[Reviewed] บทวิจารณ์ ชูริเคนเซนไต นินนินเจอร์ : เมื่อสูตรสำเร็จถูกนำมาใช้อีกครั้ง

ชื่อเรื่อง : ชูริเคนเซนไต นินนินเจอร์ (手裏剣戦隊ニンニンジャー)
วันที่ฉาย : 22 กุมภาพันธ์ 2015 - 7 กุมภาพันธ์ 2016 ทางสถานีโทรทัศน์ TV-ASAHI
ทีมงานผู้เกี่ยวข้อง : เคนโตะ ชิโมะยามะ, โนบุฮิโระ โมริ (เขียนบท) / โชจิโร่ นาคาซาว่า, ฮิโรยูกิ คาโต้, คัทสึยะ วาตานะเบะ, โนโบรุ ทาเคะโมโต้, โอซามุ คาเนดะ (กำกับ)
นำแสดงโดย : ชุนสุเกะ นิชิคาวะ, กาคุ มัทสึโมโตะ, ไคโตะ นาคามูระ, ยูกะ ยาโนะ, ยามายะ คาสุมิ และ ฮิเดยะ ทาวาดะ
จำนวนตอน : 47 ตอน
======================================================
คลิกเพื่อชมเพลงเปิด
แม้นแฝงกาย แต่หาได้ซ่อนตัวไม่
忍びなれども忍ばない
เรื่องย่อ :
นานนับศตวรรษแล้วที่สงครามของโลกนินจาระหว่างจอมมาร "คิบะโอนิ เก็นเง็ทสึ" กับตระกูลนินจาผู้ปกป้องโลก "สำนักนินจา ตระกูลอิงาซากิ" ได้เปิดศึกใส่กัน ซึ่งชัยชนะได้ตกเป็นของตระกูลนินจาที่นำโดยลาสนินจา "โยชิทากะ อิงาซากิ" ได้ใช้พลังจากนินชูริเคนที่เรียกว่าดาวกระจายสิ้นสูญ หรือเอนด์ชูริเคนเข้าผนึกวิญญานของคิบะโอนิได้เป็นผลสำเร็จ ความสงบสุขเลยเริ่มต้นนับจากวันนั้นเป็นต้นมา
สามชั่วคนผ่านไป คิบะโอนิถูกปลดผนึกออกมาอีกครั้งด้วยฝีมือของลูกศิษย์นินจาในสำนักอิงาซากิอย่าง "อิซาโย่ย คิวเอม่อน" ที่แอบแฝงตัวเข้ามาเป็นเวลานานแล้ว และผู้ที่จะสามารถจัดการกับวิญญานของคิบะโอนิได้ ก็มีเพียงลูกหลานของตระกูลอิงาซากิเท่านั้น ลูกชายของลาสนินจาอย่าง "สึมุจิ อิงาซากิ" เลยทำการรวบรวมเหล่านินจาตระกูลอิงาซากิรุ่นล่าสุดให้มารวมตัวกันเพื่อกลายเป็นขบวนการนินจาดาวกระจาย นินนินเจอร์ ที่ประกอบไปด้วยนินจาหนุ่มไฟแรงผู้เป็นลูกชายของสึมุจิเอง "ทาคาฮารุ อิงาซากิ", ลูกสาวของสึมุจิอีกคน "ฟูกะ อิงาซากิ", นักเรียนเวทมนต์จากอังกฤษ "คาโตะ ยาคุโมะ", นักศึกษามหาวิทยาลัยอัจฉริยะ "โมโมะจิ คาสุมิ" และเด็กมัธยมปลาย"มัทสึโอะ นากิ" โดยทั้งห้าคนเป็นลูกหลานของโยชิทากะด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งในภายหลังก็มี "คินจิ ทาคิงาวะ" นักล่าผีผู้ศรัทธาในตัวโยชิทากะอย่างแรงกล้าเข้ามาร่วมทีมด้วยอีกคน
หกนินจารุ่นใหม่จึงต้องรับหน้าที่ปกป้องโลกจากคิบะโอนิ รวมไปถึงศึกษาวิชานินจาใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับวิกฤติที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังต้องฝึกตนเพื่อที่จะกลายเป็นสุดยอดนินจา "ลาสนินจา" หรือผู้ครอบครองเอนด์ชูริเคนคนล่าสุดให้ได้
======================================================
เบื้องหลัง :
