แชร์ประสบการณ์ครีมปรอท จากคนซื้อ สู่คนขาย สุดท้ายกลายเป็นคนป่วย
เรื่องที่ผมจะเขียนนี้เป็นประสบการณ์จริงที่ตัวผม กับแฟนพึ่งผ่านเหตุการณ์แย่ๆครั้งนี้มาด้วยกันครับ
เลยคิดว่าน่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่อาจจะหลงเข้าไปสู่วงจรนี้ว่าเราจะถอยห่างออกจากวงจรอุบาท นี้ได้อย่างไรครับ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน แฟนผมด้วยความที่เธอทำงานดูแลพื้นที่สำหรับให้ร้านค้ามาเปิดเช่า ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเจอ
พ่อค้าแม่ค้า มากหน้าหลายตา หลากหลายสินค้า จนวันหนึ่ง ก็มีพ่อค้าคนหนึ่งบอกว่า
พ่อค้า: เนี่ย..มีครีมหน้าขาวตัวหนึ่งใช้แล้วดีมากสนใจไปลองใช้ไหม
แฟน: ราคาเท่าไร
พ่อค้า: 500 บาท
แฟน: โห้ย ลุงหนูตังค์ไม่มีหรอก (เป็นการบอกปัดเชิงปฎิเสธ)
พ่อค้า: งั้นลุงให้ไปลองใช้ฟรีๆ ถ้าดีแล้วค่อยมาซื้อนะ
แน่นอนของฟรีครับ แฟนผมจึงรับมาโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ไม่พลาดที่จะลองใช้มัน ตอนแรกผมเองก็เห็นเธอใช้
ไม่ได้คิดอะไรนะครับ เพราะไม่เคยหาข้อมูลเรื่องครีมปรอทอะไรพวกนี้เท่าไร จนเริ่มเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
เธอใช้ตอนกลางคืนครับ หน้าดีแบบเทพมาก จากที่เคยมีสิวตอนก่อนมีประจำเดือน เม็ด สอง เม็ด ก็หายไปในข้ามคืน
สิวอุดตันก็หายไปครับ หน้าค่อยๆขาวใส ผมจำได้ว่าทุกวันที่ตื่นนอนมา ผมจะเห็นหน้าเธอดีขึ้นกว่าก่อนนอนทุกวัน
บางวันยังคิดเลยว่า เหมือนกับลงรองพื้นแล้วไม่ได้ล้างออกก่อนนอนเลยครับ หน้ามันเรียบเลียนมาก
ในตลอดระยะเวลาที่ใช้เกือบ 3 เดือน เธอก็พยายามคะยั้นคะยอ ให้ผมลองใช้เหมือนเธอ แต่ผม
เคยคิดตะหงิดๆใจตั้งแต่แรกแล้วว่า ครีมอะไรมันจะดีได้เร็วขนาดนี้ แต่แฟนก็เคยเอามาแต้มสิวของผมบ้างตรงบริเวณ
ที่เป็นสิวอักเสษ ปรากฎว่า คืนเดียวเท่านั้นครับ ยุบในขณะที่ ทาครีมของ smooth e แต้มสิว ยาแต้มสิวอื่นๆยังไม่อยาก
จะยุบเลย ตอนนั้นก็คิดว่าอ่อ ของมันเทพจริงๆฮะ แต่ผมก็ไม่เลื่อกที่จะทาเพราะกะว่ารอดูผลของแฟนระยะยาวก่อน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากผู้ใช้ สู่ผู้ขาย
จากที่เธอลองใช้หมดกระปุก แฟนผมด้วยความเป็นนักขาย ก็เลยมีไอเดียว่า แบบนี้รับมาขายเองเลยดีกว่าไหม
ก็เลยติดต่อคุณลุง เพื่อรับมาขาย เริ่มจากเอามาที่ละ 5 กระปุก มาขึ้นเรื่อยๆ เดือนแรก แฟนผมทำกำไร 1 หมื่น
เดือนที่สอง 2 หมื่น เดือนที่สาม 3 หมื่น นี้ขนาดราคาสินค้ากระปุกหลักร้อยนะครับ จากที่ผมเห็นแฟนกำไรดี
ก็เริ่มทำการส่งเสริม ทำโฆษณาในเน็ตให้ ช่วยไปส่งของ ให้ยืมเงินลงทุน ฯลฯ ด้วยความที่ผมเป็นคนคิดมาก
ก็พยายามเช็คว่า ครีมมีใบจดประกอบไหม ปรากฎว่าครีมมีใบจดประกอบถูกต้องตามกฎหมาย ลองดูข้อร้องเรียนต่างๆ
ในอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีครับ คนขายก็มีตัวตนจริง ที่สำคัญน้องคนที่เป็นเจ้าของยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย แต่เธอมีบ้านหลังใหญ่
มีรถเบ็นส์หลายคัน ก็เลยมั่นใจว่าของเธอน่าจะดีจริง นอกจากนี้ผมก็รู้อยู่ว่าบรรจุที่ตรงไหน ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่าแค่นี้น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่ง
ผมพลาดครับ....
จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้มันเริ่มมาจากที่ว่า วันหนึ่ง มีคนรู้จักแฟนผมเขาถามขึ้นมาว่า มั่นใจหรอว่าครีมที่เอามาขาย
ไม่มีสารปรอท แล้วเธอก็นำเอาเรื่องนี้ กลับมาเล่าให้ผมฟังซึ่งตอนนั้น เธอก็คิดว่า คนที่กำลังพูดเรื่องนี้ น่าจะอิทฉา
เธอมากกว่า เพราะเห็นเธอขายดี เลยพยายามใส่ความ ซึ่งแฟนผมก็นำเรื่องนี้ กลับมาเล่าให้ผมฟังที่บ้าน
แต่ผมกลับไม่ได้คิดแบบเธอ ผมกลับคิดว่า อาจจะเป็นจริง อย่างที่เขาสงสัยก็ได้ ผมเลยพยายามหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ต
เลยพบว่า มีครีมที่สามารถทำให้สวยได้ภายในข้ามคืนเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นในการใช้สารปรอท
หลังจากนั้นผมก็เลยตัดสินใจ ซื้อที่ตรวจสารปรอทจากมหาลัยมหิดลเพื่อความชัวร์ตอนแรกแฟนทำใจ
ไม่ได้ครับไม่ยอมให้ผมซื้อมาตรวจแต่ผมพูดกับเขาแล้วว่าถ้ามันมีสารปรอทจริง เราก็ไม่ควรที่จะขายมันต่อ
ลองนึกภาพง่ายๆก็ได้ครับเอาจากความรู้สึกจากตัวผมเองแค่สิวขึ้นแค่เพียงนิดเดียวผมยังต้องวิ่งไปให้ร้านฉีดสิวเพื่อให้ยุบทันที
แล้วถ้าเกิดคนที่ใช้ครีมปรอท เขามีอาการแพ้ทั้งหน้า ผมคิดว่ามันเหมือนกับการฆ่าเขาทั้งเป็น ซึ่งผมรับไม่ได้กับเรื่องนี้
สุดท้ายจึงตัดสินใจ ซื้อชุดตรวจจาก มหาลัยมหิดลมา ตอนที่ผม หยอดสาร ตรวจลงไป ผมตกใจมากเลยครับ ครีมเปลี่ยนเป็นสีชมพูทันที
ผมรีบไลน์ ไปบอกแฟน แฟนช็อคหน้า และก็ไม่เชื่อ ผมก็ย้ำกับเธออยู่หลายครั้งว่าผลออกมามีสารปรอทจริงๆตอนนั้นเธอร้อง
ไห้หนักมากครับมันเหมือนกับความฝันพังทลายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งผมเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่เพราะเรากำลัง
จะทิ้งรายได้เดือนละ 30000 บาทไปต่อหน้าต่อตา สุดท้ายใช้เวลาคุยกับแฟนอยู่หลายวันครับจนเธอตัดสินใจที่จะเลิกใช้มันและเลิกขายมัน
หลังจากนั้น ผมก็ได้ปรึกษา พี่ที่เป็นทนายความ ว่าควรทำเรื่องนี้อย่างไรดี พี่เขาก็ให้คำแนะนำว่า ถ้าเกิดว่าครีมของเรา
มีสารปรอทจริง แล้วลูกค้าเกิดอาการแพ้เราควรต้องชดใช้เขาเพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้อง แต่ก็เป็นความโชคดีของ
ผมกับแฟนครับ ที่เราเพิ่งเริ่มขาย ก็ยังไม่มีข้อร้องเรียนจากลูกค้าคนใด
-----------------------------------------------------------------------------------------------
จากผู้ขาย สู่ผู้ป่วย
แต่สิ่งที่ ผมคิดไว้ว่าจะเกิดก็คือ ตัวแฟนผมเอง เพราะเธอก็ได้ใช้ครีมดังกล่าว มาประมาณ 3 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้
เธอคลั่งไคล้ กับครีมดังๆมาก ยกให้ครีมอันนี้เป็นทีมระดับเทพ ผมจึงตัดสินใจบอกกับแฟนให้ค่อยๆหยุดใช้ครีมดังกล่าว
ซึ่งตอนแรกเธอก็ไม่กล้าหยุดเพราะกลัวจะ เกิดอาการแพ้ก็มีการคุยกันอยู่นานครับจนสุดท้าย แฟนก็ค่อยๆลดปริมาณลง
