หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

Share แชร์บอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ โพสท์โดย กำปวงปั๊วะทม
ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

ปีคริสต์ศักราช 73 เป็นยุคที่โรมันเรืองอำนาจกองทัพอันเกรียงไกรของโรมันสามารถครอบครองอาณาจักรชนชาติอื่น
เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ชาวยิวก็เป็นอีกชนชาติหนึ่งที่ต้องสยบภายใต้คมดาบของจักรพรรดิโรมัน


แต่เมื่อชาวยิวถูกบีบคั่นจากทหารโรมันจนสุดทน ชาวยิวเริ่มลุกฮือขึ้นก่อการกบฏ เข่นฆ่าทหารโรมันล้มตายเหลือคณา
กองทัพโรมันจึงเคลื่อนพลมาปราบปรามฝ่ายกบฏด้วยความแค้น นักรบยิวปักหลักสู้อย่างถวายชีวิตตามที่มั่นต่างๆ
แต่ไม่สามารถสู้ทหารโรมันผู้เจนศึกได้ ชาวยิวที่รอดพ้นจากการถูกสังหารต้องถอยแตกซ่านไม่มีผู้อยู่ กระทั้งเหลือ
ชาวยิวกลุ่มหนึ่งประมาณพันกว่าคนยึดป้อมโบราณบนยอดเขามาซาดาเป็นที่มั่นสุดท้าย


ป้อมปราการบนยอดเขามาซาดาเป็นป้อมที่มั่งคงและแข็งแกร่งที่สุด ตั้งอยู่บนยอดเขา มีเนื้อที่ถึง 23 เอเคอร์ 
ผู้สร้างป้อมแห่งนี้คือพระเจ้าอีร็อค(ก่อนพระเยซูจะประสูติ) วังและที่อยู่ของข้าราชบริพารจะเจาะเข้าไปในหน้าผา
มีพื้นที่เก็บกักหน้าได้ถึงเก้าล้านแกลลอน สามารถมีน้ำใช้ได้ตลอดแม้ศัตรูจะปิดล้อมป้อมก็ตาม

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

กองทหารโรมันกรมที่ 10 ภายใต้การนำของ แม่ทัพฟลาวีอุส เข้าล้อมเขามาซาดาไว้ และส่งทหารขึ้นไปโจมตี
ป้องนี้หลายครั้ง แต่ถูกนักรบยิวโต้กลับทุกครั้งโดยอาศัยภูมิประเทศ แม้ทหารโรมันกรมที่ 10 จะเป็นกองเข้มแข็งที่สุด
แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้

               
ฟลาวีอุสจึงบัญชาสร้างกำแพงล้อมรอบภูเขาเพื่อไม่ให้ยิวที่อยู่บนป้อมหลบหนีออกจากวงล้อมได้ จุดประสงค์ของแม่ทัพ
โรมันต้องการปลิดชีพยิวทุกคนบนป้อมไม่ให้เหลือ ไม่ว่าจะเป็นนักรบ ผู้หญิง และเด็ก

หลังจากสร้างกำแพงล้อมปิดทางหนีเสร็จแล้ว ฟลาวีอุสได้สำรวจช่องเขาและส่งทหารไปโจมตีป้อมที่มั่นให้แหลกยับให้ได้
จนมองเห็นผาสูงด้านรทิศตะวันตกที่ยื่นออกมา จึงระดมกำลังทหารสร้างหอสูงถึง 90  ฟุต ตรงยอดหอคอยให้สร้างสะพาน
ขนาดใหญ่พาดไปยังหน้าผาเพื่อที่จะให้เป็นทางส่งทหารบุกเข้าไปพิชิตกำแพงป้อม

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

แม้จะสร้างสะพานใช้เป็นทางส่งทหารข้ามไปโจมตีป้อมที่มั่นได้แล้ว แต่ฟลาวีอุสก็ยังไม่สั่งให้โจมตี หากปิดล้อมเอาไว้ทุกด้าน
ด้วยเจตนาให้พวกยิวในป้อมขาดแคลนเสบียงอาหารจนถึงที่สุด จนแทบพยุงร่างไม่ไหวจึงจะบุกไปฆ่าอย่างง่ายดาย

กองทัพโรมันล้อมชาวยิวในป้อมบนยอดเขามาซาดานานถึงปีเศษ แต่พวกยิวก็สามารถปลักหลักอยู่ได้เพราะสะสมเสบียงอาหาร
อย่างมากมาย แต่หลังจากเห็นทหารโรมันสร้างสะพานเชื่อมต่อกับหน้าผา นักรบยิวเริ่มตระหนักดีว่าทหารโรมันตั้งใจฆ่าพวกตน
ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว


อีเลซาร์ เบน ยาลีร์ ผู้นำกลุ่มนักรบชาวยิว จึงเรียกประชุมคนในป้อมทั้งหมดแล้วประกาศถ้อยคำอันเด็ดเดี่ยวว่า


“บัดนี้ ถึงเวลาที่พวกเราจะถูกจับเป็นเชลยทั้งหมด จะถูกใช้งานอย่างทาส ถูกกดขี่บังคับและได้รับทัณฑ์ทรมานต่างๆ นาๆ
จนกว่าตายในที่สุด พวกเราคือผู้ประการตนเป็นอิสระต่ออำนาจทรราชของพวกโรมัน เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะตายจงตาย
อย่างคนมีอิสรเสรีเถิด ตายท่ามกลางลูกเมียและญาติของเรา ตายพร้อมกับเพื่อนนักรบทุกคน อย่าให้ทหารโรมันมีโอกาส
ภาคภูมิใจที่ได้ชัยชนะเหนือเรา อย่าให้มันเหลือความหยิ่งทะนงอย่างเด็ดขาด เมื่อมันยึดป้อมได้แล้วมันจะได้แต่ศพเราทุกคน
ที่ประกาศถึงความกล้าหาญและความเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเราจงมาตายพร้อมกันเถิด”


ชาวยิวทุกคนในป้อมมาซาดาตกลงยินดีฆ่าตัวตายดีกว่า ที่จะตกเป็นทาสของพวกโรมัน เริ่มจากผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว
ต้องฆ่าลูกเมียตายหมดก่อนที่จะฆ่าตัวเองตายตาม ส่วนคนที่เหลือคัดเลือกออกมาสิบคนทำการฆ่านักรบคนอื่นๆ จนหมด
และในจำนวนสิบคนสุดท้ายได้กำหนดให้คนหนึ่งคนฆ่าอีกเก้าคนแล้วคนสุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย


ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

ก่อนลงมือประหัตประหารพวกเดียวกัน ชาวยิวได้เผาอาคารทั้งหมดในป้อมไม่เว้นแม้แต่ยุ้งฉางที่เก็บเสบียงเพื่อให้ทหารโรมัน
รู้ว่านี้ไม่ใช้การฆ่าตัวตายเพราะความอดอยากหรือหมดทางเลือก หากแต่ยอมตายโดยไม่ยอมแพ้ ยอมตายเพราะไม่ยอมอยู่อย่างผู้แพ้

เมื่อทหารโรมันเห็นเปลวไฟลุกไหม้ อาคารภายในป้อมบนยอดเขามาซาดา ซี่งนักรบยิวจุดไฟเผาก่อนฆ่าคนในครอบครัว
และฆ่าตัวตายหมดทุกคน(ประมาณพันกว่าคน) แม่ทัพฟลาวีอุสจึงสั่งให้ทหารบุกเข้าในป้อม ซึ่งทหารโรมันก็พบกับสภาพ
ที่คิดไม่ถึง เมื่อพบศพชาวยิวชายหญิงและเด็กๆ นอนตายเกลื่อนไม่มีนักรบยิวเหลือแม้แต่สักคนเดียว ฟลาวีอุสเข้าใจเลยทันที
เลยว่าพวกเขาพร้อมใจกันตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้


ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

มีผู้รอดชีวิต 2 คนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และเด็กคนหนึ่งซึ่งบาดเจ็บสาหัสให้เป็นผู้เล่าเรื่องเมื่อทหารโรมันที่บุกเข้ามาได้รับฟัง

ทหารโรมันทั้งหมดไม่เกิดความรู้สึกยินดีที่เห็นศัตรูตายหมดแม้แต่น้อย อาวุธของพวกเขาไม่มีโอกาสปลิดชีพใครแม้แต่คนเดียว
ฟลาวีอุสและทหารโรมันพร้อมใจกันถอดหมวกแสดงความเคารพในความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของชาวยิว....ที่ยอมตายดีกว่า
อยู่อย่างผู้แพ้

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

จนกระทั้งเวลาล่วงมาเกือบ 200 ปี นักโบราณคดีกลุ่มหนึ่งจึงเปิดฉากค้นหาและค้นคว้าหลักฐานต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความจริง
ของเหตุการณ์ครั้งนั้น จากการค้นค้นพบคลังเสบียงที่ไม่ไหม้ไฟ พบเหรียญสำริดกองหนึ่งที่ผุกร่อนที่ใช้แทนบัตรแลกเสบียง
พบแผ่นบันทึกเรื่องราวทั้งหมด 14 ม้วน และเสื้อเกราะนักรบและเหยือกกองอยู่สิบกว่าใบแต่ละใบสลักชื่อเจ้าของและอีกเหยือกหนึ่ง
จารึกชื่อ อีเลซาร์ เบน ยาลีร์ ผู้บัญชาการป้อมไว้ด้วย