"ชิฮิโระ อิโนะอุเอะ" โปรดิวเซอร์ของทีวีอาซาฮีได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวเอาไว้ว่า นี่คือซุปเปอร์เซนไตที่เน้นความสนุกสนานในธีมของวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยมี "นินจา" เป็นสื่อกลาง ทั้งองค์ประกอบทางด้านเนื้อหา ดนตรีประกอบ รวมไปถึงกิมมิคต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการดำเนินเรื่องก็จะนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของชาติได้อย่างชัดเจน และประเด็นที่สองที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ก็คือการสร้างตัวละครที่ "เข้าถึงทุกคน" โดยมีทั้งนักแสดงที่เป็นคนรุ่นปู่ รุ่นพ่อ ไปจนถึงรุ่นหลานมาร่วมแสดง
======================================================
ภาพรวม :
"ชูริเคนเซนไต นินนินเจอร์" คือขบวนการซุปเปอร์เซนไตที่ดึงเอาธีมหลัก ๆ ของซุปเปอร์เซนไตซีรี่ส์เรื่องก่อนหน้ามาใช้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นธีมหลักอย่างนินจา (คาคุเรนเจอร์/เฮอริเคนเจอร์), ธีมพี่น้อง-ครอบครัว (ไฟว์แมน, มาจิเรนเจอร์), ธีมสนุกสนานเฮฮา (คาร์เรนเจอร์) อีกทั้งแมชชีนของนินจาทั้งห้าเองก็สื่อถึงความเป็นมิกซ์คัลเจอร์แบบสุด ๆ (หุ่นนินจา - จิตวิญญานญี่ปุ่น / หุ่นหมา - ความน่ารัก / รถไฟ+รถบรรทุก - ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีญี่ปุ่น / หุ่นมังกร - สัตว์ในตำนานของตะวันตก และหุ่นคาวบอย - อเมริกา) ซึ่งถ้าเราแค่อ่านเฉย ๆ คงนึกภาพไม่ออกเลยว่าการจับเอาทุกอย่างมารวมกันโดยไม่มีจุดต่างกันนับว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผู้สร้างพอสมควร
ถึงโจทย์จะยากแบบนั้น ทีมงานก็ยังออกแบบสิ่งที่ต้องดึงเอาเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ต่าง ๆ มารวมกันได้อย่างลงตัวสมกับที่ตั้งคอนเซ็ปท์เอาไว้ว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ของซีรี่ส์นินจาที่ไม่ได้แฝงกายอยู่แค่ในเงามืดอีกต่อไป จากจุดนี้ผู้ชมเองก็ตั้งความหวังเอาไว้สูงพอสมควรครับว่าการกลับมาของซุปเปอร์เซนไตที่ใช้นินจาเป็นตัวดำเนินเรื่องจะต้องสนุกไม่แพ้สองเรื่องก่อนหน้าอย่างแน่นอน แต่ทว่า
======================================================
บทวิจารณ์ :
อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณดูหนังแปลงร่างห้าสี? การออกแบบ, นักแสดง, เนื้อหา รวมไปถึงสเปเชี่ยลเอฟเฟคที่อลังการ ทุกข้อที่กล่าวมานั้นเป็นส่วนประกอบที่อยู่ในขบวนการเซนไตเรื่องนี้ครับ แต่สิ่งที่อ่อนแอที่สุด และเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดกลับเป็นส่วนของ "เนื้อหา" ที่ขาดทั้ง "ความต่อเนื่อง - แรงกระตุ้น - และความน่าติดตาม" ไปซะดื้อ ๆ
"ความต่อเนื่อง"
