ประวัติคุณย่าชีนารี การุณ อายุ 123 ปี ลูกศิษย์ทางธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
คุณย่าชีนารี การุณ
คุณย่าชีนารีได้สมรสกับนายวันดี ซึ่งมีลูกด้วยกัน 6 คน เป็นหญิง 4 ชาย 2 พอคุณย่าชีนารีอายุครบ 40 ปี ก็มีอารมณ์อยากจะบวชโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนหน้านั้นท่านได้พบองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
องค์หลวงปู่มั่นได้เดินธุดงค์ไปพักอยู่ใกล้บ้านๆและได้สอบถามถึงครอบครัวแล้วท่านก็จากไป
คุณย่าจึงขออนุญาตนายวันดีออกบวช นายวันดีให้ข้อแม้ว่าคุณย่าต้องหาภรรยาให้ซัก 3 คน เมื่อถึงวันบวชนายวันดีก็อนุญาตให้ออกบวช หลวงปู่มั่นท่านทราบด้วยญาณจึงส่งพระมา 3 รูป
คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก พร้อมด้วยบริขารมาทำการบวชให้ คุณย่าหลังจากบวชชีแล้ว ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่มั่น โดยท่านให้อุบาย ให้คุณย่าภาวนา นะโมและพุทโธ
ท่านภาวนาท่านเห็นอดีตชาติขององค์ท่านเองว่าเคยเกิดเป็นชาวรัฐเซีย ไต้หวัน กษัตริย์ ทหาร แต่ไม่เคยเกิดเป็น 3 อย่างคือ เสือ ไส้เดือน กิ้งกือ
หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ นิพพาน ได้มีการจัดงานประชุมเพลิงที่วัดป่าสุทธาวาส คุณย่าเล่าให้ฟังว่าในงานประชุมเพลิงมีเทพธิดามาร่วมถวายเพลิง 30,000 องค์ ท้าวมหาพรหม 6 องค์
เทพบุตรมา 2 องค์ เกือบทุกชั้นมีเทพประธานมากำกับด้วย ท่านเห็นแล้วชื่นใจ
หลังจากประชุมเพลิงเสร็จ ศิษยานุศิษย์องค์หลวงปู่ได้เข้าไปแย่งขี้เถ้า อัฐิ ตัวคุณย่าเองก็เข้าไปล้วงกับเค้า ได้อัฐิส่วนซี่โครง เศษอัฐิ และอังคาร มา เมื่อคุณย่าเก็บรักษาต่อมาได้แปรสภาพเป็นพระธาตุแก้วใสหมด
หลังจากนั้นท่านก็อยู่วัดป่าสุทราวาสเรื่อยมา เมื่อปีพ.ศ. 2520 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนีนาถมีศรัทธาสร้างกุฏิ ถวายใหม่
สมเด็จพระเทพมาครั้งใดจับแขน จับขาคุณย่า เห็นคุณย่านุ่งห่มผ้าขาวแทบจะเป็นดำ ก็เข้าไปจัดแจงจะให้คุณย่าเปลี่ยนชุดใหม่
ถึงกับทรงจะผลัดให้เอง คุณย่าต้องห้ามไว้ ท่านเล่าด้วยความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ หลังจากท่านอยู่วัดป่าสุทธาวาสมานาน ท่านก็ย้ายไปจำพรรษาหลายที่ เช่น วัดป่าวังน้ำทิพย์
จนองค์ท่านได้มาหยุดที่สำนักชีบ้านหนองยาง จ.สกลนคร โดยมีคุณยายสมรและคุณตาเพลินเป็นผู้ดูแล หลวงปู่คำคะนิงในอดีตชาติเป็นพี่ชาติขององค์ท่าน ในชาติปัจจุบันนึ้ท่านก็มาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ
และได้นำประคำที่อยู่กับองค์ท่านมาตั้่งแต่สมัยออกปฏิบัติธรรมใหม่ๆให้แด่คุณย่า หลวงปู่หลุย จันทาสาโร นับถือคุณย่าเป็นแม่
เพราะในอดีตชาติคุณย่าเป็นแม่ขององค์หลวงปู่ หลวงปู่จะกล่าวชมให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเป็นแม่ขาวแม่ออกที่ปฏิบัติธรรมจนเห็นธรรม
หลวงปู่หลุยท่านรักและเคารพคุณย่ามากถึงขนาดทำที่ครอบฟันปลอมให้และส่งปัจจัยจำนวน 10,000 บาท ให้คุณย่าทุกเดือน หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เคารพในคุณธรรมคุณย่าและมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ
