แนะนำ 3 อาหารมื้อดึก กินดึกแค่ไหน ยังไงก็ไม่อ้วน!
สาวๆ ส่วนใหญ่มักคิดถึง " การจำกัด / ควบคุมอาหาร " เมื่อต้องไดเอท บางคนควบคุมมากถึงขั้น " อด " หิวแต่กินไม่ได้ สมองเบลอ มึนงงจนเรียนไม่ได้ ทำงานไม่รู้เรื่อง ก็ตามสูตรเขาให้กินแค่ไข่ฟองเดียวต่อวันเอง ก็ต้องทำตามเขาสิ ( เสียสุขภาพ คุ้มกันไหมนั่น )!
เพราะซิสต้าเข้าใจว่าเธออยากอิ่มท้อง แต่ก็ผอมลงไปด้วย เราจึงหาของกินง่ายๆ 3 อย่างที่จะช่วยให้เธอหายหิว ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ไม่ต้องเข้าครัวไปทอด ผัด แกงให้วุ่นวาย ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นแม้จะกินตอนกลางคืนก็ตามค่ะ♪
อะไรมันจะดีขนาดนั้น.. อยากรู้แล้วล่ะสิว่าเจ้าอาหารที่ว่านั่นคืออะไร
ถ้าอยากรู้ก็ตามมาเล้ย!
คงมีบางคนเคยได้ยินว่า “ตอนกลางคืนให้กินโยเกิร์ต” ( รสธรรมชาติ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยเท่านั้นนะ ไม่ใช่รสที่ใส่ผลไม้เชื่อมรัวๆ จนพลังงานเท่าข้าวเป็นจานๆ ) เพราะพลังงานต่ำ อิ่มท้องไปได้ทั้งคืน โดยแนะนำให้กินแบบ" อุ่นๆ " เพราะทำให้สบายท้อง ยิ่งถ้ากินช่วงอากาศหนาว ยิ่งฟิน!
ข้อดีของโยเกิร์ตคือมี " แคลเซียม " ในปริมาณสูงมากเพราะทำมาจากนม เมื่อกินโยเกิร์ตเข้าไป เจ้าแคลเซียมจะไปเกาะกับไขมันที่สะสมไว้ในร่างกาย จากนั้นก็จะถูกขับออกมาจากร่างกายในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ง่าย ทำให้เราไม่ท้องผูกไงล่ะคะ
ดังนั้น การกิน " โยเกิร์ต " จะช่วยให้คุณผู้หญิงที่กำลังลดน้ำหนักกันอยู่หลีกเลี่ยงปัญหาท้องผูกที่มักเกิดขึ้นตอนลดน้ำหนักได้นั่นเองค่ะ ♪
อาหารที่กินตอนกลางคืนได้ไม่มีอ้วนอย่างต่อมาคือ “ ไข่ต้ม ” ค่ะ !
ไข่ต้มเป็นอาหารที่ทำง่ายมาก แค่นำไปต้มเท่านั้น แต่กลับมีสารอาหารเยอะมาก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารเช่นโปรตีน แคลเซียม วิตามินและแร่ธาตุค่ะ
ตามปกติแล้ว ผู้ใหญ่ที่ไม่มีโรคความดันโลหิตสูง, โรคอ้วน, ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดสูง สามารถกินไข่ต้มได้ประมาณ 3-5 ฟองค่ะ ( แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรกินไข่แดงเยอะเกินไปนะคะ เน้นไข่ขาวจะดีกว่า เพราะมีแต่โปรตีนล้วนๆ ไม่มีไขมัน )
ไข่ต้มเป็นหนึ่งในอาหารที่เหมาะที่จะกินเวลา " เย็นหรือกลางดึก " เพราะช่วงที่เธอท้องว่างๆ เมื่อกินไข่ต้มเข้าไปจะอิ่มได้ทันที ต่างจากขนมถุงกรุบกรอบที่พลังงานสูง อ้วนง่ายแต่กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักที และยังได้สารอาหารดีๆ มากมายเป็นของแถมอีกด้วยนะ
ดังนั้น โละขนมหวาน แป้ง เนื้อสัตว์ติดมันออกจากตู้เย็น แล้วหันมากินไข่ต้มแทนดีกว่า อิ่มสบายท้อง หมดปัญหาอาหารไม่ย่อยเพราะกินมื้อหนักก่อนนอนได้อีกด้วยล่ะค่ะ