นินนินเจอร์เปิดตัวด้วยพล็อตอมตะของหนังแปลงร่างเลย ที่ว่าถึงคนรุ่นก่อนแค่ผนึกเหล่าร้ายไว้ในอดีต พอวันนี้ผนึกเกิดเสื่อมขึ้นมาหรือมีลูกน้องมาปลดผนึกออก ก็ต้องให้ลูกหลานมาสู้เพื่อจัดการกับสิ่งที่คนรุ่นปู่ทิ้งเอาไว้ สิ่งที่นินนินเจอร์ได้ปูทางก็คือการสะสมเอานินชูริเคนที่ใช้ผนึกคิบะโอนิมาตอนละหนึ่งดวง แต่พอดำเนินเรื่องไปซักระยะ(ขายของหมดแล้ว) นินชูริเคนกลับหมดความหมายไปซะดื้อ ๆ
หรือแม้แต่การดำเนินเนื้อหาในบางตอนที่น่าจะสานต่ออะไรให้มันไปได้ไกลมากกว่า 1 ตอน ก็กลับตัดให้เหลือสั้น ๆ โดยไม่ทิ้งเชื้ออะไรเอาไว้ให้คิดต่อเลยแม้แต่น้อย (ก็อย่างว่า นี่หนังเด็กนี่นา อย่าไปคิดมากเลย)
"แรงกระตุ้น"
หากติดตามกันตั้งแต่ตอนที่ 1 จะพบว่าตัวละครต่าง ๆ ไม่ค่อยจะมีปูมหลังอะไรมากมายเท่าไหร่ เปิดหน้ามายังไงก็เป็นอย่างงั้นไปจนจบเรื่อง ยิ่งการตีกรอบว่าเป็นคนในสายเลือดเดียวกันก็ทำให้การฉีกบททำได้ยาก แม้แต่การเปิดตัวสตาร์นินเจอร์ หรือคินจิในช่วงต้นเรื่องที่เรียกได้ว่าค่อนข้างเร็ว (ราว ๆ ตอนที่ 6 - 7) เพื่อทำให้มีประเด็นเรื่องความแตกต่างเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นประเด็นที่สำคัญมากมายเท่าไหร่นัก ถึงช่วงหลัง ๆ หมอนี่จะเป็นตัวละครที่มีความเชื่อมโยงกับคิวเอมอนอยู่ก็ตามที แต่ก็ถูกปูทางให้สั้นมาก ๆ จนขาดความน่าสนใจไป
"ความน่าติดตาม"
ช่วง 25 ตอนแรกเป็นอะไรที่เข้าท่าครับ มีการเปิดตัวคู่ปรับสำคัญของอะคานินเจอร์ให้พวกเราได้ลุ้นกันว่าจะปิดฉากกันยังไง หรือการที่คินจิถูกไล่ออกจากการเป็นศิษย์ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดี อีกทั้งการดึงเอารุ่นพี่นินจา คาคุเรนเจอร์ - เฮอริเคนเจอร์ และจิไรยะ มาร่วมแจมก็ช่วยเพิ่มความน่าติดตามให้กับคนรุ่นก่อนหน้าได้สุด ๆ ยิ่งในตอนที่พวกรุ่นพี่มาก็ทำได้ดีงามสมกับเป็นการรวมรุ่นนินจาอีกครั้ง (ตอนที่ 34 ถ้าหากได้ชมก็จะพบว่าทั้งดนตรีประกอบ รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ถูกจัดมาเต็ม)
แต่ก็แค่ช่วงครึ่งเรื่องแรกเท่านั้นล่ะครับที่น่าสนใจ เพราะหลังจากทุกอย่างมาครบ ก็เหมือนเนื้อหาจะเริ่มอิ่มตัวและเป็นไปในแนว "ออกทะเล" ซะส่วนใหญ่ มีบางตอนที่สนุกจริง ๆ แต่บางตอนก็เหมือนจะมีส่ง ๆ ไปงั้น ไอ้การตามหาวิชาใหม่จากนินชูริเคนก็ไม่มีการขุดขึ้นมาพูดกันแล้ว ศัตรูระดับบอสเก่ง ๆ ก็ไม่มีออกมา ในขณะที่มาตรฐานอื่นก็ไม่ได้ตกลงไปนะครับ จะมีก็แต่ส่วนของเนื้อหาที่อ่อนเกินไปในครึ่งหลังนั่นล่ะ
======================================================
สรุป :
ถ้าหากผมดูนินนินเจอร์โดยอาศัยองค์ประกอบที่กล่าวเอาไว้ในบทวิจารณ์ข้างต้น (การออกแบบ, นักแสดง, เนื้อหา และสเปเชี่ยลเอฟเฟค) ถือว่าผู้สร้างทำได้ไม่เลวเลยในแง่ของความสร้างสรรค์และการใส่ใจในองค์ประกอบของการออกแบบซีรี่ส์ แต่จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดก็คือการเอาธีมเก่ามาใช้มากเกินไปจนทำให้แฟนรุ่นเก่าที่ติดตามมานานเกิดอิ่มตัว รวมไปถึงเนื้อหาในช่วงหลังที่ขาดแรงจูงใจจนไม่อยากจะติดตามต่อแบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ก็ทำให้แฟนซุปเปอร์เซนไตซีรี่ส์ที่ติดตามมานานเลิกดูไปเลยก็มี
