หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บทความพิเศษเรื่อง กักเก็บน้ำผิวดินในแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน

โพสท์โดย zoompr

เมื่อมีเวลาแล้วนึกย้อนกลับไปในอดีต ยุคที่ปู่ย่า ตายายของเราทำอาชีพเกษตรกรรมในรูปแบบที่ยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเหมือนกับปัจจุบันนี้ ไม่มีปุ๋ยเคมี ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่มียาฆ่าหญ้า ไม่มีรถแทรกเตอร์ แต่ท่านก็ทำของท่านมาได้ สามารถเลี้ยงบุตรหลานให้เติบโตมาเป็นเจ้าคนนายคน สืบสานวัฒนธรรมการเกษตรไทยโดยที่ยังมีความสุขมากกว่าผู้คนหรือสังคมปัจจุบันด้วยซ้ำ

การทำการเกษตรในยุคเก่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะมีเพียงจอบ เสียม พลั่วเป็นหลัก ไม่มีเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ น้ำหนักมากมากดทับดิน ดินในอดีตจึงไม่แน่นแข็ง โดยเฉพาะดินชั้นล่างที่ลึกลงไปประมาณ 30-50 เซนติเมตร จากการไถพรวนของรถไถ รถแทรกเตอร์ทำให้ดินร่วนซุยแต่เฉพาะด้านบน แต่ดินชั้นล่างถูกน้ำหนักของรถกดทับจนแน่นเป็นชั้นดาน ก่อให้เกิดการระบายถ่ายเทน้ำไม่ดีจนสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าจึงทำให้ไม่มีสารพิษที่สะสมอยู่ในดินคอยควบคุมการเจริญเติบโตของพืช เพราะอย่าลืมว่ายาฆ่าหญ้าที่คุมหญ้า ก็สามารถส่งผลกระทบกับพืชหลักได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหญ้าก็จัดว่าเป็นพืชชนิดหนึ่งเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะส่งผลกระทบได้ไม่มากในระยะแรก แต่ในระยะยาวการสะสมที่มากขึ้นก็สามารถทำให้พืชอานชะงักงันได้เช่นเดียวกัน

การย้อนกลับมาทำการเกษตรแบบเก่าตามภูมิปัญญาชาวบ้านก็น่าจะดีไม่น้อยกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโซนพอเพียงของตนเองแค่ 1 ถึง 2 ไร่ก็เพียงพอ ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากมายเป็น 100 ไร่ 1,000 ไร่ก็ไม่สำคัญ ขอเพียงแบ่งมาทำโซนพอพียงแก่ตนเองสัก 1 ไร่ เพื่อให้ความสุขแก่ตนเอง โดยอาศัยหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ 30% สำหรับสระน้ำ 30% สำหรับนาข้าว 30% สำหรับป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และ 10% สำหรับที่อยู่อาศัย แล้วลองใช้ทรัพยากรทั้งหมดโดยไม่ต้องมีเงินเข้าเกี่ยวข้อง ลองดูว่าจะมีความสุขอยู่หรือไม่ หิวก็กินข้าว กินไข่ กินปลา กินผัก ผลไม้ที่ปลูกเอาไว้

แต่ที่เขียนมาทั้งหมดอาจจะยังไม่ตรงกับประเด็นของชื่อเรื่อง เพียงแต่อยากเชิญชวนให้พ่อแม่พี่น้องเกษตรกรลองมาปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรแบบง่ายกันบ้าง สำหรับการแก้ไขปัญหาการกักเก็บน้ำผิวดินแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยให้เริ่มทำจากแปลงเล็กๆ ด้วยการกำจัดหญ้าแบบไม่ใช้ยาคุมและยาฆ่าหญ้า แต่ใช้วิธีการตัดหรือดาย ตัดเพียงครึ่งเดียวไม่ให้รกเกะกะจนทำงานไม่ได้ แล้วนำเศษซากหญ้านั้นไปสุมรวมกองที่โคนต้น เพื่อลดการสูญเสียน้ำจากผิวดิน ที่อาจจะถูกสายลม แสงแดด พัดระเหยไป และอีกวิธีหนึ่งการใช้จอบเสียมพรวนดินด้านบนเพื่อตัดขาดท่อแคปปิลารี (ไส้ตะเกียง) ที่เป็นตัวเอาความชื้นชั้นใต้ดินขึ้นมาสู่อากาศเสียหมด ถ้าเราพรวนดินเพื่อทำลายไส้ตะเกียงของดิน ผิวดินที่ติดกับท่อแคปปิลารีที่ถูกตัด จะเป็นตัวกักเก็บรับความชื้นจากไส้ตะเกียงของน้ำที่ระเหยขึ้นมาบนพื้นผิวที่พรวนดิน ทำให้มีน้ำผิวดินในแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน

การเลี้ยงหญ้าให้เขียวรำไรทั้งแปลง การใช้เศษซากหญ้า อินทรียวัตถุ ตอซังฟางข้าวคลุมผิวดิน การใช้จอบพรวนดินทำลายตัดขาดท่อแคปปิลารีไม่ให้ขึ้นมาสู่ผิวดินด้านบน ให้ดินที่พรวนเป็นตัวดักกดทับน้ำที่ปลายท่อแคปปิลารีด้านล่าง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการกักเก็บรักษาความชื้นในดินให้คงอยู่กับต้นไม้ให้ได้นานๆ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้งและหนาวเย็น อากาศจะเป็นตัวพัดพาความชื้นในดินไปจนหมด แต่หากใช้วิธีดังกล่าวนี้ ก็จะเป็นการประหยัดต้นทุนเรื่องน้ำให้แก่พืช และช่วยประคองให้ดินกักเก็บน้ำจนกว่าฝนจะตกได้ในแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยหรือต้องการคำปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรงที่ 02 986 1680-2

สนับสนุนบทความโดยนายมนตรี บุญจรัส

กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยกรีน อะโกร จำกัด (ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ)

สอบถามข้อมูลข่าวได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0 2000 8499 , 081 732 7889

เนื้อหาโดย: zoompr
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zoompr's profile


โพสท์โดย: zoompr
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตำนานตลอดไป!! กับการประกวด Miss planet international 2024 บอกเลยว่า.. ที่สุดดราม่า “ทิชา” พุ่ง! หลังนักแสดงเด็กไข้สูงเข้าฉาก พ่อโพสต์เบื้องหลังสุดสมจริง จุดกระแสถกเถียงในโลกออนไลน์หนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริงลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ 210 บาทไม่ยั้ง ชาวเน็ตห่วงร้านขาดทุน เจ้าของเผยคำตอบพลิกความคาดหมายรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567หน้าหนาวนี้...เที่ยวเลยไหม! ไปเลย เที่ยวที่ไหน ไปดูกันตร.เร่งล่าตัวคนร้ายยิง 3 ศw หลังตาม 24 ชม.รู้แหล่งกบดานแล้วประชาชน หลายพื้นที่ขอความช่วยเหลือ น้ำท่วมมิดหลังคา คนแก่-เด็กติดอยู่ในบ้านออกไม่ได้ต้นไม้เหลว : นวัตกรรมแห่งอนาคตที่สร้างลมหายใจใหม่ให้กับโลกวิกฤตแรงงาน! โรงงานดังย่านกิ่งแก้วเลิกจ้าง 900 คนรวด คนทำงานนาน 19 ปียังไม่รอดข่าวดี! กระทรวงพลังงานปรับลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 4.15 บาท เริ่ม 4 เดือนหน้าป้าติ๋มเผยความจริง ได้รับมรดก 100 ล้านบาทจากนายจ้างชาวฝรั่งเศสตามพินัยกรรมที่เขียนไว้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จัดอันดับราศีสายเฮง ส่งท้ายปี 2567! ใครปังสุดมาดู!ต้นไม้เหลว : นวัตกรรมแห่งอนาคตที่สร้างลมหายใจใหม่ให้กับโลกพระพุทธรูปแห่งบามียัน มหัศจรรย์แห่งศตวรรษที่ 6 ที่ถูกทำลายโดยตาลิบาน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
กล้วยพัด : พรรณไม้แห่งศิลป์และความสง่างามมิราเคิล เบอร์รี : ผลไม้อัศจรรย์ที่เปลี่ยนโลกของรสชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อdangerous: อันตรายปลานกแก้วสีน้ำเงิน (Blue Parrotfish) ปลาที่สวยงามอีกหนึ่งสายพันธุ์ กับคุณค่าที่คู่ควรอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่ท้องทะเล
ตั้งกระทู้ใหม่