ตอนที่คุณย่าจะนิพพาน หลวงปู่ถวายปัจจัยให้คุณย่า 20,000 บาท หลวงปู่หลุยและหลวงปู่หลอดกล่าวว่าที่ท่านมีทุกวันนึ้ได้ก็
เพราะขึ้มือคุณแม่นั้นแหละ
ก่อนวันที่ท่านจะนิพพาน ท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ สติแจ่มใสมาก ท่านบอกให้คุณยายสมรเตรียมน้ำมารับพระเถระบนกุฏิ
คุณยายสมรเตรียมน้ำมาแล้วไม่เห็นใคร ท่านก็บอกให้เอาขึ้นมา พระเถระมาเต็มกุฏิแล้ว หลังจากนั้นวันต่อมา
คุณย่าได้จับมือคุณยายสมรและคุณตาเพลินได้สั่งเสียไว้ว่า ถ้าท่านนิพพานแล้วอย่าทึ้งคุณย่าเขียนน่ะ(ผู้ดูแลคุณย่าตั้่งแต่สมัยวัดป่าสุทธาวาส)
คุณยายสมรและคุณตาเพลินรับคำ ท่านทรงสติมาก แล้วท่านก็ยึ้มงามมาก ยึ้มอย่างไม่อาไรอาวรณ์ไม่สนแก่การตาย พอท่านยึ้ม ลมหายใจและหัวใจก็หยุดเต้น ท่านเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2542 เวลา 20.25
สิริอายุขัย 123 ปี อยู่ในเพศแม่ชี 83 ปีพอดี
ในวันประชุมเพลิงมี หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป เป็นประธานในฝ่ายบรรพชิต ถวายเพลิง เมื่อไฟไกล้จะมอดเห็นดวงไฟสีเขียว พุ่งออกมา เมื่อเก็บอัฐิพบว่า อัฐิคุณย่าแปรสภาพเป็นพระธาตุทันทีหลังจากประชุมเพลิงเสร็จ
คุณแม่นารีจะมีอายุยืนมาก ตัวท่านบอกว่า อายุท่านประมาณ 110 กว่าปี ตอนไปกราบปีแรกๆ เห็นท่านยังคลานออกจากห้องมารับแขกที่ระเบียงกุฏิได้อยู่ แต่ปีหลังๆ นี่ท่านลุกขึ้นมาเทศน์บนที่นอนท่าน ปีท้ายๆนี่นอนอยู่กับที่อย่างเดียว แม้แต่คลานก็ยังไม่ไหวเสียแล้ว คุณแม่นารีจะเทศน์เก่ง จะสอนฆราวาสหญิงในเรื่องการวางตัว การภาวนาต่างๆมากมาย ท่านมักเล่าเรื่องราวต่างๆในยุคที่ท่านอยู่กับหลวงปู่มั่นได้อย่างแม่นยำ รวมถึงอดีตชาติของท่านที่มีบุพกรรมร่วมกับครูบาอาจารย์บางองค์ ได้อัดเทปเทศน์ท่านไว้หลายม้วน เวลาพาหมู่คณะไปกราบเยี่ยมท่านแล้ว เห็นพี่ๆเพื่อนๆน้องๆผู้หญิงมีความสุขและมีกำลังใจในการภาวนากันมากขึ้น
เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังจากครูบาอาจารย์มา ก็ได้ยินท่านหลายองค์ยกย่องเรื่องคุณธรรมและการปฏิบัติของแม่ชีอยู่ 3 องค์ด้วยกัน คือ แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีนารี การุณ และแม่ชีพิมพา วงศาอุดม (คุณแม่น้อย) นี่แหละครับ แต่ละท่านก็อายุยืนกันมาก ไม่น้อยกว่า 90 ปี
ธรรมโอวาท
"ศีลนั้นแสดงถึงความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจอันสูงเพราะหากทำลายศีลเสียก็เท่ากับว่าทำลายความเป็นมนุษย์ ที่ปราศจากความดีทั้งหลาย"
"เมื่อจิตเป็นสมาธิ จิตหยุดนิ่ง อารมณ์มันน้อย ปัญญาจึงมีโอกาศเกิดขึ้นได้"
"ให้มีสติรู้เท่าทัน (อุปาทาน) หยุดมันเสียมันก็จะนิ่งสนิทอย่างเดิม เป็นอารมณ์เดียว"
ที่นำเสนอเรื่องนี้เพื่อให้ทราบว่า สตรีก็สามารถบรรลุธรรมได้จริงในชาตินี้ เช่นเดียวกับปรากฎในพระพุทธประวัติครับ
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1193144897370186&set=a.571390936212255.1073741825.100000240606656&type=3&theater
http://larndham.org/index.php?/topic/30655-ท่องธรรมอุดรธานี-หนองคาย-เวีย/page__st__35
http://www.udon108.com/thai/showthread.php?t=5025&page=162