หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ปวดหลัง” แก้ได้แค่เปลี่ยนพฤติกรรม

โพสท์โดย ห่ะไรนะ

แฟ้มภาพ

ปัจจุบันนี้โรคปวดหลังไม่ได้พบเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มพบในคนวัยทำงาน รวมไปถึงวัยรุ่นเพิ่มสูงมากขึ้น อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต การทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป

สำหรับใครที่ต้องเผชิญกับอาการปวดหลังอยู่เป็นประจำ วันนี้ทีมเว็บไซต์ สสส. เรามีเคล็ดลับถนอมกระดูกสันหลังมาฝากกัน

เกี่ยวกับปัญหาอาการปวดหลังที่ว่านี้ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ภาควิชาออร์โทปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดเนื่องมาจากกระบวนการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังและบริเวณข้อต่อของกระดูกสันหลัง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นหมอนรองกระดูกจะเกิดการเสื่อม ปริมาณน้ำที่อยู่ภายในหมอนรองกระดูกจะลดปริมาณลง ทำให้ความยืดหยุ่นและการทำงานของหมอนรองกระดูกไม่ดี รวมถึงการเสื่อมของข้อต่อกระดูกสันหลัง นอกจากนี้เรื่องของพฤติกรรมต่างๆ ทั้งในเรื่องของการนั่ง การนอน การทำงาน ก็มีผลโดยตรงกับอาการปวดหลัง

เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและสรีระที่ดี รวมไปถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับอิริยาบถต่างๆ ผศ.นพ.ธนินนิตย์  ได้บอกถึงสาเหตุ พร้อมแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดหลัง ดังนี้

 1.นั่งไม่ถูกวิธี 

เราควรนั่งให้ชิดขอบในของเก้าอี้โดยหลังไม่โก่งและให้หลังชิดพนักพิง ระดับความสูงของเก้าอี้นั่งให้เท้าแตะพื้น รองรับก้นและโคนขาได้ทั้งหมด ในกรณีที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิงหลัง เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหดเกร็งอยู่ตลอดเวลาเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของอาการปวดหลัง

ขณะเดียวกันไม่ควรนั่งกับพื้นทั้งในท่านั่งขัดสมาธิ คุกเข่า และพับเพียบ เพราะจะทำให้น้ำหนักส่วนใหญ่ไปลงที่กระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอว ทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากและทำให้ปวดหลังเพิ่มมากขึ้น

ส่วนการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น ผศ.นพ.ธนินนิตย์ แนะนำว่า 1.ต้องนั่งหลังตรง เพื่อลดอาการตึงที่ช่วงหลัง วางเท้าให้ราบไปกับพื้นทั้งสองข้าง ถ้านั่งไขว่ห้างหรือวางขาไว้ข้างเดียวก็จะส่งผลในเรื่องความดันที่ส่งลงไปที่ขา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

2.ปรับระดับหน้าจอให้อยู่ตรงหน้าพอดี ให้สายตามองตรงไปด้านหน้า ไม่เงย ไม่ก้ม จะช่วยลดอาการตึงหรือเมื่อยล้าบริเวณกล้ามเนื้อช่วงคอและไหล่ได้ และ 3.ช่วงแขนที่ใช้งานพิมพ์คีย์บอร์ดให้เก็บศอกใกล้ตัว เพื่อช่วยผ่อนคลายหัวไหล่และแขน ลดอาการตึงและเมื่อยล้าจากงานได้ ที่สำคัญควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้นยืดสายทุกๆ 30-45 นาที

2.ยกของผิดท่า

การยกของจากพื้นไม่ควรใช้วิธีก้มหลัง แต่ควรใช้วิธีย่อเข่าและหลังตรงแทน เพราะกล้ามเนื้อหลังจะเป็นส่วนออกแรง ทำให้เกิดอาการอักเสบได้ ดังนั้นควรย่อเข่าลงนั่ง ยกของให้ชิดตัว แล้วลุกด้วยกำลังขา ขณะเดียวกันควรหลีกเลี่ยงการก้มตัวทำงาน เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังบริเวณส่วนเอวรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

3.น้ำหนักตัวเกิน

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปทำให้มีอาการปวดหลังได้ เนื่องจากจะทำให้ข้อต่อของกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูกสันหลังรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น มีผลทำให้เกิดการเสื่อมและการอักเสบเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราควรรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นและกระดูกสันหลังแข็งแรงมากขึ้น

