ระวังตัวให้ดี!? เรื่องจริงของ 5 ฆาตกรโรคจิตที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้

Nikolai Dzhumagaliev : นิโคไล เซอร์มากาเลฟ มีหลายอย่างคล้ายคลึงกับฮานนิบาล เล็คเตอร์ ฆาตกรโรคจิต ชื่อดังในภาพยนตร์ ยกเว้นเพียงแต่เขามีฟันเหล็กเป็นสัญลักษณ์ นิโคไลเริ่มฆ่าคนในปี 1980 ที่คาซัคสถาน ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ฆาตกรใจโหดรายนี้ล่อหญิงสาวเข้าไปในป่าแล้วฆ่าข่มขืน จากนั้นก็ใช้เหล็กแหลม ๆ ทำการชำแหละเนื้อสาว ๆ มากินสดหรือปรุงรส เขาถูกจับในเวลาต่อมา แต่ศาลตัดสินว่า เขาบ้าเลยไม่ต้องรับผิด นิโคไลถูกส่งตัวไปบำบัดที่โรงพยาบาลบ้าและถูกปล่อยตัวออกมาในปี 1994 โดยไม่ถูกดำเนินคดีเลยแม้แต่น้อย กล่าวกันว่าตลอดระยะเวลา 10 ปี เขาฆ่าผู้หญิงไปไม่ต่ำกว่า 50 – 100 ราย

Karla Homolka : คาร์ล่า โฮมอลก้า คือภรรยาของ พอล เบอร์นาร์โด้ ดูผิวเผินทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่เหมาะสม กันยิ่งนัก เพราะวิปริตทั้งคู่!? คาร์ล่ามีประวัติชอบเซ็กส์วิตถาร ส่วนเบอร์นาโด้ก็โรคจิตเข้าเส้น เขาลงมือข่มขืนน้องสาวแท้ ๆ ของตน นอกจากนี้คาร์ล่ายังร่วมมือกับสามีขณะฆ่าเด็กสาววัยรุ่นอีก 2 คน โดยถ่ายวิดีโอเทปเก็บภาพทุกอิริยาบทของเหยื่อไว้ ก่อนฆ่าเหยื่อแล้วน้ำศพไปทิ้ง ต่อมา คาร์ล่าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจเนื่องจากทนไม่ได้กับการที่ต้องถูกสามีทุบ ตี คาร์ล่าเจรจากับศาลจนถูกกันตัวเป็นพยานชี้ความผิดเบอร์นาโต้ ทำให้สามีของเธอถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคาร์ล่าถูกลดหย่อนโทษเหลือเพียงจำคุก 12 ปี จนกระทั่งในปี 2007 คาร์ล่าพ้นโทษ เธอเปลี่ยนชื่อ และพาลูกชายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

Juha Valjakkala : ในวันที่ 3 กรกฎาคม 1988 ยูฮา วาลยัคคาล่า คือลูกครึ่งสวีเดน-ฟินแลนด์ เขาคิดว่าชีวิตจริง จะคล้ายคลึงกับเกม GTA เขาเลยขโมยจักรยานสองล้อ ก่อนถูกพบเห็นโดยเจ้าของ สเตน นีลสัน และ เฟรดริค ลูกชายวัย 15 ปี ด้วยความโกรธ โจรรายนี้เลยชักปืนยิงสองพ่อลูกจนถึงแก่ความตาย หลังจากนั้นไม่นานเขา ถูกตำรวจจับได้ แต่ว่าศาลกลับตัดสินให้วาลยัคคาล่าเป็นบุคคลที่ป่วยทางจิต เขากลับเนื้อกลับตัว และทำการรักษา จนหายป่วย หลังจากนั้น 19 ปี เขาขึ้นศาลอีกครั้งและคราวนี้ถูกลงโทษด้วยการจำคุกตลอดชีวิต แต่เขาก็ถูก ปล่อยตัวออกมาไม่นานหลังจากขอทัณฑ์บนแบบไม่ยากเย็นนัก กล่าวกันว่าหลังจากออกจากคุก มีคนพบเห็น เขายึดอาชีพขับ Taxi อยู่ ซึ่งก็ไม่อาจรับประกันได้ว่า ฆาตกรรายนี้กลับใจเป็นคนดีจริง ๆ แล้วหรือยัง?

Pedro Lopez : ฆาตกรต่อเนื่องที่กล่าวได้ว่าสังหารผู้คนไป 300 ศพ เขาออกเดินสายเพื่อสังหารผู้คนในอเมริกาใต้สามประเทศ ได้แก่ เปรู โคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ ในช่วงทศวรรษที่ 70 – 80 เหยื่อของเขามักเป็นเด็กที่ถูกข่มขืนก่อนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ต่อมา โลเปซถูกจับที่ประเทศเอกวาดอร์ แต่เนื่องจากประเทศแห่งนี้ไม่มีโทษประหารชีวิต เขาจึงถูกดำเนินคดีด้วยโทษสูงสุดด้วยการจำถูกคุกเพียง 20 ปี (นี่คือโทษสูงสุดของประเทศเอกวาดอร์) ก่อนถูกเนรเทศตัวกลับไปดำเนินคดีต่อที่ประเทศโคลอมเบียในปี 1998 และถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในปีต่อมา มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจยังอยู่ที่เอกวาดอร์ เนื่องจากเขาเคยกล่าวว่าเด็กผู้หญิงเอกวาดอร์ สุภาพเรียบร้อย ไร้เดียงสาและหลอกง่าย และจากรายงานของตำรวจในปี 2002 พบเห็นเขาที่ค่ายอพยนในประเทศอาร์เจนติน่าและมีแนวโน้มว่าเขาอาจหนีไป อเมริกา

Issei Sagawa : อิสเซ ซากาวะ เป็นชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่ดูท่าทางอ่อนแอ เขาชื่นชอบวรรณกรรม และได้พบรัก กับสาวสวยชาวเนเธอร์แลนด์ คือ เรเน่ ฮาร์เทเวธ อย่างไรก็ตามฝ่ายหญิงไม่ได้มีใจให้ซากาวะ หล่อนคิดว่าเขา เป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น เนื่องจากรับไม่ได้กับความวิปริตของซากาวะ เรเน่ถูกซากาวะฆ่าในวันที่ 11 มิถุนายน 1981 เธอถูกยิงเข้าที่ศรีษะ ก่อนถูกซากาวะข่มขืนจนหนำใจ และชำแหละเนื้อของเธอมาปรุงอาหารหรือกินแบบดิบ ๆ จนกระทั่งถูกตำรวจฝรั่งเศสจับตัวได้พร้อมศพของเรเน่ที่กำลังเน่า ด้วยความผิดของเขาย่อมหมายถึงว่าจะต้องโทษ ประหารชีวิตก็ไม่แปลก แต่พ่อของซากาวะได้ใช้เงินและวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือลูกชายจนหลุดคดี ซากาวะถูกส่ง ไปบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชเพียงปีเศษ ก่อนถูกปล่อยตัว เขากลับไปที่ประเทศญี่ปุ่นราวกับคนดัง เขากลายเป็นดาราหนังโป๊ นักวิจารณ์อาหาร และใช้ชีวิตปกติราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น