หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บ้านเขียวหรือบ้านขุนพิทักษ์บริหาร

โพสท์โดย มารคัส

สมัยรัชกาลที่ 5 ขุนพิทักษ์บริหาร (พึ่ง มิลินทวนิช)

เป็นนายแขวงเสนาใหญ่ คืออำเภอผักไห่ในปัจจุบัน (เคยเข้ารับใช้พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ด้วย) ภรรยาคือนางจ่าง มิลินทวนิชขุนพิทักษ์ฯ เป็นเจ้าของกิจการเรือสองชั้นที่เรียกว่าเรือเขียว ซึ่งเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ (มีจำนวน 10 กว่าลำ) รับส่งผู้โดยสารระหว่างผักไห่-ท่าเตียน กรุงเทพฯ และผักไห่-ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้การค้าขายบริเวณนี้ เจริญรุ่งเรือง (เมื่อมีการทำประตูทดน้ำในแม่น้ำเรือจึงไม่สามารถแล่นได้ ประกอบกับถนนหนทางเจริญขึ้นกิจการเดินเรือจึงเลิกไป)

 

ตระกูลขุนพิทักษ์ฯเป็นตระกูลใหญ่ ขุนพิทักษ์ฯมีบุตรทั้งหมด 6 คน มีหลานอีกหลายคนบุตรคนโตคือนางทองคำ มิลินทวนิช (นางทองคำมีบุตร 3 คน คือคุณใหญ่ คุณกลางหรือยายอุดมวรรณ และคุณจิ๋วหรือยายสมพร)

บุตรคนที่ 2 คือนางบุญมี คนที่ 3 คือนายโกย 4 คือหลวงมิลินทวนิช 5 นางวงศ์ ซึ่งเป็นภรรยาของหลวงพร้อมธีระพันธ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรีเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และคนที่ 6 นางยูรคุณยายสมพร มิลินทวนิช อายุ 78 ปี

และคุณยายอุดมวรรณ มิลินทวนิชอายุ 80 ปี สองพี่น้องซึ่งเป็นหลานสาว(หลานตา)ของขุนพิทักษ์ฯ แต่ใช้นามสกุลของตา (เป็นบุตรนายเติมกับนางทองคำโดยนางทองคำเป็นลูกสาวคนโตของขุนพิทักษ์) ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 563 ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ เล่าว่าขุนพิทักษ์ฯเกิดที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ส่วนภรรยา (นางจ่าง)เป็นคนอำเภอผักไห่

สมัยตนเป็นเด็กบ้านของตนเป็นแพอยู่ริมน้ำหน้าบ้านขุนพิทักษ์ฯ ตนผูกพันกับบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็ก วิ่งขึ้นลงคลุกคลีกับคนในบ้านมาตลอด หลังจากยกให้หลวงแล้วตนกลับมาดูบ้านหลังนี้ทุกปี เนื่องจากมีที่นาและญาติพี่น้องอยู่ที่อยุธยา แต่หลายปีหลังนี่
ไม่ได้มา

บ้านของขุนพิทักษ์บริหารเป็นบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 อายุเกินกว่า 100 ปี สถาปัตยกรรมเป็นบ้านไทยที่ได้รับอิทธิพลทางตะวันตก ซึ่งน่าสนใจมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย (ด้านหลังติดกับถนนในหมู่บ้าน ) หมู่ที่ 2 ตำบลอมฤตอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (เดินทางจากตัวอำเภอผักไห่ไปทางทิศเหนือตามถนนลาดยาง เพียง 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไปในบริเวณวัดอมฤต แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านโรงสีเข้าไป)

บริเวณที่ตั้งมีเนื้อที่ทั้งหมด 1 ไร่ 72ตารางวา ด้านหลังบ้านที่ติดกับถนนปักป้ายประกาศว่าเป็นที่ดินราชพัสดุของ กรมธนารักษ์ ลักษณะบ้านเป็นบ้านทรงปั้นหยาสองชั้นยกพื้นสูง ปลูกสร้างด้วยไม้สัก (บางส่วนเป็นตึก)

ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า”บ้านเขียว” (เพราะเดิมทาสีเขียวเนื่องจากขุนพิทักษ์เกิดวันพุธ) หลังคามุงกระเบื้องสีน้ำตาลเข้มสภาพภายใน ยังแข็งแรงแต่สภาพภายนอกทรุดโทรม ประตูหน้าต่างมีลวดลายแกะสลักอย่างประณีตบรรจง พื้นเป็นกระดานไม้สักแผ่นใหญ่ ชั้นล่างมีห้องโถงใหญ่1 ห้อง (มีตู้ไม้สัก 3 หลัง) ห้องเล็ก 2 ห้อง (ในห้องเล็กใกล้ระเบียงหลังบ้าน มีตู้เหล็กนิรภัย สูงถึง 1 เมตร ปิดล็อกไว้)

และห้องใต้บันไดอีก 1 ห้อง ส่วนชั้นบนมีห้องโถง 1 ห้อง ห้องเล็ก 3 ห้อง และห้องซอยด้านหลังอีก 1 ห้อง ในห้องเล็กที่ใกล้กับทางลงมีห้องแยกออกไปอีก เป็นห้องที่ใช้ประตูเดียวกับห้องแรก ภายในห้องแยกมีห่วงเหล็กเส้นผ่าศูนย์กลางเหล็ก 1 นิ้วตรึงอยู่กับพื้นมุมห้อง

ใช้สำหรับล็อกโซ่ล่ามกำปั่นสมบัติ (ปัจจุบันยังสามารถหาดูห่วงเหล็กลักษณะนี้ได้ในเรือนเก่าหลังอื่น ๆ เช่นเรือนหลังกลางของนายแป้น สุดสนอง เลขที่ 23 หมู่ที่ 5 ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่)

หน้าต่างและประตูใช้กลอนไม้แบบโบราณ ด้านหน้ามีสะพานไม้เชื่อมไปที่ศาลาใหญ่ริมแม่น้ำ และเรือนพักคนรับใช้หลังเล็ก (นายฟื้น ผู้ดูแลบ้านคนสุดท้ายมีอาชีพทำขนมจีนขาย ได้เสียชีวิตที่เรือนหลังเล็กนี้

หลังจากนายฟื้นเสียชีวิต นางวาสน์ซึ่งเป็นภรรยานายฟื้นและเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ได้ย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา และไม่มีใครพบอีกเลย ส่วนเรือนหลังใหญ่ไม่ปรากฏว่า เคยมีผู้เสียชีวิตในเรือน แม้แต่ขุนพิทักษ์ฯเมื่อชราภาพใกล้สิ้นอายุขัย ได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับบ้านทางเรือ และสิ้นชีวิตในเรือระหว่างเดินทาง)


หลังจากขุนพิทักษ์ฯสิ้นชีวิตแล้ว ลูกหลานย้ายไปอยู่ภูมิลำเนาอื่น ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ แม่จ่างภรรยาท่านขุนจึงได้ยกบ้านให้หลวง เป็นที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ เมื่อ พ.ศ.2505 โดยกระทรวงมหาดไทย ได้มอบเข็มชั้นเครื่องหมายทองประดับเพชรให้กับนางจ่างด้วย
นายเม่งชง แซ่โต๋วอายุ 82 ปี เจ้าของร้านชงโภชนา ตลาดผักไห่เล่าว่า สมัยที่ตนอายุ 10

ขวบ เคยพายเรือผ่านไปขายของ บ้านหลังนี้มีบริวารอาศัยอยู่มาก ในงานวันเกิดของแม่จ่าง ภรรยาขุนพิทักษ์ จะมีภรรยาของท่านจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม เดินทางมาร่วมงานทุกปี

ดร.ดนัย มิลินทวนิชซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของขุนพิทักษ์ เล่าว่ามีบันทึกในพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการเสด็จประพาสต้น