4. นอนคว่ำสาเหตุอาการปวดหลัง

หลายๆ คนชอบนอนคว่ำ เวลานั่งเล่นคอมพิวเตอร์ หรือเวลาอ่านหนังสือ หารู้ไม่ว่าการนอนคว่ำนั้น เป็นทำร้ายกระดูกสันหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว เนื่องจากเวลาเรานอนคว่ำจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่น และอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหลังได้ สำหรับใครที่ชอบไปนวดแผนโบราณ ก็ไม่ควรนอนคว่ำแล้วให้นวดหลัง เพราะจะทำให้หลังแอ่นและมีอาการปวดเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ส่วนใครที่ชอบนอนเอียงตัวหรือนอนตะแคง ผศ.นพ.ธนินนิตย์ บอกว่า ท่าในการนอนที่ดีที่สุด คือการนอนหงาย ส่วนการนอนตะแคงนั้น จะส่งผลกระทบกับกระดูกโดยตรง เนื่องจากเป็นท่าที่ทำให้บริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่างลงไปถึงช่วงขาถูกกดทับ ดังนั้นควรหาหมอนข้างหรือหมอนใบเล็กๆ มาวางแทรกไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อรับน้ำหนักและช่วยป้องกันการกดทับ

5.งดสูบบุหรี่

สารนิโคตินในบุหรี่มีผลทำให้หมอนรองกระดูกขาดออกซิเจน เกิดกระบวนการเสื่อมเร็วมากกว่าปกติและยุบตัวเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลังมากกว่าคนทั่วไป จึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพื่อลดการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้น

อาการปวดหลังสามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ ถ้าหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายที่ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคปวดหลังได้

 

เรื่องโดย : นายฉัตร์ชัย นกดี team content www.thaihealth.or.th

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

ที่มา:http://www.thaihealth.or.th/Content/30728-
%E2%80%9C%E0%B8%9B%E0%B8%A7%
E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E
0%B8%B1%E0%B8%87%E2%80%9D%20%
E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B
9%89%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%
89%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88
%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0
%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8
%99%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%95%
E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B
8%A3%E0%B8%A1.html
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ห่ะไรนะ's profile


โพสท์โดย: ห่ะไรนะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
VOTED: ยัยแว่นโก๊ะ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไวรัลแรง สาวสวยพูดตรง "ทำไมฉันถึงเกลียดวัฒนธรรมเกาหลี" คอมเมนต์สนั่นทั้งเกาหลี-ต่างชาติสาวเจอห้องลับสุดหลอน ในอพาร์เมนต์ที่เช่าอยู่คู่รักคนไทยเตรียมถูกประหๅรที่อินโด หลังลักลอบขนยาเสwติดเข้าประเทศ"เขมร" โชว์หลักฐาน เคลมสิทธิ์ 'หมูเด้ง' กำเนิดจากสวนสัตว์กัมพูชา มัมหมีลุ้นตอบกลับคุณดิวออกมาชี้แจง ถึงประเด็นดราม่า "พู่กัน ปอ"ทหารไนจีเรียสังหๅรโจร 4 ราย ก่อนช่วยตัวประกัน 20 รายไวรัลร้อน สาวลูกครึ่งเกาหลี-ฟิลิปปินส์เปิดใจ "ทำไมฉันไม่ชอบบอกว่าฉันเป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์" คอมเมนต์เดือดทั่วโซเชียลติดตามสถานการณ์ "พายุดีเปรสชัน" ฉบับที่ 6 ที่มีแนวโน้มจะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนทีมแพทย์ญี่ปุ่นคว้ารางวัลทางวิทยาศาสตร์ จากการวิจัยว่ามนุษย์หายใจทางก้นได้อย่างไรเขมรไม่รอด! โดนน้ำท่วมตามเพื่อนบ้าน!ยายเมาเหล้าร้องโวยวายลั่นบ้านตอนกลางคืน จนหลานไม่ได้หลับไม่ได้นอน ร้องไห้กลัวเสียง 😢คุณคิดว่า“อยู่ก่อนแต่ง-แต่งก่อนอยู่” ...ใครเสี่ยง ‘ม่าย’ สูงกว่ากัน?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทีมแพทย์ญี่ปุ่นคว้ารางวัลทางวิทยาศาสตร์ จากการวิจัยว่ามนุษย์หายใจทางก้นได้อย่างไรฝรั่งงง โครงสร้างพื้นฐานกรุงเทพฯ สุดล้ำ สะอาดกว่าใต้ดินนิวยอร์ก แถมบอกไทยไม่ด้อยพัฒนาความสูงที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม😮 หากถ้าคุณต้องมาพบเจอกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดและโชคร้าย 😶EA บอกว่าไม่มีแผนจะสร้าง The Sims 5 ตอนนี้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ฮิปโปถือเป็นสัตว์ที่อันตรายที่สุดชนิดหนึ่งในแอฟริกาทำไมลูเซียสจึงแปรพักตร์ ในช่วงนาทีสุดท้ายของสงคราม!ซลักฮอร์นละอายใจ หรือหวาดกลัวมากกว่ากัน!ไวรัลร้อน สาวลูกครึ่งเกาหลี-ฟิลิปปินส์เปิดใจ "ทำไมฉันไม่ชอบบอกว่าฉันเป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์" คอมเมนต์เดือดทั่วโซเชียล
ตั้งกระทู้ใหม่