การเป็นบาทหลวงในศาสนาคริสต์
ในคริสตจักรโรมันคาทอลิก บาทหลวงหมายถึงบุรุษที่ได้รับศีลอนุกรม (เรียกอีกอย่างว่าศีลบวช) ขั้นที่ 2 คือขั้นบาทหลวง (priesthood) มีหน้าที่เป็นโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ ชาวคาทอลิกถือว่าบาทหลวงเป็นตัวแทนของพระเยซูและอัครทูตของพระองค์ ผู้ที่เป็นบาทหลวงในนิกายนี้ในพิธีบวชต้องปฏิญาณตน 3 อย่างชั่วชีวิต คือ 1. เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา 2. ถือโสด 3. ดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย หากบาทหลวงนั้นสังกัดคณะนักบวชคาทอลิก จะต้องปฏิญาณเพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ไม่ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินใด ชาวคาทอลิกจะเรียกบาทหลวงว่า “คุณพ่อ” (Father) เพราะถือว่าเป็นบิดาทางฝ่ายจิตวิญญาณ ที่คอยแนะนำสั่งสอนและให้พรต่าง ๆ เพื่อความเจริญฝ่ายจิตวิญญาณ
บาทหลวงในศาสนจักรคาทอลิกยังแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ บาทหลวงประจำมุขมณฑล (diocesan/secular priest) และบาทหลวงประจำคณะนักบวช (regular priest)
บาทหลวงประจำมุขมณฑลจะขึ้นตรงต่อมุขนายกประจำมุขมณฑล เมื่อบุรุษคนใดจะเป็นบาทหลวงประเภทนี้ จะต้องเข้ารับการอบรมที่เซมินารีจนครบตามเวลาที่กำหนด และจะได้รับศีลบวชเป็นลำดับขั้นไป จนถึงขั้นพันธบริกรจึงถือว่าเป็นเคลริก โดยสมบูรณ์ เมื่อได้รับศีลบวชขั้นบาทหลวงจึงได้เป็นบาทหลวง บาทหลวงประเภทนี้จะต้องทำงานให้กับมุขมณฑลตามคำสั่งของมุขนายกประจำมุขมณฑลที่ตนอยู่ (โดยมุขนายกประเภทมุขนายกปริมุขมณฑลอยู่ใต้การปกครองของมุขนายกมหานคร) ส่วนมุขนายกประจำมุขมณฑลจะขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปา
บาทหลวงประจำคณะนักบวชจะขึ้นตรงต่ออธิการ (abbot/superior) เมื่อบุคคลใดไม่ว่าชายหรือหญิงจะเข้าเป็นนักบวชจะต้องเข้าอบรมในอารามของคณะนักบวชในฐานะโปสตูลันต์ (postulant) เป็นเวลาประมาณ 6 เดือน จากนั้นเป็นโนวิซ' (novice) อีกประมาณ 2 ปี แล้วปฏิญาณถวายตัวชั่วคราวเป็นเวลา 1-3 ปี แล้วจึงทำการปฏิญาณถวายตัวตลอดชีพ เมื่อได้ปฏิญาณตนแล้วจึงถือว่าเป็นนักบวชในคณะโดยสมบูรณ์[1] หากเป็นนักบวชชายเรียก ภราดา หรือบราเดอร์ (brother) หากเป็นนักบวชหญิงเรียก ภคินีหรือซิสเตอร์ (sister)
นักบวชหญิงในนิกายคาทอลิกจะไม่มีสิทธิ์รับศีลบวช จึงมีสถานะสูงสุดที่ซิสเตอร์ ไม่สามารถเป็นบาทหลวงหญิงได้ แต่นักบวชชายสามารถรับศีลบวชเป็นบาทหลวงได้ เมื่อเป็นบาทหลวงแล้วก็ยังคงอยู่ในสังกัดคณะนักบวชอยู่ โดยมีอธิการเป็นหัวหน้า อธิการคณะจะขึ้นตรงต่ออัคราธิการ (superior general - บางคณะก็เรียกว่ามหาธิการ) อีกต่อหนึ่ง และอัคราธิการจะขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปาถ้าคณะนั้นเป็นสิทธิของพระสันตะปาปา (pontifical right) หรือขึ้นต่อมุขนายกประจำมุขมณฑลถ้าเป็นคณะที่เป็นสิทธิของมุขมณฑล (diocesan right)
บาทหลวงโรมันคาทอลิกชาวไทยคนแรก คือ บาทหลวงอันโตนีโอ ปินโต ลูกครึ่งโปรตุเกส-สยาม ศึกษาที่วิทยาลัยกลาง กรุงศรีอยุธยา เรียนจบแล้วไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโปรปากันดาฟีเด กรุงโรม รับศีลบวชขั้นบาทหลวงในปี ค.ศ. 1682 แล้วกลับมาปฏิบัติศาสนกิจที่สยามจนถึงแก่กรรมในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1696
