5 เรื่องที่นักศึกษาต่างชาติเข้าใจผิด เกี่ยวกับชีวิตมหาวิทยาลัยอเมริกา
มีนักศึกษาเกือบ 200 ประเทศทั่วโลกเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา และนักศึกษาต่างชาติบางส่วน (รวมถึงคนไทยด้วย) ก็มีเรื่องที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกา จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาฟัง 5 เรื่องที่เด็กศึกษาอเมริกันเล่าให้ฟังกันเลยดีกว่า….
ข้อ 1 นักศึกษาต่างชาติไม่ได้รับการช่วยเหลือ
นักเรียนต่างชาติหลายคนไม่กล้าไปเรียนต่อสหรัฐอเมริกา เพราะเข้าใจว่าการไปเรียนต่อนั้นยากลำบาก กลายเป็นพลเมืองชั้นสองชั้นสาม ทั้งที่จริงแล้วหลายมหาวิทยาลัยนั้นมีศูนย์ช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ แบบที่ว่าคนท้องถิ่นก็ต้องอิจฉาเลยล่ะ
เพราะหลายสถาบันก็อยากจะดึงดูดนักศึกษาต่างชาติให้ไปเรียน เลยตั้งศูนย์มาช่วยเหลือด้านภาษา ที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิต หรือเรื่องอื่นๆตลอดการเรียน ที่สำคัญคนอเมริกันนั้นก็ยังค่อนข้างเป็นมิตรกับนักศึกษาต่างชาติ และพร้อมจะช่วยเหลือหากเราเอ่ยปากขอ
ข้อ 2 มหาวิทยาลัยอยู่ในเมืองใหญ่และอันตราย
นักศึกษาหลายๆคนติดภาพมหาวิทยาลัยนั้นอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง New York, Detroit หรือ Austin ซึ่งเมืองใหญ่ก็จะมาพร้อมกับปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และภาพความอันตราย ซึ่งถึงแม้จะเป็นความจริงที่อัตราการเกิดอาชญากรรมในเมืองใหญ่นั้นสูงกว่าแถบชนบท
แต่อย่างไรก็ตาม ในเขตมหาวิทยาลัยจัดเป็นเขตที่ค่อนข้างปลอดภัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่และนักศึกษาแทบจะใช้ทั้งชีวิตอยู่ในสถาบัน นอกจากนี้หลายๆสถาบัน ก็ยังตั้งอยู่ตามนอกเมือง ให้นักศึกษาได้ใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศสบายๆอีกด้วยล่ะ
ข้อ 3 นักศึกษาอเมริกัน ชอบปาร์ตี้กันทุกคน
หลายคนรับรู้ภาพของชีวิตมหาวิทยาลัยอเมริกัน ผ่านทางสื่อทีวีและภาพยนตร์ว่านักศึกษารักการปาร์ตี้ และแทบจะจัดปาร์ตี้เมาสุดเหวี่ยงกันทุกๆวัน แต่ขอยืนยันว่าถึงแม้ว่าจะมีขาปาร์ตี้อยู่เยอะ แต่ก็ไม่ได้กดดันขนาดที่เราจะต้องไปปาร์ตี้ให้ได้ ไม่ฉะนั้นจะไม่มีเพื่อน
สังคมอเมริกันเคารพในความคิดของแต่ละคน เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากไปครั้งไหนเราก็ไป แต่ถ้าไม่อยากไป พวกเขาก็ยอมรับและชวนครั้งหน้าแทน ไม่ได้ผิดใจอะไรกัน
ข้อ 4 ชีวิตนักศึกษา นอกจากการเรียนนั้นน่าเบื่อ
นักศึกษาต่างชาติอาจจะเบื่อถ้าเรียนอย่างเดียว แต่มหาวิทยาลัยในอเมริกันนั้นมีกิจกรรมอะไรๆให้ทำอีกเยอะมาก ตัวอย่างเช่นตัวเขาเองจบ Brown University ก็ได้เป็นทั้งสมาชิกกลุ่มคอมพิวเตอร์ ช่างภาพ และสมาชิกงานสาธารณสุข
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ทั้งการเข้าชมรม การท่องเที่ยว หรือกิจกรรมกีฬาที่คนอเมริกันจะนิยมเป็นพิเศษ เรียกว่างานแข่งกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย ยิ่งใหญ่กว่างานแข่งกีฬาระดับชาติบ้านเราบางประเภทซะอีกล่ะ
ข้อ 5 ทุกคนต้องเลือกสาขาวิชาหลัก (Major)
สำหรับนักศึกษาที่ไปเรียนต่อ แล้วคิดว่าถ้าตัวเองไม่ชอบจะต้องซิ่วใหม่เปลี่ยนสาขานั้น ที่จริงแล้วมหาวิทยาลัยอเมริกันจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทดลองเรียนในวิชาต่างๆไปก่อน หลังจากนั้นพอผ่านไปสัก 1-2 ปีแล้วจึงค่อยลงเรียนตัวหลักสูตร (Major) เพื่อเจาะลึกตามสาขาของตนเอง
เหตุผลก็คือ นักศึกษาจะได้มีโอกาสค้นพบตัวเองว่าเราชอบอะไรกันแน่ เราอาจจะลงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ แต่ต้องการค้นพบว่าตัวเองชอบวิศวกรรมสาขาอะไร ก็จะได้ลองเรียนกว้างๆเพื่อค้นหาตัวตนให้พบก่อนนั่นเอง
ข้อมูลจาก: usnews