คุณกล้าไล่แม่บังเกิดเกล้าออกจากบ้านไหม?
กระทู้นี้ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่แม่คนหนึ่งออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมที่ถูกลูกสาวคนโตฮุบกิจการและไล่ออกจากบ้าน
**----**
น้องกุ้งนาง น่าชม วัย 15 ปี ม.2 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี เป็นผู้ที่คอยดูแลทุกชีวิตในบ้าน ทั้งแม่ที่ป่วยจากโรคเส้นเลือดสมองแตกเป็นอัมพาต ดูแลพ่อที่พิการ และน้องๆ อีก 2 คน รายได้หาเลี้ยงครอบครัวมาจากการเก็บขยะขาย หลังช่วยแยกขยะไปขายแล้ว น้องกุ้งนางก็คอยดูแลทำความสะอาด ป้อนน้ำป้อนข้าวให้ผู้เป็นแม่ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรด้วย โดยมีครูประจำชั้นคอยไปรับไปส่งอยู่เป็นประจำ
นายสบาย พลรบ ลูกกตัญญูที่แม้ไม่ปกติก็พยายามหาเลี้ยงแม่วัย 88 ปี เขาเป็นชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลนาจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง แม้จะเป็นออทิสติกแต่ยังพยายามรับจ้างลอกใบจากเพื่อหาเงินมาดูแลแม่ นางเสริม พลรบ วัย 88 ปี เขามีรายได้วันละ 70-80 บาท ซึ่งเงินจากการทำงานนั้นเขาเอามาซื้ออาหารเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยที่ต้องนอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ณ เมืองจี้หนาน มณฑลซานตง ประเทศจีน พบลูกยอดกตัญญู หวังยุ่ยฉิน อายุราว 50 ปี พิการสูญเสียขา 1 ข้าง ปั่นสามล้อเก็บขยะขายยังชีพ หาเงินดูแลแม่ วัย 81 ปี อย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค โดยรายได้จากการเก็บขยะขายต่อเดือนไม่ถึง 300 หยวน (1,500บาท) ด้วยความที่ขาพิการทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก บางครั้งต้องทานอาหารจากถังขยะ เขาต้องพาแม่ขึ้นสามล้อและใช้ขาเพียงข้างเดียวถีบสามล้อหาเก็บขยะไปตามถนน เขาดูแลแม่ซึ่งแก่ชราด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ป้อนข้าวป้อนน้ำ รวมถึงอุ้มแม่ทั้งๆที่มีขาเพียงข้างเดียวอีกด้วย เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เขาไม่เคยคิดที่จะไปอยู่ที่อื่นที่ไกลจากแม่เลย
นายหวัง วัย 70 ปี ชาวบ้านหนิงเฮ่อ ในเทียนจิน ซึ่งเฝ้าดูแลมารดาผู้ให้กำเนิด อายุกว่า 96 ปี ใช้เวลาแต่ละวันอย่างกตัญญูรู้คุณ ป้อนข้าว เช็ดตัว เช็ดอุจจาระปัสสาวะให้แม่ทุกวัน นอกจากนั้น ยังนวดแขนขา พูดคุยข้างหู บอกเล่าเรื่องราวสนุกๆ ให้แม่สบายใจตลอดเวลา ทั้งกลางวันกลางคืน โดยหวังให้แม่ได้อยู่กับเขาไปอีกนาน
หนูน้อยซุนเยี่ย วัย 4 ขวบ ต้องเป็นผู้รับภาระในบ้านทั้งหมดตั้งแต่ดูแลพ่อแม่พิการ และดูแลงานบ้าน จัดการเรื่องอาหารโดยไม่เคยปริปากบ่นสักคำ จนผู้เป็นพ่อแม่อดสงสารลูกน้อยไม่ได้ที่ต้องมาแบกรับภาระหนักเกินตัว จึงคิดจะส่งเธอให้ไปอยู่ในการอุปการะของคนอื่นที่พร้อมกว่า แต่หนูน้อยกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่นตลอดมา ด้วยเหตุผลสั้นๆ ที่ไม่อาจหาเหตุผลอื่นใดมาหักล้างได้ว่า
"ถ้าหนูไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วใครจะดูแลพ่อกับแม่ให้หนูได้"
พระพุทธเจ้าตรัสเป็นพุทธวจนะว่า “ภูมิ เว สัปปุริสานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูเป็นพื้นฐานของคนดี
สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสสเทวะ) ก็ได้แต่งสำนวนขึ้นมาให้ไพเราะมากขึ้นและเป็นที่รู้จักกันในสังคมดีกว่าสำนวนแรกว่า “นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา” ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
จะเป็นคนยากดีมีจน ถ้ามีความกตัญญูต่อบุพพการีแล้ว คุณคือคนดีครับ