แต่ถ้าในแง่มุมของการสื่อสารมายังผู้ชมที่เป็นเด็ก ผมขอยกนิ้วให้เลยครับว่าเป็นซีรี่ส์ที่ผูกเอาความหลากหลายของวัฒนธรรมเข้าด้วยกันแบบที่เราซึมซับมันโดยไม่รู้ตัว เพราะในเรื่องนั้นไม่ได้กล่าวถึงการเป็นลูกหลานนินจาเพียงอย่างเดียว แต่กล่าวถึงประเด็นของศิษย์ - อาจารย์ หรือ "ชูฮะริ" (守破離) เอาไว้อย่างแยบยล
ชูฮะริ (守破離) คืออะไร? :
ชูฮาริคือหลักของการเรียนรู้เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นสุดยอดในสายวิชาต่าง ๆ
ชู (守) - เชื่อฟัง : หลักเบื้องต้นของการเรียนรู้ระหว่างศิษย์และอาจารย์
ฮะ (破) - นอกกรอบ : เรียนรู้และสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ทะลุออกไปจากกรอบที่ถูกตีเอาไว้
ริ (離) - แยกจาก : แสวงหาเส้นทางของตน โดยอาศัยหลักจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปสองข้อข้างต้น
ซึ่งในเรื่องนั้นนินจาทั้งหกได้สร้างแนวทางใหม่ของการเป็นนินจา รวมไปถึงวิชานินจาแปลก ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมามากมาย และที่กล่าวไปก็เป็นสิ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้ในซีรี่ส์นี้นั่นเองครับ
หากมีโอกาสได้ชม แนะนำว่าให้ดูรวดเดียวจบเลยจะดีกว่า เพราะเนื้อหาบางตอนก็ชวนหลับจริง ๆ มีหลายคนถามว่าถ้าหากเทียบกับเรื่องที่ผ่าน ๆ มาแล้วเรื่องนี้แย่แค่ไหน ผมมองว่ามันก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากันเท่าไหร่นะ เพราะหลัง ๆ ขบวนการซุปเปอร์เซนไตก็ไม่ค่อยเน้นความดุเดือดในการดำเรื่องมาพักใหญ่ ๆ แล้วตั้งแต่ชินเคนเจอร์ หรือโกบัสเตอร์ กลับกันเรื่องนี้มีจุดเด่นในแง่ของการออกแบบที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่าจะเป็นการขุดเอามุกเก่ามาหากินก็ตามทีเถอะ

คะแนนความน่าติดตาม : 6 / 10
======================================================
เกร็ดเรื่องที่น่าสนใจ :
• เป็นธีมนินจาอีกครั้ง (รอบที่สาม) และเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของการสร้างเซนไตซีรี่ส์อย่างเป็นทางการ
• คำว่า นินนิน นำมาจากคำพูดติดปากของ "นินจาฮัตโตริ"
• เรื่องเดียวในธีมนินจาที่มีนักรบสีชมพู และเรื่องเดียวทีมีนักรบนินจาหญิง(คุโนะอิจิ) 2 คน และนักรบหญิงเป็นสีขาวและชมพูเหมือนกันกับเชนจ์แมน
• สีแดง น้ำเงิน และเหลือง 3 สีหลักของแม่สีล้วนแล้วแต่เป็นนักรบชาย(จากที่สิ้นสุดที่กาโอเรนเจอร์) และสีเหลืองกลับมาเป็นนักรบชายอีกครั้งในรอบ 10 ปี
• เรื่องแรกที่ฝั่งเซนไทและฝั่งศัตรูใช้อุปกรณ์ร่วมกัน(นินชูริเคน)