นิกายออร์ทอดอกซ์
บาทหลวงในคริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์มีลักษณะคล้ายกับในคริสตจักรโรมันคาทอลิก คือเป็นนักบวชที่ผ่านการรับศีลบวช โดยในขั้นต้นต้องบวชเป็นพันธบริกรก่อน และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการประกอบพิธีกรรม เมื่อผ่านการฝึกฝนในลำดับต่อมาแล้วจึงจะรับศีลบวชขั้นบาทหลวงได้ และมีหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามที่กฎหมายศาสนจักรอนุญาต ข้อแตกต่างระหว่างทั้งสองคริสตจักรคือชายที่แต่งงานแล้วยังบวชเป็นบาทหลวงออร์ทอดอกซ์ได้ แต่จะแต่งงานหลังผ่านพิธีบวชไม่ได้ (ขณะที่คริสตจักรละตินไม่อนุญาตเลย) แต่กรณีขั้นบิชอป คริสตจักรออร์ทอดอกซ์จะอนุญาตเฉพาะบาทหลวงที่ถือโสดมาตลอดชีพเท่านั้นให้รับศีลบวชขั้นบิชอปได้
ชาวไทยคนแรกที่ได้บวชเป็นบาทหลวงออร์ทอดอกซ์ คือ บาทหลวงดาเนียล ดนัย วรรณะ สังกัดศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ซึ่งได้รับศีลบวชเป็นบาทหลวงเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ที่โบสถ์ตรีเอกานุภาพแห่งผู้มอบชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงมอสโก โดยมีบิชอปมาร์ค อีกาเรฟสกี้ เป็นผู้โปรดศีลบวช
ปุโรหิตในนิกายโปรเตสแตนต์
ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับของชาวโปรเตสแตนต์เรียกบาทหลวง (priest) ว่าปุโรหิต และถือว่าคริสตชนทุกคนเป็นปุโรหิตของพระเจ้าอยู่แล้ว ตามข้อความในพระธรรม 1 เปโตร ตอนหนึ่งความว่า
|
||
— เปโตร 2:9 |
จึงถือว่าคริสเตียนทุกคนเป็นผู้รับใช้พระเป็นเจ้าโดยเท่าเทียมกัน
นิกายแองกลิคัน
แม้ว่าคริสตจักรฝ่ายโปรเตสแตนต์ส่วนมากจะมีทัศนะข้างต้น แต่คริสตจักรในแองกลิคันคอมมิวเนียน (ทั้งที่เป็นโปรเตสแตนต์) ก็ถือจารีตคล้ายกับนิกายคาทอลิก ในนิกายนี้จึงมีปุโรหิตที่มีลักษณะอย่างบาทหลวง คือต้องผ่านการบวช (ordination) ซึ่งเรียกว่าการสถาปนาและยังมีการแต่งกายและหน้าที่ในศาสนพิธีคล้ายบาทหลวงโรมันคาทอลิก ปุโรหิตในนิกายแองกลิคันจึงเป็นนักบวช ไม่ใช่คริสตชนทุกคนดังที่คริสตจักรอื่น ๆ ในนิกายโปรเตสแตนต์ถือ
ข้อแตกต่างของนักบวชทั้งสองนิกายคือนิกายแองกลิคันอนุญาตให้นักบวชที่สังกัดมุขมณฑลแต่งงานได้ ขณะที่บาทหลวงคาทอลิก (ไม่ว่าสังกัดมุขมณฑลหรือสังกัดคณะนักบวช) มีกฎให้ต้องถือโสดตลอดชีวิต นอกจากนี้คริสตจักรส่วนใหญ่ในแองกลิคันคอมมิวเนียนยังอนุญาตให้บวชสตรีเป็นนักบวช (priest) ได้ ซึ่งเริ่มอนุญาตมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971
ชาวไทยคนแรกที่รับสถาปนาเป็นนักบวชแองกลิคันท้องถิ่น (local Anglican priest) คือ ศาสนาจารย์ไพโรจน์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ที่คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพฯ โดยมีศาสนาจารย์ อาร์ชบิชอป จอห์น ชิว (J้ohn Chew) เป็นผู้สถาปนา
จะเห็นได้ว่าการเป็นผู้รับใช้ศาสนาในศาสนาคริสต์มีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าการบวชเป็นพระของไทยมากนักเพราะจะได้เป็นการคัดกรองคนที่อยากรับใช้ศาสนาจริงจริงข่าวในทางด้านลบเกี่ยวกับบาทหลวงทัั้งในและต่างประเทศจึงแทบไม่มีให้เห็นเลยต่างจากของไทยที่มีข่าวฉาวเป็นรายวัน