ลำน้ำคลองมะขามเฒ่าได้กล่าวถึงช่วงหนึ่งว่า พระองค์ทรงเสด็จประพาสมาตามลำแม่น้ำ
น้อยนี้ และได้ทรงประทับที่บ้านของนางจ่าง มิลินทวนิช ซึ่งก็คือภรรยาของขุน
พิทักษ์ฯนายชัยกร นิยมไกร ชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านขุนพิทักษ์ฯ กล่าวว่าบิดาของตนเคยเล่าให้ฟังว่าขุนพิทักษ์เป็นคนยิ่งใหญ่พอสมควร สมัยที่ขุนพิทักษ์ฯมีชีวิตอยู่ ได้จัดทอดกฐินและแข่งเรืออย่างใหญ่โตทุกปี ในวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 (วันงานไหว้วัดอมฤต)

 

 

ห่างจากบ้านขุนพิทักษ์ประมาณ 1 กิโลเมตรมี “บ้านตึก” ซึ่งเป็นบ้านโบราณอยู่ริมแม่น้ำน้อย
เช่นกัน อีก 1 หลัง ซึ่งเป็นบ้านของขุนวารีโยธารักษ์ นายอำเภอคนแรกของอำเภอผักไห่ (สมัยนั้นเรียกว่าอำเภอเสนาใหญ่) สมัยรัชกาลที่ 5 เคยใช้เป็นที่ว่าการอำเภอเสนาใหญ่ และออกว่าความตัดสินคดี มีการจองจำนักโทษที่เรือนด้านหลัง (รื้อถอนไปแล้ว)

เรือนใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่าบ้านตึกนี้ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ในเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน18 ตารางวา หลังคาทรงปั้นหยา มีลวดลายแกะสลักสวยงาม ชั้นล่างมีการก่ออิฐล้อมเป็นผนังแบ่งเป็นช่อง ๆ คล้ายกำแพง ปัจจุบันบ้านตึกอยู่ในที่ดินโฉนดของนางย้อย วิภาตะศิลปิน บุตรของขุนวารีโยธารักษ์

ปัจจุบันบ้านขุนพิทักษ์บริหาร เป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป สื่อมวลชนหลายแขนงได้เผยแพร่ข่าว เช่นรายการที่นี่ประเทศไทย ทางโทรทัศน์ช่อง 5 แต่ที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์และรายการมิติลี้ลับทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ออกข่าวว่าบ้านหลังนี้มีวิญญาณ มีภูติผีปีศาจ นั้น ผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญาติพี่น้องขุนพิทักษ์ฯไม่เชื่อว่าบ้านหลังนี้ จะมีภูติผีปีศาจ เพราะไม่ปรากฏว่าเคยมีผู้เสียชีวิตในเรือนท่านขุน และท่านขุนเป็นคนใจดี ไม่มีศัตรู ทอดกฐินทุกปี ทำประโยชน์เอาไว้มาก

 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: ginger bread, ป้าสวย, ท่านฮั่ว แมวหน้าง้ำ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายจรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกันรู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569ชาวเขมร" ให้อภัยชาวไทย กลับมารักกันเหมือนเดิม หลังเกิดการปะทะ กันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเสธ.เดือด มีแต่พื้นที่ของกูกับของมึง..เท่านั้นเขมรมีการเรียกร้อง ไทยต้องถอยกลับไปจุดเดิมเท่านั้น ให้คนเขมรกลับมาอยู่ที่ทำกินเดิมหิมะตกในซาอุดีอาระเบีย ครั้งแรกในรอบ 30 ปีเขมรเสี่ยงเอารถขนยุทโธปกรณ์มาเติมที่เขาพระวิหารสุดท้าย ถูกไทยยิงทำลายอย่างง่ายดายเผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภรรยาของผู้นำกัมพูชา เข้าร่วมพิธีศwของบรรดาทหารที่เสียชีวิตในปะทะตามแนวชายแดนกับไทย“บิ๊กป้อม” บอกอายุ 80 พอแล้ว ท่ามกลางกระแสถอนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศ เรียกร้องให้ไทยหยุดยิงทันที!!จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?🦁🔥 ระอุจนถึงไพรม์! เสือโคร่ง vs สิงโต — ใครคือ “ราชาแห่งราชา” ในสังเวียนตัวต่อตัว?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
เครื่องราง ปี 2569สีเสริมดวงเฮงๆๆสีนำโชครู้ไม่ทันคิด
ตั้งกระทู้ใหม่