือ นักโทษที่ยิ่งใหญ่ (เนื่องจากการถูกตัดเดิมเป็นโทษอย่างหนึ่ง และขันทีมีที่มาจากการจับเชลยศึกมาตัด แต่ถูกยกเลิกในราชวงศ์สุย) หรือ ผู้ดูแลที่ยิ่งใหญ่ (เนื่องจากการดูแลหวงโฮ่ว,พระสนมและผู้หญิง,พระราชวงศ์ที่เป็นหญิง) หรืออีกศัพท์คือคำว่าฮวนกวน

ซึ่งศัพท์ทั้งสองคำแปลว่า เจ้าพนักงานของทางการ ขันทีมีหน้าที่หลักในการดูแลข้าวของเครื่องใช้ในวังหรือทำหน้าที่ตามห้องต่างๆและแบ่งเป็น 48 งาน แล้วแต่ว่าจะได้รับงานไหน เช่น เป็นเจ้าพนักงานดูแลห้องครัว ห้องทรงพระอักษร หรือห้องบรรทม เป็นต้น

ขันทีประจำพระที่นั่ง หยางซินเทียน ที่ 2 กับ 3 ชื่อ หลู่ซิงเจี้ยว กับ หวังเฟิงฉี

วิธีการตัดที่ปลอดภัยคือให้เด็กน้อยนอนลงไปบนเตียง แล้วมัดน้องชายของเด็กน้อยให้ผูกกับเชือก จากนั้นนำมีดค่อยๆกรีดลงบนน้องชายให้ลึก เมื่อกรีดหมดแล้วให้ทำการตัดและดึงออกมา ผู้ช่วยจะเอาผ้าปิดปากไว้ เพื่อระงับเสียงร้องของเด็กน้อย จากนั้นผู้ช่วยจะถือถาดไม้รับน้องชาย ส่วนแผลนั้นจะเอากระดาษแช่เหล้าฮวาเจียวบางๆปิดไว้จนหนา แล้วนำท่อนไผ่หรือขนไก่อุดท่อปัสสาวะไว้ เมื่อประมาณ 2-3 วันผ่านไปให้เอาออก

ส่วนวิธีการตัดสำหรับลูกชาวบ้านที่พ่อแม่หรือตัวเองตัดให้ รวมถึงการลงโทษโดยการตัด คือการนั่งถ่างขาแล้วลงมือตัดฉับเดียว แต่จะเจ็บปวดกว่าและอันตรายกว่าวิธีแรก (เคยมีคนกล่าวว่า การตัดน้องชายเจ็บพอๆกับตัดหัว แต่เจ็บทางใจมากกว่าหลายเท่า) การห้ามเลือดและการเก็บรักษาสุดแต่กรณี

คิดเลยว่าบรรยากาศการตัดในคลินิคหรูๆกับห้องอับ อันไหนสยองกว่า

น้องชายที่ถูกตัดไป สำหรับผู้ที่มีฐานะดีหน่อยจะเก็บไว้ในโถดองที่ใส่เหล้า เพื่อรักษาไว้ให้เป็นอย่างดี แต่โดยส่วนมาก ในช่วงยุคราชวงศ์ชิง ขันทีที่มีฐานะยากจน น้องชายจะถูกนำไปทอดกรอบด้วยสมุนไพร เสร็จแล้วจะใส่ไว้ในกล่องไม้เล็กๆ แล้วเอาผ้าแดงปิดฝาและมัดเชือก แล้วเขียนชื่อ และมัดรวมในศาลาขันที ให้ห้อยโตงเตงเป็นของสูงอย่างนั้น ผู้ที่มีฐานะจะเก็บไว้เก็บตัว และเก็บไว้ตัดตาย หากสามารถเย็บกับตัวได้จะเย็บ แต่ถ้าเย็บไม่ได้จะฝังรวมไว้ใกล้ๆศพ ชาติหน้าถึงจะมีครบ 32 ประการ หากไม่ครบจะไม่กล้าไปหาบรรพบุรุษ ถูกไล่ไปเกิดเป็นสัตว์ตัวเมีย ขันทีที่ทำของหายจึงต้องสร้างของปลอมแทน ซึ่งมีทั้งทำจากไม้และกระเบื้อง

ผู้ที่ถูกตัดต้องนอนจนกว่าแผลจะหายดี และเดินได้ แล้วจึงจะส่งเข้าวังพร้อมหลักฐาน เช่น ใบรับรอง และ กล่องไม้เก็บน้องชาย ให้กับหน่วยงานขันทีในวัง

ขันทีคนหนึ่งในยุคราชวงศ์ชิง ถอดกางเกงให้ฝรั่งถ่าย

การเลื่อนขั้นของขันทีมีโอกาสง่ายกว่าขุนนางธรรมดา เนื่องจากเป็นข้ารับใช้ที่มีความไว้วางใจสูง และถ้าทำดีมาก โอกาสการเลื่อนเป็นหัวหน้าขันทีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม อย่างไรก็ตาม ขันทีส่วนมากมักตายไว เพราะถ้าไม่ตายด้วยโรคแทรกซ้อน ก็ต้องตายเพราะถูกฆ่า/ฆ่าตัวตาย/ถูกประหาร (ดังที่เห็นในประวัติศาสตร์และหนังหลายเรื่อง)

การตัดไม่ได้แค่ตัดท่อนเอ็นกับไข่เท่านั้น แต่อาจจะรวมถึงอวัยวะภายในบางอย่าง เช่น ต่อมลูกหมาก หรือหูรูด ขันทีจึงไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ และขันทีจะใส่กางเกงในแบบพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดความอับอายที่ปัสสาวะไม่หยุด ดังนั้นจึงไม่ใช่คำว่า "ตอน" สำหรับการตัดขันทีจีน

ขันทีในยุคราชวงศ์หมิงมีประมาณ 70,000 คน ส่วนมากถูกกวาดต้อนเป็นเชลยศึกในช่วงต้นราชวงศ์ ซึ่งเป็นชาวมองโกลและชนกลุ่มน้อย รวมถึงลูกชาวบ้านฐานะยากจนด้วย

หลังล้มราชวงศ์ชิง มีขันทีอยู่ประมาณ 470 คน บางคนตามไปรับใช้จักรพรรดิผู่อี๋ต่อ บางคนก็อาศัยกับญาติๆ แต่งงานมีลูก (ขอลูกบุญธรรมญาติมา) บางคนโชคดีได้งานทำ แต่บางคนก็ตกอับไปจนตาย

ขันทีเฒ่าขณะถ่ายรูปเปลือย

ซุนเหย้าถิง ขัทีคนสุดท้ายของโลกกับเจียอิงหัว คนทำชีวประวัติเขา