จากในรูปจะเห็นว่ามีผื่นขึ้นที่หน้าแฟนผมทั้งหน้าเลย ซึ่งถือว่าอาการ ไม่ค่อยรุนแรงมากเทียบกับคนอื่นที่ใช้ครีมปรอทมา
เป็นระยะเวลานานมันน่ากลัวจริงๆครับ ลองดูในอินเตอร์เน็ตก็ได้ครับคนที่ติดครีมปรอทมาเป็นระยะเวลานานเวลาที่หยุดใช้
หน้าพังทั้งหน้าเลยครับหลังจากที่ค่อยๆลดการใช้ครีมหรือลง ผมก็ค่อยค่อยเห็นสิวอักเสบพุดขึ้นแต่อย่างที่บอกครับว่า
ความโชคดีที่แฟนผมได้ใช้ครีมนี้มาไม่นานเลยทำให้สิวอุดตันที่เกิดขึ้นหลังจากหยุดใช้ครีมปรอทมีความรุนแรงไม่มากนัก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่อยากฝากไว้
สุดท้ายจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมอยากฝากแง่คิดกับเพื่อนเพื่อนอย่างนี้ครับ
1 ถ้าครีมอะไรก็ตาม เห็นผลแบบเร็วได้ในข้ามคืน เช่นถ้าทาวันนี้พรุ่งนี้ขาวเลย ก็ขอให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนครับว่า
มันเปลี่ยนแปลงเร็วผิดปกติไป อาจจะใส่สารอะไรบางอย่างซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นอันตรายต่อตัวเราในระยะยาว
2 อย่าเชื่อคำโฆษณาครับ ก่อนใช้ครีม อยากให้ลงทุนสักนิด ซื้อชุดตรวจมาเองเลยก็ได้ครับราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาทเอง
ซึ่งมันคุ้มกับการที่เราต้องไปรักษาหน้าหมดเงินหลายบาท ผมว่าหมดเงินยังไม่เท่าไหร่แต่ถ้าหน้าเราพังขึ้นมา
มันเจ็บปวดมากกว่าเราเสียเงินไปหลายเท่าครับ ผมเคย มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง แพ้ครีมแบบหน้าพังทั้งหน้า ผมว่า
มันเป็นความรู้สึกที่แย่นะครับ ไม่อยากออกไปเจอใคร ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ
3 คนสมัยนี้น่ากลัวครับ คนที่เค้าเอาครีมมาขายให้แฟนผมเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าครีมนั้นมีสารปรอท
แต่เขาไม่สนใจหรอกครับเงินเข้าตาแล้ว อะไรก็ทำได้ ผมว่า คนแบบนี้น่ากลัวครับ ไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร
ขอให้ตัวเอง ได้เงินก็เพียงพอเหมือนเรากำลังเอายาพิษไปขายให้กับคนอื่นซึ่งเรื่องนี้ผมถือว่าคนพวกนี้ แย่มากครับ
ก็ขอให้พิจารณาระวังตัวไว้ด้วยครับ
ปล.ผมเชื่อว่าหลังจากที่ผมเขียนกระทู้นี้ น่าจะมีหลายคน หลังไมค์มาถามว่าครีมชื่ออะไร ขอตอบตรงนี้เลยนะครับว่า
ขออนุญาตไม่ให้ข้อมูลตรงนี้ เรื่องจากไม่อยากมีปัญหาเรื่องคดีความกับเจ้าของครีมเพราะเรื่องดังกล่าวผ่านมาเกือบ 2 ปี
แล้วครับผมก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันครีมดังกล่าวที่เคยมีปัญหาเจ้าของเขาได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมไปเป็นอย่างไรการนำมาแชร์เรื่องนี้
ไม่ได้ต้องการที่จะมาบอกว่าครีมยี่ห้อไหนที่มีสารปรอท แต่อยากแชร์จากประสบการณ์ที่เคยผ่านเรื่องนี้มาให้เป็นแง่คิดครับ
หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจขอบคุณครับ
ขอบคุณกระทู้จากคุณ วีรยุทธ สมาชิกเว็บพันทิป