ตัวไรฝุ่น คือ อะไร
ตัวไรฝุ่น (DUST MITE) สัตว์ที่มีขนาดเล็กมาก เป็นสัตว์จำพวกแมงตอนเกิด จะมีขา 6 ขา แต่พอเจริญเติบโตเต็มวัย จะมีขาเพิ่มอีก 2 ขา รวมเป็น 8 ขา ตัวมันเล็ก แค่ 0.1-0.3 มิลลิเมตรหรือเล็กกว่านั้น ทำให้เราไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็น ลักษณะตัวจะมีขนาดเล็ก กลม รี และมีสีขาวขุ่น
อาหารของตัวไรฝุ่น เซลล์ผิวหนังของคนและสัตว์เลี้ยงที่สลัดเซลล์ผิวออกมา เซลล์ผิวหนังของมนุษย์นั้นโดยทั่วไปจะหลุดลอกวันละประมาณ 1.5 กรัม เศษผิวหนัง 1 กรัม สามารถเลี้ยงไรฝุ่น 1,000,000 ตัว ได้ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอที่จะเลี้ยงตัวไรฝุ่นให้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
ที่อยู่อาศัย ชอบอาศัยอยู่ในที่ที่มีเส้นใย ขนสัตว์ ตัวไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ในที่มีอุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียสและอยู่ในที่มีความชื้นสูง 70% – 80% ไม่ชอบแสงสว่าง ไม่มีตาที่มองเห็น และไม่มีระบบหายใจ ตัวไรฝุ่นชอบอยู่ในที่ชื้น และ ที่มีฝุ่นละอองจำนวนมาก เช่น ที่นอน หมอนหนุน พรม เฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะที่หุ้มด้วยผ้า ตุ๊กตาขนฟู เพราะมีอุณหภูมิ ความชื้น เป็นที่อยู่อาศัยของตัวไรฝุ่น ตัวไรฝุ่นมีการขับถ่าย มูลต่อวัน วันละ 20-40 ก้อน และมูลของไรฝุ่น หมอนหรือที่นอนที่เราใช้มาแล้ว 1-2 ปีนั้น 10% ของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจากเจ้าตัวไรฝุ่นและสิ่งปฏิกูลของไรฝุ่น ออกไข่มามากขนาดนี้ใช้เวลาไม่นานก็สามารถจำนวนเป็นทวีคูณ ได้เลยทีเดียว
วงจรชีวิต ตัวไรฝุ่นจะมีวงจรชีวิต 5 ระยะ ตัวไรฝุ่นเข้าสู่ช่วงเจริญเติบโตเต็มวัยจะเริ่มทำการผสมพันธุ์ ซึ่งหลังจากผสมพันธุ์ได้ 3-4 วัน ตัวเมียจะเริ่มวางไข่เฉลี่ยวันละ 3-4 ครั้ง แต่ละครั้งตัวเมียสามารถวางไข่ได้เพียงครั้งละ 1-3 ฟอง โดยตลอดชีวิตของตัวไรฝุ่นเพศเมีย 1 ตัว จะสามารถออกไข่ได้ถึง 80-100 ฟอง จากนั้นไข่จะเริ่มฟักเป็นตัวอ่อนภายในเวลา 8-12 วัน เมื่อเข้าสู่ระยะกลางวัย จะมีขา 6 ขา และทำการลอกคราบหลายครั้ง หลังจากเจริญเติบโตเต็มวัย ตัวไรฝุ่นจะมีขาครบ 8 ขา ตัวไรฝุ่นจะมีช่วงอายุเพียง 2-4 เดือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหาร อุณหภูมิและความชื้นในอากาศ เมื่อไรฝุ่นตายไปซากของตัวไรฝุ่นก็จะเป็นสารก่อภูมิแพ้เช่นกัน
อันตรายจากตัวไรฝุ่น จากงานวิจัยได้พบว่า ตัวไรฝุ่น นั้นอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์มากนักแต่สิ่งที่ทำให้เกิดอันตรายนั้นก็คือ มูลของ ไรฝุ่น หรือเรียกอีกชื่อว่า กวานีน (Guanine) และการลอกคราบ เศษซากของตัว ไรฝุ่น ที่ตายไปแล้วจะเป็นสารโปรตีน มูลของไรฝุ่นจะมีลักษณะเป็นก้อนเมือก กลมๆ เหนียว ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้เช่นกัน เมื่อมูลของตัว ไรฝุ่น แห้งก็ง่ายต่อการฟุ้งกระจายไปในอากาศได้ง่ายทั้งหมดนี้รวมกันจะเป็นสารโปรตีนจำนวนมาก ซึ่งก็คือสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณที่มากเมื่อเราหายใจ นำฝุ่นละอองและสารโปรตีนเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานานๆจะก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เช่น อาการของโรคเยื่อบุจมูกอักเสบภูมิแพ้หรืออาการโรคหืด ซึ่งโดยส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการที่พบคือ อาการคันจมูก จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา เคืองตา ตาแดง มีน้ำตาไหล และมีขี้ตา แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หายใจเสียงดัง มีเสียงหวีด ความดันโลหิตลดลง ซึ่งอาจจะทำให้ช็อคเสียชีวิตได้