• เรื่องแรกที่ตัวแมชชีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธีมเดียว(มีทั้ง นินจา ช้าง ยูเอฟโอ)
• ชื่อของนักรบกลับมาใช้แบบยุคแรกอีกครั้ง(ชื่อสีเป็นภาษาญี่ปุ่น)
• ครอบครัวอิกาซากินั้น ได้นำชื่อมาจาก นินจาอิกะ ที่มีอยู่จริงในญี่ปุ่น
• นามสกุลของสมาชิกคนที่เหลือบางคนมาจากอดีตนินจาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น (คาโต้ และ โมโมจิ)
• ในฉากเรียนวิชานินจาทุกคนใช้โต๊ะญี่ปุ่นแล้วนั่งกับพื้น มีเพียงยาคุโมะที่นั่งโต๊ะแล็คเชอร์แบบสมัยใหม่
• อาจารย์สอนเวทย์มนตร์ของยาคุโมะ/อาโอนินเจอร์ คือ โอสุ สึบาสะ/มาจิเยลโล่(ซึ่งจะมีตอนครอสโอเวอร์กันในอนาคต)
• คิบะโอนิ แปลว่า เขี้ยวอสูร / โยไค แปลว่า ปีศาจ
• หน้ากากของขุนพลคิบะโอนิทั้ง 4 มาจากหน้ากากละครโนะของญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอก(อิซาโยอิคิวเอมอน)-นักรบ(กาบิไรโซ)-ตาแก่(สึโกโมริมาซาคาเกะ)-หญิงสาว(อาริอาเกะโนะคาตะ)
• หุ่นยนต์ตัวสุดท้ายของซีรีย์ประกอบร่าง 6 ส่วนเป็นครั้งแรก(เกคิอัตสึไดโอ) จากที่ผ่านมาจะประกอบแค่ 5 ส่วนแล้วนักรบคนที่ 6 มักถูกทิ้ง
• มีการครอสโอเวอร์กับนินจารุ่นพี่ทั้ง 2 ขบวนการ รวมถึงเป็นตอนฉลองครบรอบ 40 ปีเซนไทอย่างเป็นทางการด้วย(ชิโนบิที่ 7) และ ครอสโอเวอร์กับนินจาต่างสายอย่าง จิไรยะ(ชิโนบิที่ 34)
• คำเกริ่นนำในเพลงเปิดมีการเปลี่ยนแปลงด้วยถ้าหากตอนนั้นๆเป็นตอนครอสโอเวอร์
• ยามายะ คาสุมิ(โมโมนินเจอร์) เคยแสดงเป็น โคมากิ รุมิ จากหนังโรงมูฟวี่ไทเซนอัลติเมนทัม(พาร์ทโฟร์เซ๋) และ ฮิลด้า กอร์ดอน เฮอร์เรอร์หญิงในตำรวจอวกาศชาลีบันและไชเดอร์เน็กซ์เจเนอเรชั่นมาก่อน
• มาสึดะ เคนจิ ผู้ให้เสียง กาบิไรโซ เคยผ่านงานแสดง คาเมนไรเดอร์ฮิบิกิ(บท ซาอิซึฮาระ ซาโอมารุ/คาเมนไรเดอร์ซันกิ), จีโร่/การุรู จาก คาเมนไรเดอร์คิบะ, ชิจิมะ วาตารุ จาก กาโร่
• นักแสดงจากฝั่งพาวเวอร์เรนเจอร์มีมาเนียนเข้าฉากด้วยในตอนที่ 34 คือคุณ Yoshi Sudarso(บลูเรนเจอร์จากพาวเวอร์เรนเจอร์ไดโนชาร์ต)
• 22 กุมภาพันธ์ในวันที่ตอนแรกฉายนั้นได้ถูกตั้งให้เป็นวันนินจาแห่งชาติอย่างเป็นทางการด้วย
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
เศรษฐกิจรัสเซียกำลังหายใจรวยริน แต่ปูตินยังไม่คิดยกธงขาว
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้ง
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
"เบียร์ เดอะวอยซ์" แหวกอกใส่ชุดหนัง แต่พอหันหลังทำเอาหนุ่มๆ ตาโต
เปิดความลับ “เจสซี่” นางเอกหนังผู้ใหญ่ดาวรุ่ง ผู้ศัลยกรรม ‘สองลิ้น’ สร้างเสน่ห์สุดแปลกตา
เปิดวาร์ป "คินโจ ซาโอริ" แม่บ้าน F-Cup ที่มีหน้าตาคล้ายดารา สวยจนถูกสงสัยว่าเป็น "คนหรือ AI กันแน่
นางแบบลูกครึ่งหน้าใหม่ ผันตัวไปเป็นนางเอก A\/..งานนี้เทียบชั้นระดับตำนาน