และแล้วก็มาถึงลำดับสุดท้ายแล้ว! นั่นคือ “ กล้วย ” นั่นเอง ! ( แนะนำให้เป็นกล้วยหอมนะคะ เพราะกล้วยน้ำว้ามีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง กินเยอะอาจอ้วนได้ )
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฮิตการลดน้ำหนักที่เรียกว่า " บานาน่าไดเอต ( Banana Diet ) " ที่นิยมแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นและมาถึงประเทศไทยด้วย มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่เคล็ดลับการกินกล้วยให้ผอมด้วยการ " กินกล้วยอย่างเดียวในมื้อเช้า " ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
โดยหลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว รอ 20-30 นาทีแล้วกินกล้วยกี่ใบก็ได้ให้อิ่ม ถ้าไม่อิ่มสามารถกินอาหารอย่างอื่นต่อได้ มีผู้สนใจทำตามสูตรนี้และน้ำหนักลดลงหลายคนเลยล่ะค่ะ
*แต่บทความนี้ไม่ได้แนะนำให้ใช้วิธีนั้นนะ!*
ยิ่งนำกล้วยไปผ่านความร้อน ประโยชน์ก็ยิ่งสูงมากขึ้น เพราะความร้อนเพิ่มการทำงานให้ " โอลิโกแซ็กคาไรด์ " ที่มีอยู่ในกล้วย ส่งผลต่อการทำงานของลำไส้ทำให้ไม่มีอาการท้องผูก
กล้วยที่ผ่านความร้อนมาแล้วยังมีรสหวานกว่าปกติ ทำให้เหมาะกับตอนที่ร่างกายต้องการของหวานๆ ขึ้นมาในระหว่างลดน้ำหนักค่ะ
เราเชื่อว่ามีสาวๆ หลายคนที่ยอมทนหิวไส้จะขาด " อดมื้อเย็น " หรือ " อดมื้อดึก " ทั้งที่ตัวเองต้องใช้สมองหรือพลังงานหนักในเวลานั้น เพราะเชื่อว่ากินเข้าไปแล้วจะสะสมทำให้อ้วนขึ้น แต่เธอรู้ไหมว่าเมื่อกระเพาะไม่มีอาหารเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน ( ท้องว่างนั่นเอง ) ร่างกายจะเกิดความเครียดและทำให้ลดน้ำหนักไม่ลงอยู่ดี
แม้ช่วงกลางคืนนั้นทำให้สะสมไขมันได้ง่ายกว่ากลางวัน แต่ Growth hormone ( ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต ) ก็จะหลั่งออกมาในเวลากลางคืนเช่นกัน ทำให้กลายเป็นช่วงเวลาของทั้ง “ การสะสม ” และ “ การซ่อมแซมร่างกาย ” ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับอาหาร 3 อย่างที่เราภูมิใจนำเสนอ ^0^ แค่นี้ก็ไม่ต้องทนหิวตอนดึกแล้ว อย่าลืมนะคะว่าถ้าเกิดหิวกลางดึกแต่อยู่ในระหว่างช่วงลดน้ำหนัก ก็ให้กิน “ โยเกิร์ต ” , “ ไข่ต้ม ” หรือ “ กล้วย ” ซะ รสชาติอร่อย พลังงานต่ำไม่ต้องกลัวอ้วน แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย
แน่ะๆ ไม่เชื่อกันล่ะสิ ไม่เชื่อต้องลอง! แต่ขอเตือนไว้ข้อหนึ่งว่า อย่าชะล่าใจกินเยอะมากเกินไปล่ะ เพราะแม้อาหารประเภทนี้พลังงานต่ำ แต่ก็ยังมีพลังงานอยู่ กินมากก็อ้วนได้ ยั้งๆ มือไว้บ้างนะเออ =w=
สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน ( ลาไปซื้อของพวกนี้เข้าตู้เย็นนี่แหละ -.- ) แล้วพบกันคราวหน้านะคะ ^^
=======================