ทุกวันนี้ป้อมมาซาดาถูกขึ้นเป็นมรดกโลกของประเทศอิสราเอลในปี ค.ศ.1972 และถูกทางการอิสราเอลรักษาไว้เป็นอย่างดี
ในบานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ทหารเกณฑ์ทุกคนจะต้องเข้าประจำการและต้องสาบานตนที่เทือกเขามาซาดานี้ว่า


“มาซาดาจะไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อไป”

 
จากนิตยสารแปลก 1618

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้
 
ก่อนจบ

มาซาดาเป็นป้อมปราการโบราณในกลางทะเลทรายยูเดีย ที่แห้งแล้งบนยอดเขาสูงเหนือทะเลสาบ DEAD SEA ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี
(ก่อน ค.ศ.31-37) โดยสร้างขึ้นในรัชสมัยของเฮรอดมหาราชเพื่อควบคุมเส้นทางการติดต่อกันในราชอาณาจักร ตามประวัติบอกว่า
กษัตริย์องค์นี้สืบทอดเชื้อสายมาจากคนเอโดม พระคัมภีร์ปฐมกาลบอกว่า เอโดมคือเอซาวซึ่งเป็นพี่ชายของยาโคบ ผู้เป็นบรรพบุรุษนั้นเอง

มาซาดาได้รับการสร้างอย่างสวยงามและมั่นคงบนยอดเขาสูง เพื่อเป็นพระราชวังฤดูหนาวของเฮรอด มีโรงอาบน้ำที่มีส่วนอบซาวน่า ,
แช่น้ำร้อน , อาบน้ำเย็นที่ต้องทึ่งกับวิธีการออกแบบของสถาปนิกโบราณ ...ทางเดินน้ำรอบเขาที่พึ่งพาน้ำฝนจากธรรมชาติ และ
การออกแบบที่ชาญฉลาดที่สุด โบสถ์ไบเซนทีนที่ปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคที่หลงเหลือหลักฐานจากเมื่อนับพันปีให้เราได้ชม
ถึงทุกวันนี้ก็ยังงดงามอ่อนช้อยเสียจนถ่ายรูปอย่างไร ก็เก็บเสน่ห์ของบรรยากาศ ณ ที่นั้นไม่ได้อยู่ดี ... และสถานประชุมนมัสการของชาวยิว
( Synagogoue ) ที่เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของสถานนมัสการในยุคต่อมา


ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้


 

ป้อมมาซาดา (Masada) ขอตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้
ที่มา: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=124135.0
credit :: cammy@dek-d.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กำปวงปั๊วะทม's profile


โพสท์โดย: กำปวงปั๊วะทม
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: ซาอิ, ป้าสวย, Thorsten, The Peachband, ginger bread, ท่านฮั่ว แมวขี้งอน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักดื่มกระทิงแดง กำลังมองหากระป๋อง ที่มีจุดสีน้ำเงินอยู่ข้างใต้ยลโฉมความงดงามของนครวัดก๊อปเกรดเอจากฝีมือจีน อลังการไม่แพ้นครวัดของกัมพูชา!ควนยักษ์กมลา สถานที่ลึกลับแห่งภูเก็ต ที่ซ่อนตำนานเอาไว้กว่า 30 ปี?นักข่าวปาเลสไตน์โพสต์รูป ทหารอิสราเอลถือธงชาติไทยรถติดจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป..ถ้าลองใช้วิธีนี้ มีฮาแน่นอน!"ลิซ่า" จะเดบิวต์เป็นดาวติ๊กต๊อก..แต่กลับโดนแซะว่าเลียนแบบ "กามิน"วาระแห่งชาติ! เขมรร้อนรนเร่งหาชื่อใหม่แทน สงกรานต์ หลัง UNESCO รับรองสงกรานต์ไทยแม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลกสตรีมเมอร์ผิวสีสุดห้าว ทำคอนเทนต์เตะเก้าอี้ที่พัทยา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ปิดให้บริการทุกสถานีลุงเปิดพัดลมคลายร้อนทั้งวันทั้งคืน จนช็อตไฟไหม้บ้านทั้งหลัง 🥺กะเทยแทงกันบาดเจ็บสาหัส ย่านสุขุมวิท11 ซ้ำรอย! จุดที่เคยเกิดเหตุวันกะเทยผ่านศึก..'เขา'ที่ขับขี่ขึ้น-ลงยากมากที่สุดในประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
มารู้จักศาสตร์บ่งชี้การตัดสินใจ5 ราศี ที่มีแนวโน้มนอกใจหลังจากแต่งงานมากที่สุด5 ราศีรับทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมาราศีที่มีเสน่ห์ คนเมตตา โชคลาภโดดเด่น ในช่วงนี้
ตั้งกระทู้ใหม่